เรียกได้ว่า แก้วหัดดื่มเป็นของใช้สำคัญสำหรับเด็กเล็ก รวมถึงของใช้อื่น ๆ อีกมากมายเช่น ขวดนม , ที่คว่ำขวดนม , แปรงล้างขวดนม , นมผง , เสื้อผ้าเด็ก , คอกกั้นเด็ก , เครื่องอุ่นนม , จุกนมหลอก , ผ้าอ้อมเด็ก หรือ ที่ดูดน้ำมูกทารก ซึ่งของใช้เหล่านี้เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องเตรียมไว้ให้ลูกน้อยได้ใช้กันอย่างแน่นอน
แล้วเมื่อถึงเวลาที่ลูกน้อยจะโบกมือลาเต้านม เปลี่ยนมาใช้แก้วหัดดื่ม หรือถ้วยหัดดื่มแทน จะช่วยให้ลูกน้อยได้ฝึกพัฒนาการในการดื่มอย่างอื่นได้อีก เช่นดื่มน้ำผลไม้ ดื่มน้ำซุป เพื่อให้เค้าได้คุ้นชินกันการดื่มจากแก้วมาขึ้น เพราะเมื่อถึงเวลาที่พวกเขาจะต้องหย่านมหรือเลิกใช้ขวดนมจริง ๆ พวกเขาจะได้ไม่งอแง แต่สามารถหยิบจับเพื่อดื่มนมได้ทันที
ในบทความนี้จะมาเจาะลึกกับเรื่องราวของแก้วหัดดื่มมาให้ได้รู้จักถึงวิธีการใช้ การทำความสะอาด รวมถึงการเลือกที่ต้องเป็นมาตรฐาน Food Grade และปลอดสาร BPA Free ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ควรอ่านบทความนี้เพื่อทำความเข้าใจถึงการเลือกซื้อเพื่อให้ลูกรักได้ใช้ของที่ปลอดภัย ปราศจากสารปนเปื้อน เพราะลูกรักคือดวงใจของคุณพ่อคุณแม่ ดังนั้นต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกน้อยเสมอ
แก้วหัดดื่ม คืออะไร
เป็นอุปกรณ์สำหรับเด็กเล็กที่มีอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป การที่คุณพ่อคุณแม่ให้ลูกได้ฝึกใช้ก็เพื่อให้ลูกได้เริ่มหัดดื่มนม หรือน้ำได้ด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมสร้างพัฒนาการตามวัย จะช่วยให้ลูกเริ่มถือแก้วดื่มนมได้เอง เพื่อเลิกดื่มนมจากขวดนมอีกต่อไป โดยออกแบบมาให้มีหูด้านข้างแก้วเพื่อหยิบจับได้ง่าย ไม่ให้ของเหลวภายในแก้วหกเลอะเทอะ
ประเภทของแก้วหัดดื่ม แบ่งได้ 3 ประเภทดังนี้
1.แบบจุกแข็ง
แก้วหัดดื่มแบบจุกแข็ง เป็นตัวดูดพลาสติกที่ค่อนข้างแข็ง ต้องคอยระมัดระวังเวลาที่ลูกดูดน้ำ ถ้าไม่ระวังอาจเป็นอันตรายต่อเหงือกและฟันของเด็กได้ ตัวดูดนี้มีความทนทาน ใช้งานได้นาน ทำความสะอาดง่าย
2.แบบหลอด
แก้วหัดดื่มแบบหลอดดูด เป็นหลอดที่เหมาะสำหรับเด็กโตขึ้นมาหน่อย สักอายุประมาณ 8 เดือนขึ้นไป ช่วยให้เด็กมีพัฒนาการด้านการจับ ใช้กล้ามเนื้อมือได้มากขึ้น สามารถใช้ปากในการดูดน้ำจากขวด โดยไม่ต้องยกแก้วขึ้นมา แต่หลอดดูดอาจเป็นแหล่งสะสมเชื้อแบคทีเรียได้จึงต้องใส่ใจและทำความสะอาดให้ดี
3.แก้วหัดดื่มจุกนิ่ม
แบบจุกนิ่มทำด้วยยางซิลิโคน ให้สัมผัสที่นิ่ม ไม่ทำให้เหงือกเจ็บหรือเจ็บฟัน ถ้าเผลอกัดหลอดก็ไม่เป็นไร จุกประเภทนี้จะช่วยทำให้ดูดน้ำง่าย เมหาะสำหรับเด็กที่เริ่มหัดดื่ม การทำความสะอาดต้องถอดชิ้นส่วนออกมาทำความสะอาดทุกชิ้น
วัสดุของแก้วหัดดื่มมีหลายประเภท
1.แก้วหัดดื่มแบบพลาสติก
พลาสติกมีหลายประเภท มีทั้งแบบ Pet ไม่ทนความร้อน PP PS มีทั้งราคาถูกและปานกลาง มีน้ำหนักเบา ถือจับได้ง่าย มีหลายรูปทรง ขวดแบบเว้าแคบ ทำให้ล้างทำความสะอาดยาก แต่ด้วยพลาสติกมีอายุการใช้งานที่สั้น เมื่อหมดอายุการใช้งานต้องเปลี่ยนทันที เพราะถ้าใช้ต่อลพาสติกจะปล่อยสารเคมีออกมาปนเปื้อนในของเหลว อาจส่งผลต่ออันตรายต่อเด็กได้
2.แก้วหัดดื่มแบบแก้ว
แบบแก้วจะมีความทนทาน แข็งแรง มีลักษณะรูปทรงเป็นแบบปากกว้าง มีทั้งแบบหลอดดูดและแบบปากจับ หากใช้งานมากกว่า 1 ปีแล้ว สามารถนำไปรีไซเคิลได้ ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ แก้วหัดดื่มมีน้ำหนักมาก เด็กอาจถือไม่สะดวก สามารถแตกหักได้ง่าย แก้วหัวดื่มประเภทนี้หาซื้อยาก ราคาค่อนข้างสูง ไม่ค่อยเป็นที่นิยม ไม่เหมาะกับให้เด็กใช้งาน
3.แก้วหัดดื่มแบบสแตนเลส
ประเภทนี้จะผลิตจากสแตนเลสคุณภาพสูงมีแบบ Food Grade แบบ Grade 316 เป็นที่นิยมคือแบบ Stainless Steel ซึ่งเป็นเกรดที่ดีที่สุด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สแตนเลสมีความทนทานไม่แตกง่าย ใส่เครื่องดื่มร้อนเย็นได้สบาย ทนความร้อนได้มากกว่า 100 องศา ทำความสะอาดง่าย ไม่มีวันหมดอายุ ไม่ต้องซื้อซ้ำบ่อย ราคาปานกลางไปจนถึงราคาแพง ส่วนใหญ่ขายตามร้านขายผลิตภัณฑ์เพื่อแม่และเด็ก
แก้วหัดดื่มเริ่มใช้ตอนไหน ควรใช้ตอนกี่เดือน ใช้ยังไง
เหมาะสำหรับลูกที่มีอายุ 6 เดือนขึ้นไป เพราะลูกวัยนี้จะสามารถหัดนั่ง และมีพัฒนาการในการทรงตัวได้ดีขึ้นเอง ไม่ว่าจะหยิบ จับ ยก ถือ กระดกแก้วได้ตัวเอง
แก้วหัดดื่มมีประโยชน์อย่างไร
- ช่วยให้ลูกได้เรียนรู้การใช้อุปกรณ์ใหม่ ๆ เนื่องจากมีหลากหลายสีสัน ลวดลายน่ารัก ช่วยให้ลูกสนใจในการหยิบจับได้ด้วยตัวเอง
- จะช่วยเพิ่มพัฒนาการต่าง ๆ ได้ด้วยตัวเอง เช่น รู้จักการหยิบ จับ การกระดกแก้วน้ำ
- ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อแขน และกล้ามเนื้อนิ้วให้แข็งแรง
- จะช่วยให้ปลอดภัยจากการสำลักน้ำ
- สว่นมากจะมีตัวหลอดมักติดมากับแก้วอยู่ ทั้งนี้เพื่อป้องกันอันตรายจากสิ่งของไหลลงคอได้
- จะช่วยรักษารูปฟันของลูกให้สวยงาม
คุณสมบัติแก้วหัดดื่มที่ดี
- มีหลอดกันหก Spill-proof
- สายหลอดดูดลูกตุ้มที่ทำให้ดูดได้ทุกท่วงท่า ท้องไม่อืด ไม่สำลัก
- คว่ำแล้วน้ำไม่หก
- มี BPA Free ต้มลวกนึ่งภาชนะได้
- ตกแล้วไม่แตก
ข้อควรระวังในการใช้แก้วหัดดื่ม
ในการใช้อาจมีเชื้อโรคต่าง ๆ อาจตกค้างได้ เช่น เชื้อแบคทีเรีย เชื้อราต่าง ๆ ไม่ว่จะล้างสะอาดแค่ไหน แต่เชื้อโรคก็สามารถเกิดขึ้นได้ตามซอกเล็กซอกน้อยที่เข้าทำความสะอาดไม่ถึง ยิ่งแก้วแตกร้าวก็อาจทำให้เชื้อโรคเกิดขึ้นได้
ลูกน้อยอาจเกิดฟันผุจากการดื่มน้ำผลไม้ได้เพราะมีส่วนประกอบเป็นน้ำตาล ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงไม่ให้เด็กกินตอนกลางคืน อาจทำให้เกิดการสะสมภายในช่องปากได้
อาจเกิดการบาดเจ็บได้ เมื่อต้องใช้ขณะเดินทาง เพราะอาจเกิดการกระแทกหน้า ฟัน และเหงือก
วิธ๊เลือกซื้อแก้วหัดดื่ม
1.เลือกที่ผลิตจากวัสดุปลอดสารพิษที่มีเครื่องหมาย BPA Free เป็นสัญลักษณ์ที่การันตีว่าทำจากวัสดุ Food Grade และมี อย. เพราะจะต้องใช้บรรจุเครื่องดื่มให้กับลูกน้อย จึงต้องใส่ใจอย่างพิถีพิถันเป็นพิเศษ
2.เลือกที่มีระบบ Spill Free ช่วยให้น้ำหรือของเหลวไม่ไหลถ้าไม่ออกแรงดูด จะเหมาะกับเด็กวัยที่กำลังหัดดื่ม จะช่วยทำหน้าที่ไม่ให้น้ำไหลออกมามากเกินไป ป้องกันการสำลักน้ำได้อย่างดี
3.เลือกที่ลูกน้อยจับถนัดมือ เพราะถ้าหูจับไม่ดีไม่ถนัด อาจทำให้ลูกไม่ชอบใจและไม่อยากใช้อีกเลย
4.เลือกที่ใช้ถ้วยที่มีจุกซิลิโคนแบบนิ่ม คล้ายจุกนม ควรเลือกใช้แบบที่มีช่องเปิดปิด จะช่วยให้นมหรือน้ำไม่หกออกมา ช่วยลดฟองอากาศที่อาจเข้าไปในท้องของเด็กขณะดื่ม ลดอาการเกิดลมก๊าซในท้อง
แก้วหัดดื่มกับสิ่งที่ต้องรู้
วัสดุพลาสติก BPA Free คืออะไร
BPA ย่อมาจาก Bisphenol A คือสารเคมีประเภทโพลีคาร์บอเนต Polycarbonate Plastic เป็นวัตถุดิบสำคัญที่นำมาใช้ในการผลิตพลาสติก เช่นชามพลาสติก ขวดน้ำพลาสติก ถ้วยพลาสติก
BPA มีคุณสมบัติช่วยให้ผลิตภัณฑ์พลาสติกมีความแข็งแรง ใส และไม่แตกง่าย แต่ BPA มีข้อเสียคือเป็นสารก่อมะเร็ง และสร้างความผิดปกติให้กับเซลล์ในร่างกาย โดยสาร BPA ในผลิตภัณฑ์พลาสติกจะหลุดออกมาปะปนกับอาหารที่บรรจุในภาชนะ หากผลิตภัณฑ์พลาสติกพวกนี้โดนความร้อนจากการต้ม นึ่ง สเตอริไลซ์ หรือการตากแดดเป็นเวลานาน อาจส่งผลต่อสุขภาพของผู้บริโภค
อันตรายของสาร BPA เมื่อเข้าสู่ร่างกาย
สาร BPA ที่ปนเปื้อนมากับผลิตภัณฑ์พลาสติกและอาหาร จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้บริโภค สำหรับเด็กทารกที่ได้รับสาร BPA สะสมเข้าร่างกาย จะส่งผลกระทบที่รุนแรงกว่าในผู้ใหญ่ โดยส่งผลต่อร่างกายดังนี้
อันตรายต่อเด็ก
1.เมื่อเด็กได้รับสาร BPA เข้าสู่ร่างกาย ส่งผลต่อการสร้างเซลล์สมอง ระบบประสาท ความทรงจำ การพัฒนาการ การเรียนรู้ของเด็ก
2.มีผลต่อระบบฮอร์โมนในร่างกาย ทั้งการเจริญเติบโตและการสืบพันธุ์ เด็กจะเป็นหนุ่มเป็นสายเร็วเกินไป และเด็กเองก็จะมีแนวโน้มที่อาจจะเป็นโรคอ้วน โรคสมาธิสั้น ก่อให้เกิดความเสี่ยงโรคเบาหวาน โรคหัวใจ หากสะสมในร่างกายมากเท่าไดจะยิ่งไปลดศักยภาพการทำงานของร่างกายได้มากขึ้น
อันตรายต่อผู้ใหญ่
1.ในผู้หญิงที่ได้รับสาร BPA จะทำให้ประสิทธิภาพในการปฏิสนธิของไข่ลดลง ส่งผลกระทบต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ และเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านม
2.ในผู้ชายที่ได้รับสาร BPA อาจทำให้สมรรถภาพทางเพศลดลง รวมถึง DNA ในสเปิร๋มถูกทำลาย ส่งผลให้จำนวนและการเคลื่อนไหวของสเปิร์มลดลง เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากได้
3.ในผู้หญิงตั้งครรภ์ หากได้รับสาร BPA สงผลต่อการเจริญเติบโตของตัวอ่อนและมีโอกาสในการแท้งได้ ซึ่งความผิดปกติของโครโมโซมที่เกิดขึ้น อาจส่งผลให้เด็กในครรภ์มีโอกาสเป็นโรคดาวน์ซินโดรมและไฮเปอร์แอคทีฟได้เช่นกัน
การหลีกเลี่ยงสาร BPA ได้อย่างไร
1.เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์ BPA Free
ไม่ว่าจะผลิตภัณฑ์พลาสติก ขวดน้ำ ขวดนม ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์ BPA Free กำกับไว้บนฉลาก
2.หลีกเลี่ยงพลาสติกที่มีเครื่องหมายรีไซเคิลที่ระบะหมายเลข 3 PVC และหมายเลข 7 Other
สังเกตผลิตภัณฑ์พลาสติกจะมีสัญลักษณ์กำกับไว้ว่าพลาสติกสามารถนำมีไซเคิลได้ไหม โดยสัญลักษณ์รีไซเคิลจะมีหมายเลข 1-7 กำกับไว้ ผลิตภัณฑ์นั้นเป็นพลาสติกประเภทใด ฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้พลาสติกที่มีเครื่องหมายรีไซเคิลหมายเลข 3 และหมายเลข 7 เนื่องจากในพลาสติกนี้มีสาร BPA เมื่อพลาสติกโดนความร้อนจะทำให้เกิดสารปนเปื้อนกับภาชนะนั้น ๆ
3.หลีกเลี่ยงการอุ่นอาหารในภาชนะพลาสติก
ควรเลือกพลาสติกที่สามารถใช้ภาชนะพลาสติกสำหรับเข้าไมโครเวฟมาเป็นภาชนะอุ่นอาหาร และไม่ควรนำภาชนะพลาสติกเข้าไมโครเวฟ เพราะถ้าภาชนะนั้นโดนความร้อนจะทำให้สาร BPA ที่อยู่ในภาชนะ ปนเปื้อนออกมากับอาหารที่บรรจุในภาชนะนั้น
BPA Free คืออะไร
BPA Free คือผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนประกอบของสาร BPA ที่จะทำให้เกิดความเสี่ยงจากโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ที่บริโภคอาหารในภาชนะเหล่านี้ มั่นใจได้ว่าภาชนะที่มี BPA Free ปลอดภัยต่ออาหารและเครื่องดื่ม เมื่อถูกความร้อนจะไม่มีสารปนเปื้อนออกมากับอาหาร
สาเหตุที่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์ BPA Free
เราทราบกันดีแล้วว่า BPA Free คือผลิตภัณฑ์หรือภาชนะที่ปราศจากสาร BPA ที่ไม่ใช้สารประกอบอินทรีย์ Bisphenol A ในการสร้าง สำหรับเหตุผลที่ต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์ BPA Free เพราะว่ามีความปลอดภัยต่อร่างกาย มั่นใจได้ว่ารับประทานอาหารในภาชนะที่มี BPA Free ไม่เกิดอันตรายจากสาร BPA ดังนั้นต้องเลือกภาชนะที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ โดยมีสัญลักษณ์ BPA Free กำกับไว้
มาตรฐาน Food Grade คืออะไร
Food Grade คือ คำสำหรับบอกถึงบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากวัสดุที่ปลอดภัย ปลอดสารเคมีตกค้าง ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าบรรจุภัณฑ์ทีใช้รองรับอาหาร ใส่อาหารจะไม่มีสิ่งเจือผนและส่งผลร้ายต่อร่างกาย โดยเราสังเกตบรรจุภัณฑ์ฟู้ดเกรดได้ง่ายเพียงดูว่ามีตราสัญลักษณ์เป็นรูปแก้วไวน์กับส้อม
ทำไมต้องใช้คำว่า Food Grade ในอุตสาหกรรมอาหาร เพราะปัจจุบนมีการใช้วัสดุที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นพลาสติก กระดาษ เข้ามาทำเป็นอุปกรณ์เครื่องครัว ตลอดบรรจุภัณฑ์ เพื่อผู้บริโภคได้รับประทานอาหารที่ปลอดภัย และเพื่อไม่ให้สารเคมีตกค้างบนอาหารจนเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคได้
FDA หรือ องค์การอาหารและยาในสหรัฐอเมริกา ได้เริ่มกำหนดมาตรฐาน Food Grade เพื่อให้ผู้ผลิตในอุตสาหกรรมได้เลือกใช้วัสดุให้เหมาะสมในทุกกระบวนการการผลิตอาหาร ไม่ว่าจะเตรียมอาหาร บรรจุอาหาร เพื่อความปลอดภัยต่อผู้บริโภค และต่อมากลายเป็นมาตรฐานที่ทุกประเทศต่างใช้กัน
วิธีทำความสะอาดแก้วหัดดื่ม
อันดับแรกแยกส่วนประกอบของขวดหัดดื่มออกให้หมด
- เริ่มจากให้ถอดฝาขวดแก้วหัดดื่มออกมา แล้วถอดตัวจุกออกมาจากหลอดดูดเพื่อทำการล้างทั้งสองส่วน
- ตัวหลอด ให้ใช้แปรงล้างหลอดสอดเข้าไปในตัวหลอด ทั้งด้านบนหลอดและด้านล่างของหลอด
- ใช้แปรงล้างหลอด ล้างเข้าไปในตัวจุกแหย่เข้าไปทำความสะอาด
- ใช้แปรงล้างขวดนมที่เป็นซิลิโคน ขัด ๆ ถู ๆ บริเวณรอบฝาปาก
- ใช้แปรงล้างขวดนมที่เป็นซิลิโคนหรือฟองน้ำที่มีความนุ่มล้างขวดนม ใม่ให้บาดขวดเด็ดขาด เพราะถ้าขวดมีรอยบาดจะทำให้อายุการใช้งานสั้นลง
- หลังจากขัดถูทุกส่วนประกอบเสร็จแล้ว ให้ล้างน้ำสะอาดให้นานที่สุด
- จากนั้นนำไปนึง อบ ได้ทันที โดยตัวขวดทนอุณหภูมิได้ถึง 120 องศา ตัวจุกตัวหลอดทนอุณหภูมิได้ 180 องศา สามารถอบนึ่งได้
ข้อแนะนำในการทำความสะอาด
- ก่อนใช้งานครั้งแรก ควรล้างด้วยน้ำสะอาด เพื่อชำระล้างสิ่งสกปรก
- ให้ใช้ฟองน้ำ หรือ ผ้านุ่มทำความสะอาด
- ทำความสะอาดได้ในเครื่องล้างจาน
- แก้วน้ำดื่ม และจุกหัดดื่ม สามารถฆ่าเชื้อโดยวิธีการต้ม แช่ในน้ำเดือด
- มิจับให้ทำความสะอาดโดยใช้น้ำยาล้างทำความสะอาดสำหรับเด็ก และด้วยวิธีการต้ม แช่ในน้ำเดือด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับแก้วหัดดื่ม
oจำเป็นไหม
แก้วหัดดื่มเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการได้ดี ถูกออกแบบมาให้ลูกได้ฝึกหยิบจับด้วยตัวเอง ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแขน นิ้ว มือ และถือแก้วน้ำเพื่อกระดกดื่มได้เอง ช่วยให้ลูกเลิกติดขวดนมได้ดี
oนึ่งได้ไหม
สามารถนำไปนึ่งหรืออบได้ทันที หลังใช้เสร็จเพื่อฆ่าเชื้อโรค
ขวดหัดดื่ม เลือกยังไง ใช้แบบไหนดี
สรุป
เป็นอย่างไรกันบ้าง คุณพ่อคุณแม่คงจะพอได้ไอเดียในการเลือกซื้อแก้วหัดดื่มกันบ้างแล้ว สิ่งสำคัญคือควรเลือกให้กับลูกเมื่ออายุ 3 เดือน ขึ้นไป เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อแขน นิ้วมือ ให้กับลูกน้อยได้แข็งแรงมากขึ้น
เป็นการเสริมสร้างพัฒนาการก้าวแรกให้กับลูก ซึ่งการใช้งานควรให้เวลากับลูกได้ฝึกใช้ เพราะเด็กบางคนอาจจะยังติดขวดนมอยู่ ค่อย ๆ เริ่มฝึกเริ่มสอนให้กับลูก ระหว่างนี้อาจจะหาของเล่นเด็กมาดึงดูดความสนใจให้ลูกหันมาสนใจในการใช้ก็จะช่วยได้อีกทางหนึ่ง.
ตู่ คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวผู้สตรอง ปัจจุบันทำงานเป็นนักวิชาการด้านการพัฒนามนุษย์ และสังคม ประสบการณ์เป็นวิทยากรด้านการเลี้ยงดูเด็ก และ จิตวิทยาวัยรุ่น และเป็นนักเขียนบทความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับแม่และเด็ก
แก้วหัดดื่ม OzonebabyShop
-ตัวขวดทำมาจากพลาสติก PP + PC ปลอดภัย
-ดีไซน์น่ารัก รูปทรงจับถนัดมือ ทนความร้อนสูง
แก้วหัดดื่ม Richell
-เหมาะสำหรับเด็ก 6 เดือน ขึ้นไป ดีไซน์ป้องกันน้ำไหลหก
-สามารถทนความร้อนได้ถึง 140 องศา และ -20 องศา
แก้วหัดดื่ม Bbox
-มีวาล์วป้องกันน้ำหก กันสำลัก สามารถนอนดื่มได้
-สามารถเขย่าได้ คว่ำได้ ตกพื้นแล้วไม่แตก
แก้วหัดดื่ม Molimore
-ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
-ขนาดของสินค้า 250 มิลลิลิตร / 350 มิลลิลิตร
แก้วหัดดื่ม QOOC Thailand
-ออกแบบเพื่อช่วยลดปริมาณแก๊สและลดการสำลัก
-ขวดสามารถเข้าไมโครเวฟและเครื่องล้างจานได้
แก้วหัดดื่ม Nanny
-ดีไซน์ลวดลายสวยงาม ใช้สี Food Grade ในการพิมพ์
-เหมาะสำหรับเด็ก 12 เดือนขึ้นไป ทำความสะอาดได้ง่าย
แก้วหัดดื่ม DODOLOVE
-ขนาดของสินค้า กว้าง 6.3 ซม. x สูง 17 ซม.
-ขนาดของสินค้า 300 มิลลิลิตร
แก้วหัดดื่ม Bala Baby
-ฝาปิดมิดชิดไม่หกเลอะเทอะและรั่วซึมง่าย
-มีปุ่มรองตรงก้นแก้ว ป้องกันความร้อน
แก้วหัดดื่ม PUR
-ที่จับออกแบบมาจับถนัดมือ ถือง่าย
-เหมาะสำหรับเด็ก 6 เดือนขึ้นไป
แก้วหัดดื่ม IKEA
-ขนาดของสินค้า 100 มิลลิลิตร
-วัสดุทำมาจากพลาสติกปลอดสารพิษ แข็งแรง ไม่แตกง่าย