10 ที่คว่ำขวดนม ยี่ห้อไหนดี 2024 หลายแบบ ใช้ดี สวยๆ ใช้งานง่าย

ที่คว่ำขวดนม คืออะไร

เครื่องใช้สำหรับทารก เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับเมื่อเราล้างขวดนมเสร็จเรียบร้อยแล้ว จำเป็นที่จะต้องมีที่คว่ำสำหรับขวดนม และฝาจุกนมให้แห้ง ในบางรุ่น หรือบางยี่ห้อ มีการผลิตออกมาแบบมีฝาปิด เพื่อป้องกันเชื้อโรค และสิ่งสกปรกจากภายนอก ส่วนใหญ่แล้วจะมีที่คว่ำ หรือแขวนขวดนมได้หลายขวด เหมาะสมอย่างมากสำหรับการมีขวดนม ไว้สำหรับผลัดเปลี่ยนในการใช้จำนวนหลายขวดร่วมด้วย

วัสดุที่นำมาผลิตเป็นที่คว่ำสำหรับขวดนม หรือ Baby Bottle Drying Racks นั้นจะเป็นพลาสติกที่ผ่านมารับรองมาแล้วว่า ได้รับมาตรฐาน และปลอดภัยอย่างสูงสำหรับเด็กทารก มีทั้งแบบสามารถพกพาสะดวก ที่เป็นแบบฐาน และสีก้านแยกออกมาคล้ายกับกิ่งของต้นไม้ และเป็นแบบกล่องเก็บ ด้านในจะมีที่คว่ำขวดนม แยกออกทั้งขวดนม และจุกดูดนม

เราต่างรู้กันว่าของใช้ทุกอย่าง ที่เกี่ยวกับเด็กทารกนั้น จำเป็นที่จะต้องคิดถึงเรื่องความสะอาดมาเป็นอันดับแรก เพราะทารกแรกคลอดในระยะ 1-3 เดือนแรกนั้น ยังมีภูมิคุ้มกันที่ไม่แข็งแรง และรวมถึงเด็กทารกที่กำลังเจริญเติบโตด้วยแล้ว จึงจำเป็นที่จะใส่ใจทั้งในเรื่องความสะอาด และความปลอดภัยของวัสดุ ที่นำมาผลิตเป็นเครื่องใช้ให้กับทารก รวมถึงการล้างทำความสะอาดง่ายของที่คว่ำขวดนม

ประโยชน์ของที่คว่ำขวดนม

เมื่อเรารู้แล้วว่า เครื่องใช้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับทารกนั้น ต้องมีความสะอาด หรือ Hygienic นั้น โดยเฉพาะเครื่องใช้ที่เกี่ยวกับทารก ในการสัมผัสกับอาหาร หรือสิ่งที่เข้าไปทางปากร่วมด้วย ซึ่งขวดนมถือว่าเป็นเครื่องใช้ที่ทารก จำเป็นต้องใช้หลังจากการคลอด ไม่ว่าจะเป็นนมชงในวัยที่โตขึ้นแล้ว หรือน้ำนมแม่ที่ได้จากการปั๊มเก็บไว้ก็ตาม การนำไปเติมในขวดนม ไว้สำหรับทารกเมื่อมีความจำเป็นต้องออกนอกสถานที่

ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นตัวของที่คว่ำสำหรับขวดนม ที่ต้องเน้นในการเลือกวัสดุ และรูปแบบ ที่ปลอดภัยและได้รับมาตรฐาน หรือการใช้ที่จำเป็นต้องเน้นหนัก ในเรื่องของการรักษาความสะอาดอยู่ตลอด ซึ่งหมายถึงเครื่องใช้ชิ้นนี้จำเป็นต้องทำความสะอาดง่าย และช่วยดูแลขวดนม และส่วนประกอบต่างๆ ของขวดนม ให้มีความสะอาด, พร้อมใช้งานอยู่ตลอดร่วมด้วย ก่อนที่เราจะเลือกซื้อมาใช้งานนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องรู้ว่า เครื่องใช้ชนิดนี้มีประโยชน์อะไรบ้าง

1.สะอาด

เมื่อเรารู้แน่แล้วว่า ทุกข้าวของเครื่องใช้ของเด็กทารก จำเป็นต้องเน้นในเรื่องของความสะอาด ซึ่งอาจไม่ได้หมายถึง การล้างทำความสะอาดเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงการป้องกันไม่ให้เครื่องใช้ส่วนตัวของทารกนั้น ปนเปื้อนจากสิ่งสกปรก หรือเชื้อโรคต่างๆ ที่เราอาจจะไม่สามารถมองเห็นได้ แต่เราสามารถป้องกันได้

ซึ่งหลังจากที่เราล้างทำความสะอาดขวดนม ที่นอกจากต้องใส่ใจเรื่องคราบนม หรือการล้างทำความสะอาดในทุกซอกทุกมุมแล้วนั้น เมื่อล้างทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อย การมีที่คว่ำขวดนมไว้สำหรับเพื่อให้ด้านในขวดนม และจุกนมที่เป็นยาง, พลาสติก หรือซิลิโคนแห้ง ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจไม่น้อยไปกว่า การล้างทำความสะอาดตัวขวดนม

เพราะหากด้านในขวดนมไม่แห้งดี หรือมีหยดน้ำหลงเหลืออยู่ นั่นอาจไม่ได้หมายถึงกลิ่นอับที่มีอยู่ด้านในขวดนมเพียงเท่านั้น แต่อาจนำมาซึ่งอาการท้องเสีย หรือความเจ็บป่วยที่อาจเกิดขึ้นได้กับทารก เหมือนกับการเลือกของใช้ให้กับทารก อย่างเช่น ที่ดูดน้ำมูกทารก , เสื้อผ้าเด็ก , ผ้าคลุมให้นม , แปรงสีฟันเด็ก , จุกนมหลอก , แปรงล้างขวดนม , เครื่องอุ่นนม , ขวดนม , นมผง , คอกกั้นเด็ก ที่เราควรมีการใส่ใจรายละเอียด และเน้นในเรื่องความสะอาดเป็นหลักสำคัญ

2.สะดวก

สำหรับทารกที่อยู่ในช่วงเวลาแรกคลอดนั้น จะมีความถี่ในการดูดนม ทั้งจากนมจากเต้า หรือนมที่ได้จากการปั๊มเก็บไว้ก็ตาม จะอยู่ที่ 8-12 ครั้งต่อวัน หรือ 2-3 ชั่วโมงต่อการหิวของทารก 1 รอบนั่นเอง ดังนั้นการมีเตรียมขวดนมหลายขวด อาจไม่เพียงพอต่อการใช้งาน เพราะต้องมีการล้างขวดนมที่บ่อย เพื่อเตรียมสำหรับมื้อต่อๆ ไปที่เราอาจจะไม่มีเวลาล้างตลอดเวลาร่วมด้วย

ความสะดวกในการหยิบขวดนมมาใช้งาน ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่สามารถมองข้ามไปได้เลย เพราะอย่างที่พ่อแม่มือใหม่จะได้เรียนรู้จากประสบการณ์ การมีลูกครั้งแรกมาแล้วว่า ในแต่ละชั่วโมงจะมีงานที่เร่งรีบที่จะต้องทำ เกี่ยวกับทารกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการป้อนนม, การอุ้มให้เรอ, พาไปนอน และการเปลี่ยนผ้าอ้อม ทั้งหมดนี้หากเรามีที่คว่ำขวดนม ที่จะช่วยให้ความสะดวก ก็จะเป็นการแบ่งเบาภาระ และมีเวลาที่จะไปทำงาน หรือดูแลทารกในด้านอื่นๆ ต่อไปได้อีก

3.แห้งเร็ว

เราลองคิดดูว่า หากเราไม่มีเครื่องใช้ที่เป็น ที่คว่ำสำหรับขวดนมโดยเฉพาะแล้วนั้น หลังการล้างทำความสะอาดขวดนมทุกครั้ง เราอาจจะต้องไปวางรวมกับกับ ที่วางถ้วยชาม หรือวางหงายทิ้งไว้ เมื่อถึงเวลาที่ต้องนำขวดนมมาใช้ใน 2-3 ชั่วโมงถัดไปนั้น ด้านในขวดนมก็ยังไม่แห้ง และหลายคนอาจจะมีการชงนมใส่ลงไปทันที

สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุ และปัจจัยที่ทำให้ทารกมีอาการตั้งแต่ ปวดท้อง, การถ่ายเหลว, ถ่ายเป็นมูกเลือด, อาเจียน หรือร่วมกับการมีไข้สูง อีกทั้งขวดนมที่มีการล้างทำความสะอาด แล้วไม่มีที่คว่ำเป็นสัดส่วน จนทำให้การวางขวดนมที่มีน้ำด้านในนานๆ อาจก่อให้เกิดเชื้อราอย่างไม่ตั้งใจอีกด้วย

ซึ่งหากเราเลือกใช้ที่คว่ำสำหรับขวดนมโดยเฉพาะ ผ่านการเลือกจากวัสดุที่ได้รับมาตรฐาน และมีความปลอดภัยแล้วนั้น นอกจากจะช่วยให้การดูแลทารก ห่างไกลจากการเจ็บไข้ไม่สบายแล้ว ยังช่วยในการทุ่นแรงของพ่อแม่ สำหรับการหยิบจับขวดนมมาใช้ในครั้งต่อไป ที่ขวดนมจะมีทั้งความสะอาด, ด้านในขวดนมแห้ง รวมถึงไม่ว่าจะไปเดินทางไปไหน ที่คว่ำสำหรับขวดนมนี้ ก็ยังพกพาสะดวก และมีการทำความสะอาดง่ายไปพร้อมๆ กัน

4.ปราศจากเชื้อโรค

นอกจากการมีที่คว่ำสำหรับขวดนม จะช่วยให้การใช้งานขวดนม ที่ไม่มีกลิ่นอับ และปราศจากเชื้อราแล้ว ยังช่วยให้ห่างไกลจากเชื้อโรคต่างๆ ร่วมด้วย เพราะในการคว่ำขวดนมนั้น เราจะต้องมั่นใจเสมอว่า มีการทำความสะอาดที่คว่ำอย่างดีแล้ว รวมถึงบางรุ่นของที่คว่ำสำหรับขวดนมนั้น ยังมีรูปแบบที่มีฝาปิด ที่ช่วยให้เรามั่นใจเพิ่มมากขึ้นว่า ขวดนมที่เรานำมาใช้สำหรับทารกนั้น มีความสะอาดและปลอดภัยจริงๆ

5.แยกการใช้งานเป็นสัดส่วน

เหตุผลของการผลิตที่คว่ำสำหรับขวดนมทารกขึ้นมา เพราะเมื่อการนำไปคว่ำรวมกับถ้วยชาม ที่เราใช้งานนั้น เราไม่สามารถแน่ใจได้ว่า ถ้วยชามเหล่านั้นจะมีเชื้อโรคปะปนหรือไม่ รวมถึงการนำขวดนมคว่ำซ้อนๆ กันกับถ้วยชามนั้น ก็อาจจะทำให้ด้านในขวดนม มีการระบายความชื้นไม่ดีพอ ซึ่งเราสามารถแยกการใช้งาน ของใช้สำหรับทารกออกจากตัวเรา จะเป็นการปลอดภัยที่สุดสำหรับทารกร่วมด้วย

คุณสมบัติของที่คว่ำขวดนมที่ดี

1.จำนวนขวดนมที่รองรับได้

เราอาจจะเห็นตัวเลือกหลากหลาย สำหรับของใช้ลักษณะนี้ ที่มีทั้งแบบที่มีขนาดเล็ก มีฐานและมีแยกออกมาเป็นก้าน ใช้ในการคว่ำขวดนม แต่มีการรองรับสำหรับการคว่ำขวดนมได้เพียงไม่กี่ขวด อย่างเช่น 4 หรือ 8 ขวดเพียงเท่านั้น แต่สำหรับบางรุ่น หรือบางยี่ห้อนั้น มีการทำจำนวนที่รองรับทั้งการคว่ำขวดนม และจุกนมได้มากถึง 35 ตัวคว่ำ

ซึ่งหากเป็นการรองรับ ในการใช้งานขวดนมที่อาจจำเป็นต้องใช้ ทุกๆ 2-3 ชั่วโมงนั้น ถึงแม้เราจะมีการล้างขวดนมตลอดที่มีการใช้แล้ว ก็ควรเลือกที่คว่ำสำหรับขวดนม ที่รองรับกับการใช้งานของทารกในแต่ละวันเป็นหลัก โดยนอกจากที่จะช่วยผ่อนเบาภาระในเรื่องการล้างขวดนม แล้วต้องเช็ดด้านในให้แห้งแล้วนั้น ยังช่วยให้สะอาด และลดความเสี่ยงของเชื้อโรค ที่อาจมาจากผ้าที่เรานำมาเช็ดอย่างไม่ตั้งใจอีกด้วย

2.ที่คว่ำได้หลากหลาย

สำหรับรูปแบบของที่คว่ำสำหรับขวดนมที่ดีนั้น ควรที่จะสามารถแยกคว่ำได้ทั้งตัวขวดนม และตัวจุกดูดนม ที่มีทั้งวัสดุที่เป็นพลาสติกแห้งได้ง่าย รวมถึงยาง และซิลิโคนที่อาจจะแห้งได้ยากกว่า และเป็นส่วนประกอบที่ควรระวังเรื่องความสะอาดเป็นพิเศษ  เพราะเป็นส่วนที่สัมผัสกับปาก และนมที่ทารกกินเข้าไปในร่างกาย และมีการเน้นด้วยว่า ความสะอาดของขวดนม และจุกนมที่ดี ควรมาจากการคว่ำให้แห้งเอง โดยหลีกเลี่ยงการใช้ผ้าเช็ด

เพราะนอกจากที่เราจะไม่สามารถรับรองได้ว่า ผ้าที่เรานำมาเช็ดนั้นมีความสะอาดที่เพียงพอหรือไม่ ชนิดของผ้าบางอย่างที่อาจจะนำเอาเศษผ้า หรือเศษขุยผ้าติดกับด้านในขวดนม และจุกนมอย่างที่เรามองไม่เห็น ทั้งหมดนี้สามารถทำให้ทารกของเรา เกิดอาการไม่สบาย หรือท้องเสียได้ โดยที่บางครั้งเราก็มองข้ามสาเหตุเหล่านี้ไป

3.ทำความสะอาดได้ง่าย

ควรเป็นที่คว่ำสำหรับขวดนม ที่ไม่มีซอก หรือมุมที่แคบ หรือไม่สามารถเข้าไปทำความสะอาดได้ทั่วถึง รูปแบบที่ใช้คว่ำขวดนมนั้น ควรมีพื้นที่ และตัวคว่ำขวดนม ที่เราสามารถล้างทำความสะอาดได้ง่าย และมั่นใจว่าจะไม่มีคราบสกปรกใดๆ ที่ซ่อนเร้นโดยที่เราไม่สามารถทำความสะอาดได้ถึง

4.พกพาได้สะดวก

สำหรับพ่อแม่ที่อาจจะต้องมีการเดินทางบ่อย รวมถึงความจำเป็นที่จะต้องพาทารกไปด้วยทุกครั้ง การมีตัวเลือกทั้งแบบที่คว่ำสำหรับขวดนม ไว้ใช้ที่บ้านโดยเลือกรูปแบบที่มีขนาดใหญ่ และคว่ำได้หลายขวด กับอีกตัวเลือกสำหรับการเดินทาง ที่เน้นการพกพาสะดวก และมีขนาดที่เล็ก อย่างเช่น สามารถคว่ำได้ 3-4 ขวด รวมถึงมีส่วนที่แยกคว่ำจุกนมได้ต่างหากร่วมด้ว ก็จะเป็นความสะดวกทั้งกับพ่อแม่ และความปลอดภัยในเครื่องใช้ให้กับทารกร่วมด้วย

5.วัสดุมีความทนทาน และปลอดภัยสูง

เรามักจะเห็นว่าที่คว่ำสำหรับขวดนมนี้ จะเน้นที่ตัววัสดุที่ทนต่อความร้อนสูง หรือมีจุดหลอมเหลวสูงนั่นเอง ตัวเลือกอันดับแรกคือ พลาสติกในแบบ ABS ที่มีจุดหลอมเหลวมากถึง 200-250 องศาเซลเซียส และปลอดภัยต่อการนำไปต้มฆ่าเชื้อในน้ำเดือด ซี่งเป็นสิ่งที่พ่อแม่ควรต้องทำ ก่อนที่จะนำขวดนมนั้นๆ ไปใช้ใส่นมให้กับทารก

ส่วนพลาสติกอีกตัวที่เป็นวัสดุ ที่นิยมนำมาผลิตเป็นที่คว่ำสำหรับขวดนมนี้รองลงมา และมีคุณสมบัติที่ดีไม่แพ้กับแบบแรกคือ พลาสติกแบบ PP ที่มีจุดหลอมเหลวอยู่ที่ 160-170 องศาเซลเซียส ซี่งถือว่าอยู่ในระดับที่สูง และเหมาะสมในการนำไปต้มฆ่าเชื้อ หรือนึ่งฆ่าเชื้อก่อนที่จะนำขวดนมนั้นมาใช้ใหม่

อีกทั้งสาเหตุที่มีความนิยม นำเอาวัสดุทั้ง 2 ประเภทนี้มาผลิตก็คือ มีความคงทน และความยืดหยุ่นที่สูง นั่นก็คือ เกิดการชำรุด, แตกหักที่ยาก รวมถึงไม่ว่าจะเป็นรุ่น หรือแบบที่มีสีสันใดๆ ก็ตาม สีเหล่านั้นจะไม่ปนเปื้อนติดกับขวดนมที่คว่ำอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นที่คว่ำสำหรับขวดนมในแบบมีฝาปิด หรือไม่มีฝาปิดก็ตาม

วิธีเลือกซื้อที่คว่ำขวดนม

1.ขนาด

ในแต่ละครอบครัวจะมีการแบ่งโซน ที่ไว้สำหรับการวางของใช้ ที่จำเป็นสำหรับทารกที่แตกต่างกัน อย่างเช่น บางบ้านจะเน้นพื้นที่ในห้องครัว ที่ไว้สำหรับการวางของใช้สำหรับทารก ไม่ว่าจะเป็นที่คว่ำสำหรับขวดนม, เครื่องอุ่นนม, เครื่องนึ่งขวดนม และแบ่งเป็นห้องนอนสำหรับทารก สำหรับการไว้ของใช้ส่วนตัวของทารก อย่างเช่น เสื้อผ้า, ผ้าอ้อม เป็นต้น

ดังนั้นก่อนที่เราจะเลือกซื้อที่คว่ำขวดนมนี้นั้น เราควรวางแผนไว้ก่อนว่า จะนำเครื่องใช้ชิ้นนี้วางไว้ที่ไหน และมีพื้นที่กว้างแค่ไหนในการวางที่คว่ำสำหรับขวดนมนี้ ซึ่งสามารถมีได้มากกว่า 1 ชิ้น อย่างเช่น การแยกวางไว้ห้องครัว

และด้านบนห้องนอน เพื่อความสะดวกในการใช้งานของพ่อแม่ร่วมด้วย เพราะเมื่อเรารู้ว่าเรามีพื้นที่แค่ไหนในการวาง เราจะสามารถเลือกถึงขนาดที่คว่ำสำหรับขวดนมนี้ได้

2.รูปแบบ

ไม่มีฝาปิด

ข้อดีของรูปแบบนี้ก็คือ การถ่ายเทของอากาศ และการแห้งที่เร็วกว่าในแบบที่มีฝาปิด อีกทั้งยังมีตัวเลือกสำหรับการรองรับจำนวนขวดนม ได้หลากหลาย อย่างเช่น รองรับได้ 8 ขวด หรือรองรับได้มากกว่า 10 ขวดขึ้นไป

ทั้งนี้ไม่รวมกับที่คว่ำจุกนมอีกด้วย ซี่งเราจะเห็นจุดเด่นของแบบไม่มีฝาปิดคือ จะมีการออกแบบคล้ายกับต้นไม้ ที่มีกิ่งก้านของต้นไม้  เป็นที่คว่ำขวดนม และสำหรับที่คว่ำจุกนม อาจจะมีความเตี้ยกว่า

มีฝาปิด

ลักษณะรูปแบบนี้มีความคล้ายกับ กล่องเก็บถ้วยชาม แต่มีการออกแบบด้านใน มีก้านตัวคว่ำขวดนมไว้ ซึ่งหากเราเลือกในขนาดที่กะทัดรัด และไม่เปลืองพื้นที่มากนัก ก็จะได้การรองรับการคว่ำขวดนมที่ 3-4 ขวดเท่านั้น

พร้อมกับที่คว่ำจุกนม และอุปกรณ์อื่นๆ สำหรับขวดนมแยกต่างหากด้านใน ที่สำคัญคือ จุดเด่นที่มีฝาปิด สามารถกันฝุ่นละออง, เชื้อโรค หรือสิ่งสกปรกใดๆ ที่จะมาปนเปื้อนกับขวดนมทั้งด้านนอก และด้านใน

3.การรองรับจำนวนขวดนม

ซึ่งสอดคล้องกับรูปแบบข้างต้นนั้น มีความสัมพันธ์กับจำนวนขวดนม ที่สามารถคว่ำได้อีกด้วย อย่างเช่น เราอาจจะเคยเห็นรูปแบบที่น่าดึงดูดใจ ที่ออกแบบมาคล้ายกับต้นหญ้า จากวัสดุซิลิโคน ซี่งเราสามารถนำขวดนม และจุกนมคว่ำด้านบนซิลิโคน ที่ออกแบบมาเหมือนต้นหญ้าได้เลย เพียงแต่ไม่สามารถรองรับจำนวนขวดนมได้มากเท่านั้น

ในทางกลับกันเราอาจจะเคยเห็น ที่คว่ำสำหรับขวดนม ที่มีรูปแบบธรรมดา เป็นก้านสำหรับคว่ำขวดนม และมีแยกก้านสั้นกว่า ไว้สำหรับการคว่ำจุกนม แต่มีจำนวนที่สามารถรองรับการคว่ำขวดนม ได้มากถึง 30 ขวดขึ้นไปทีเดียว

แต่โดยหลักๆ แล้วสำหรับการรองรับการคว่ำขวดนม ได้ตั้งแต่ 8 ขวด รวมถึงการแยกที่คว่ำสำหรับจุกนมร่วมด้วย ก็เพียงพอกับการใช้งาน ซึ่งทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม และลักษณะการใช้งานของแต่ละครอบครัว

อีกทั้งบางครอบครัวยังมีขนาดขวดนมที่ใช้แตกต่างกันอีกด้วย  ดังนั้นการเลือกที่คว่ำสำหรับขวดนม ที่สามารถรองรับจำนวนขวดนมได้เท่าไหร่นั้น ก็ควรที่จะพิจารณาถึงขนาดของแต่ละขวดนมร่วมด้วย ควรจะมีการคว่ำขวดนมในแต่ละขนาดที่แตกต่างกัน เพื่อให้เหมาะกับการให้นมทารกในแต่ละครั้ง หรือแต่ละช่วงวัย

ตัวอย่างเช่น ทารกอายุ 3 เดือนควรใช้ขวดนมขนาด 3 ออนซ์ ช่วงอายุที่คาบเกี่ยว 3-6 เดือนนั้น ก็ควรเปลี่ยนมาใช้ขวดนมขนาด 5 ออนซ์ หรือสามารถใช้ชนาด 3 ออนซ์ร่วมด้วยได้ ดังนั้นการมีที่คว่ำที่รองรับได้ในจำนวน 8 ขวด ก็ควรที่จะมีทั้งขนาดขวดนม 3 ออนซ์ และ 5 ออนซ์ ที่นำมาใช้คว่ำเพื่อเลือกใช้ และถือว่าเป็นการนำขวดนม ที่เคยใช้ในช่วงอายุก่อนหน้านั้น มาใช้ได้อย่างคุ้มค่าอีกทางหนึ่ง

Nanny x Microban แนนนี่ ที่คว่ำขวดนม ที่คว่ำจาน พร้อมฝาปิด ขนาดใหญ่ ยับยั้งแบคทีเรีย 

สรุป

ในหลายครั้งเรามองว่า อุปกรณ์เครื่องใช้บางอย่างของทารกนั้น อาจจะไม่ได้มีความจำเป็นเท่าไหร่ อย่างเช่น การล้างขวดนมแล้ว ก็สามารถนำมาคว่ำรวมกับถ้วยชามได้ แต่ในมุมกลับจะเป็นการดีกว่าหรือไม่ หากเรามีที่คว่ำสำหรับขวดนมโดยเฉพาะ

ที่มีการเลือกจากวัสดุได้รับมาตรฐาน และความปลอดภัย อีกทั้งยังช่วยทำความสะอาดง่าย และคว่ำได้หลายขวดร่วมด้วยเป็นอีกทางที่ช่วยให้เรามั่นใจได้ว่า ขวดนมทุกขวดที่นำมาใช้นั้น จะมีความสะอาด และปลอดภัยต่อทารก

ดูแลบทความโดย สุทธิรักษ์

ตู่ คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวผู้สตรอง ปัจจุบันทำงานเป็นนักวิชาการด้านการพัฒนามนุษย์ และสังคม ประสบการณ์เป็นวิทยากรด้านการเลี้ยงดูเด็ก และ จิตวิทยาวัยรุ่น และเป็นนักเขียนบทความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับแม่และเด็ก

• Facebook
• X
• Line