เราเชื่อแน่ว่าสาว ๆ จะชอบการดูแลบำรุงผิวกายกันอยู่เสมอ สำหรับผิวกายก็จะต้องไม่พลาดกับการขัดผิว สครับผิวด้วยใยบวบกันอย่างแน่นอน หรือการบำรุงผิวหน้าก็จะต้องไม่ลืมที่จะบำรุงด้วย วิตามินซีทาหน้า การ มาร์คใต้ตา การใช้ น้ำตบ , น้ำแร่ฉีดหน้า , เซรั่มเกาหลี ในการดูแลผิวหน้าให้กระจ่างใส เนียนนุ่ม ใครเห็นก็ต้องเหลียวหลังมองถึงความกระจ่างใสบนใบหน้าที่น่ามองน่าสัมผัสเสียจริง
ใยบวบ คืออะไร
เป็นเส้นใยธรรมชาติ เมื่อชุ่มน้ำจะมีความนิ่ม มีไว้สำหรับขัดตัว ขัดผิว ขจัดสิ่งสกปรก และ เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วให้หลุดออกไปอย่างง่ายดาย ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวขาวเนียนกระจ่างใส เนียนนุ่มน่าสัมผัส ใครเห็นเป็นต้องถามว่าใช้อะไรทำไมผิวขาวเนียนใส
ใยบวบทำมาจากอะไร
ทำจากใยบวบ 100% โดยการนำลูกบวบแห้งแช่น้ำ 30 นาที แกะเปลือกและเมล็ดออก จากนั้นนำไปแช่สบู่ฟอกขาว แล้วผึ่งแดดให้แห้ง นำไปเย็บให้เป็นรูปทรงที่ต้องการ ในใยจะมีผิวขรุขระ หากอยู่ในสภาพปกติจะมีความแข็ง แต่จะมีความนุ่มเมื่อถูกน้ำ โดยมีคุณสมบัติต้านทานมอด แมลง และเชื้อรา เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้สำหรับทำกระเป๋า ผลิตภัณฑ์ขัดผิว เช่นถุงสบู่ ไม้ถูหลัง
ทำไมต้องขัดผิว
การขัดตัว ขัดผิว เป็นการปรับสภาพผิว และขจัดเซลล์ผิวเก่าที่ได้สะสมอยู่บนชั้นของผิวให้หลุดออกไป ผิวที่ไม่ได้ผลัดเซลล์ผิวเป็นเวลานาน จะเกิดการอุดตันของสิ่งสกปรก ก่อให้เกิดอาการแห้งนำไปสู่การเกิดริ้วรอย ดังนั้นการขัดผิวจะช่วยขจัดเซลล์ที่ตายแล้วออกไป ลดรอยดำบนชั้นผิว พร้อมกระตุ้นให้เกิดเซลล์ผิวใหม่ขึ้น ผิวก็จะดูสดใส ชุ่มชื้นยิ่งขึ้น
ใยบวบขัดตัว ขัดผิว ช่วยอะไร
ใยบวบขัดตัว ขัดผิว จะช่วยให้ขัดผิวให้สะอาด ขัดละเอียดทุกซอกทุกมุมได้ ตัวบวบจะไม่แข็งจนเกินไป มีความนุ่มทำให้การขัดตัวแล้วไม่บาดผิว ขัดแล้วจะช่วยให้ผิวกระจ่างใส ชุ่มชื้น มีน้ำมีนวลได้ด้วย เพราะหากไม่ขัดผิวจะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรียได้อีกด้วย
ประโยชน์ของใยบวบ
1.ผลัดเซลล์ผิวเก่า
สามารถช่วยการผลัดเซลล์ผิว เพราะใยบวบประกอบด้วยเส้นใยหยาบเล็กน้อย เป็นประโยชน์อย่างมากในการผลัดเซลล์ผิวของคุณ กำจักเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำให้มีผิวที่เรียบเนียน อ่อนเยาว เปล่งปลั่ง
2.กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
การขัดใยบวบที่ผิวจะกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตของผิว การเสียดสีที่เกิดขึ้นขณะอาบน้ำจะทำให้หลอดเลือดไหลเวียนโลหิตได้ ซึ่งจะสังเกตได้จากผิวจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย
3.ไม่ระคายเคืองต่อผิว
ใยบวบมีความปลอดภัยต่อผิวกาย ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผิวแต่อย่างใด เพราะเค้าถูกสร้างขึ้นอย่างดีจากส่วนผสมจากธรรมชาติและออร์แกนิก มาจากธรรมชาติ จึงสามารถหลีกเลี่ยงการติดเชื้อที่ผิวหนังที่ส่งผลต่อสุขภาพได้ มั่นใจได้ว่าปลอดภัยที่จะใช้เป็นประจำ
4.ช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น
จะช่วยขัดผิวให้ขาว กระจ่างใสได้ไวขึ้น การขัดตัว จะช่วยเรื่องการทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึก ดังนั้นใครที่อยากผิวขาวขึ้นควรใช้ขัดผิวเป็นประจำ
คุณสมบัติจากใยบวบขัดผิว
1.เร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิวเก่า
ร่างกายของคนเราเมื่อเจออากาศร้อนจะระบายความร้อนออกมาในรูปแบบของเหงื่อ เมื่อเหงื่อเกิดการสะสมทับถมเป็นเวลานาน สีผิวจะเริ่มหมองคล้ำ ต้องใช้ใยบวบขัดไปตามแต่ละส่วนของร่างกาย เพื่อเร่งกระบวนการผลิตเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออก
แล้วสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาแทน สิ่งสกปรกจะไม่อุดตันรูขุมขนจนกลายเป็นสิว ดังนั้นสาว ๆ ที่มีปัญหาสิวแผ่นหลังและหน้าอก ลองขัดผิวกายพร้อมกับ สบู่ อาบน้ำเป็นประจำ ย่อมสามารถป้องกันผิวสวยใสห่างไกลสิวได้เหมือนกัน
2.สุขภาพผิวจะดีขึ้น
เมื่อไม่มีการทับถมของเซลล์ผิวเก่า การสร้างเซลล์ผิวใหม่รวมถึงการซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหายจากแสงแดดจะเริ่มฟื้นฟูกลับคืนสู่สภาพเดิม ทำให้สุขภาพผิวดีขึ้น
3.ผิวกระจ่างใส
เซลล์ผิวเก่าหลุดออก เซลล์ผิวใหม่ที่ยังไม่เผชิญกับแสงแดด ก็พร้อมที่จะเปล่งประกาย ผิวของคุณจึงดูขาวขึ้น กระจ่างใส ราวกับคนผิวขาวตามธรรมชาติกันเลย
4.ผิวนุ่มลื่นขึ้น
ด้วยเซลล์ผิวใหม่ยังไม่เจอกับการถูไถหรือการสัมผัสกับสิ่งอื่น ผิวที่เกิดใหม่จึงให้ความรู้สึกที่นุ่มลื่นกว่า ไม่ต่างอะไรจากผิวเด็กเล็กที่มีสีขาวอมชมพู น่าสัมผัสไปอีกนาน
เคล็ดลับในการใช้ใยบวบ
1.ใช้น้ำอุ่นในการทำให้อ่อนตัวลง
คุณสมบัติของใยบวบคือ จะมีความนุ่มขึ้นเมื่อเปียก ดังนั้นใช้น้ำอุ่นเพื่อที่จะให้มีความอ่อนตัว และนุ่มได้ไวขึ้น
2.ลองขัดผิวเป็นวงกลม
การขัดผิวควรขัดในลักษณะเป็นวงกลม ไม่ว่าจะเป็นการขัดบริเวณร่างกาย แขน ขา การขัดผิวเป็นวงกลมจะให้ผลลัพธ์เรื่องผิวกระจ่างใสขึ้น ซึ่งไม่ควรขัดผิวไปมาจนแรงเกินไปเพราะอาจทำให้เกิดการเจ็บที่ผิวหนัง
3.ล้างใยบวบทุกครั้งหลังใช้งาน
เมื่อใช้เสร็จแล้ว อย่าเพิ่งทิ้งมันไว้เฉย ๆ ควรที่จะล้างใยบวยให้สะอาดก่อน และตรวจในแน่ใจว่าไม่มีสิ่งสกปรกตกค้าง เพราะมันอาจจะเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย หากคุณล้างไม่สะอาด อาจจะมีเชื้อแบคทีเรีย เชื้อราขึ้นได้
4.ต้องทำให้ใยบวบแห้งทุกครั้ง
หลังใช้แล้ว อย่าทิ้งในห้องน้ำเพราะจะเกิดการชื้นชึ้น ส่งผลคือมีเชื้อแบคทีเรีย เชื้อราขึ้น
5.เปลี่ยนใยบวบใหม่
หลังจากใช้มาประมาณหนึ่งเดือน ก็ถึงเวลาที่จะทิ้งเสีย เพราะสาเหตุแรกคือเส้นใยที่สร้างเนื้อสัมผัสของรังบวบอาจเริ่มแตกตัว ส่งผลให้การขัดไม่มีประสิทธิภาพ สองแบคทีเรียอาจพัฒนาอย่างช้า ๆ ทำให้เป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย
วิธีเลือกซื้อใยบวบ
1.เลือกใยบวบจากธรรมชาติ
ต้องสังเกตให้ดี เลือกที่มาจากธรรมชาติจะส่งผลดีต่อผิว เพราะผลิตภัณฑ์บางชนิดที่ดูเหมือนเป็นธรรมชาติแต่อาจทำจากวัสดุสังเคราะห์ ไม่ส่งผลดีกับผิวซะเท่าไหร่ ถึงแม้จะสามารถใช้งานได้นานกว่าวัสดุธรรมชาติ แต่ประสิทธิภาพถือว่าไม่ผ่าน ซึ่งมี 3 ลักษณะได้แก่ แบบธรรมชาติ, สังเคราะห์ และฟองน้ำผสมใยบวบ
2.ความอ่อนนุ่มอ่อนโยน
ใยบวบจะทำงานผสานกับผิวหนังที่บอบบางของคุณ ดังนั้นให้เลือกที่มีความอ่อนนุ่ม ไม่หยาบแข็งกระด้างจนเกินไป เนื่องจากแบบหยาบจะไม่ดีต่อผิว ก่อให้เกิดการระคายเคือง และอันตรายต่อผิวหนัง
3.ประสิทธิภาพ
ใยบวบคุณภาพต่ำจะเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว อายุการใช้งานไม่นาน ดังนั้นควรเลือกที่มีมาตรฐานคุณภาพสูงกว่า คือต้องจ่ายในราคาแพงขึ้นสักหน่อย แต่ก็ดีกว่าซื้อทุกสัปดาห์
วิธีใช้ใยบวบขัดผิว
ใยบวบทำจากวัสดุเส้ยในธรรมชาติ พบในผลไม้เขตร้อนจำพวกบวบหรือฟัก มีพื้นผิวเป็นรูพรุนซึ่เงหมาะสำหรับการขัดผิว เพื่อให้ผิวนุ่มเรียบเนียน เค้าจะนุ่มเมื่อเปียก และจะแข็งตัวขึ้นอีกครั้งเมื่อแห้ง
1.การใช้ใยบวบ
เค้ามักจะมีสีซีดแบบฟาง และมีกลิ่นหอมสมุนไพร มาในรูปแบบหลายหลายทรง มักจะขายเป็นทรงกระบอก พื้นผิวจะหยาบเมื่อแห้ง แต่เมื่อเติมน้ำร้อนมันจะนุ่มและอ่อนตัวลง
2.ขณะอาบน้ำต้องทำให้เปียก
น้ำอุ่นจะทำให้นุ่มขึ้น หากต้องการให้ใยบวบยังมีพื้นผิวขรุขระ เพื่อใช้ขัด ก็ทำให้มันเปียกเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะใช้
3.ใช้สบู่ปนลงไปด้วย
หลายคนเลือกใช้ ครีมอาบน้ำตัวหอม ก็ซึมเข้าไปในพื้นผิวของใยบวบได้ง่าย แต่จะใช้สบู่ก้อนถูบนพื้นผิวก็ใช้งานได้เช่นกัน
4.ถูไปบนร่างกาย
เริ่มต้นที่บริเวณลำคอและหน้าอก ถูใยบวบบนผิววนเป็นวงกลมเบา ๆ ถูลงไปถึงข้อเท้า ขัดแขนและมือ เพราะการถูเป็นวงกลมจะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และมีความอ่อนโยนต่อผิวมากกว่าการขัดขึ้นลง
5.ล้างตัวด้วยน้ำเย็น
การล้างตัวด้วยน้ำเย็นจะช่วยปิดรูขุมขน และทำให้รู้สึกตื่นตัวสดชื่น แต่หากกำลังอาบน้ำก่อนนอน ก็ควรใช้น้ำอุ่นอาบน้ำแทน
สูตรขัดผิวใช้ร่วมกับใยบวบ เปลี่ยนผิวคล้ำให้กระจ่างเนียนใส
เมื่อตัดสินใจเลือกใยบวบกันได้แล้ว ก็มาถึงสูตรในการสครับผิวที่เรานำมาฝากกัน แต่ละสูตรใช้สมุนไพรจากธรรมชาติกันทั้งนั้น รับรองได้ว่าไม่เป็นอันตรายต่อผิวกายแต่อย่างใดแน่นอน ที่สำคัญทุกสูตรจะช่วยให้ผิวหมองคล้ำกลายเป็นผิวกระจ่างใส ขาวเนียนนุ่ม อวดโฉมกันได้อย่างไม่อายใครอีกต่อไปเลย สูตรที่ว่ามีด้วยกันมาให้ถึง 10 สูตรที่สาว ๆ สามารถนำไปปฏิบัติกันได้เลย ไม่หวงสูตรเลย
1.สูตรแตงกวา + น้ำมันมะพร้าว + น้ำตาล
แตงกวาเป็นผักที่อุดมไปด้วยวิตามิน ให้ความชุ่มชื้น ยังบำรุงผิวให้นุ่มลื่น วิธีการผสมก็เพียงนำแตงกวาที่ปอกเปลือกแล้วมาปั่นละเอียด กรองน้ำออก ให้ได้ปริมาณแตงกวาปั่น ¾ ถ้วย ผสมกับน้ำมันมะพร้าว ¼ ถ้วย น้ำตาลทราย 1 ถ้วย นำมาพอกทิ้งไว้ 30 นาที ค่อยล้างออก เรียกได้ว่าสูตรแตงกวา น้ำมันมะพร้าว น้ำตาลนี้จะให้ผิวกระจ่างใสเลยทีเดียว
2.สูตรมะเขือเทศ + น้ำตาลทราย
ในมะเขือเทศมีสารไลโคปีน Lycopene ที่อยู่ในกลุ่มแคโรทีน Carotene ซึ่งเป็นสารช่วยป้องกันรังสียูวี Ultraviolet ที่เป็นตัวการทำลายคอลลาเจนในผิว ทำให้ผิวอ่อนล้าและขาดน้ำ ตัวไลโคปีนจะช่วยให้ผิวยืดหยุ่นและรักษาน้ำในผิวได้ วิธีการผสมคือฝานมะเขือเทศเป็นแผ่นบาง ๆ นำไปจุ่มกับน้ำตาลทราย นำมาขัดผิวเบา ๆให้ทั่วทั้งตัว ขัดจนน้ำตาลละลายออกจนหมด แล้วค่อยเปลี่ยนแผ่นมะเขือเทศแผ่นใหม่ ปล่อยทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วล้างออกให้สะอาด ผลลัพธ์ที่ได้ผิวจะใสปี๊ง ขาวเนียนนุ่มน่าสัมผัส
3.สูตรน้ำตาลทรายแดง + น้ำผึ้ง
เป็นสูตรสครับผิวยอดฮิตของใครหลายคน สูตรนี้จะช่วยให้ผิวเนียนใส ผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกได้หมด เพิ่มความชุ่มชื้น ใครมีสิวหัวดำสูตรนี้จะช่วยขจัดสิวหัวดำได้ดี และที่เป็นสูตรยอดฮิต เนื่องจากส่วนประกอบหาซื้อได้ง่าย เพียงใช้แค่น้ำผึ้งกับน้ำตาลทรายแดง โดยการนำมาผสมกัน ให้อัตราส่วนของน้ำผึ้งมากกว่าน้ำตาลทรายแดง ผสมให้เข้ากัน จากนั้นนำ สครับที่ได้มาสครับบนผิว ค่อย ๆ ใช้มือสครับเบา ๆ ประมาณ 10-20 นาที ทิ้งไว้สักครู่แล้วค่อยล้างออก
4.สูตรกากกาแฟ + น้ำผึ้ง + กรีกโยเกิร์ต
อย่าเพิ่งทิ้งกากกาแฟ นำมาผสมกับน้ำผึ้ง กรีกโยเกิร์ต นำมาขัดถูบริเวณผิวให้ทั่วแล้วทิ้งไว้ 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด กากกาแฟจะไม่บาดผิว เนื้อจะละเอียดอ่อนโยน ช่วยขยายหลอดเลือดให้เลือดสูบฉีดได้ดี ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใส สูตรนี้สามารถขัดได้ทุกวัน ยิ่งมีน้ำผึ้ง และโยเกิร์ตผสมลงไปจะยิ่งทำให้ผิวเปล่งปลั่งขึ้นไปได้อีก
5.สูตรน้ำมะนาว + เกลือ + น้ำมันมะกอก
นำส่วนผสมทั้งหมดมาผสมให้เป็นเนื้อเดียว จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้มาขัดผิวบริเวณที่ต้องการ ขัดผิวประมาณ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด สูตรนี้จะแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ กระจ่างใส สีผิวสม่ำเสมอมากขึ้นด้วย
6.สูตรมะเขือเทศ + น้ำผึ้ง + ข้าวโอ๊ต
เพียงใช้แค่ข้าวโอ๊ต 1 ถ้วย มะเขือเทศ 2 ลูก น้ำผึ้ง 3 ช้อนโต๊ะ วิธีการทำเพียงแค่บดมะเขือเทศและข้าวโอ๊ต ให้ละเอียด แต่ต้องบดข้าวโอ๊ตให้ละเอียดเพราะอาจจะบาดผิวได้ จากนั้นนำมาผสมกับน้ำผึ้งให้เข้ากัน ขัดทั่วร่างกาย ทิ้งไว้ 10-15 นาที
ล้างออกด้วยน้ำสะอาด ในข้าวโอ๊ตจะมีเส้นใยไฟเบอร์ ช่วยสครับผิวได้ดี และมีวิตามินอีที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวยืดหยุ่น เพิ่มความค้านทานรังสียูวีได้อีกด้วย สูตรนี้เหมาะสำหรับผิวแห้ง ช่วยผลัดเซลล์ผิวให้กระจ่างใส
7.สูตรขมิ้น + ดินสอพอง + แตงกวา
เพียงใช้ดินสอพอง ขมิ้น แตงกวาที่ล้วนมีสรรพคุณดี ๆ ทั้งนั้น โดยนำขมิ้นมาปั่นให้พอเหลือเป็นกากไว้ขัดผิว จากนั้นผสมดินสอพองที่บดละเอียดกับแตงกวาสับละเอียดผสมให้เข้ากัน ขัดทั่วร่างกาย พอกทิ้งไว้ 15-20 นาที และล้างออกด้วยน้ำสะอาด ผิวจะเนียนกระจ่างใส เป็นสูตรที่เหมาะกับผิวแห้ง ผิวธรรมดาที่มีปัญหาเรื่องสิว ผดผื่นคัน คล้ำจากแสงแดด
8.สูตรน้ำผึ้ง + เปลือกส้ม
นำเปลือกส้มที่เราปอกออกมาปั่นให้ละเอียด แล้วนำมาผสมกับน้ำผึ้ง จากนั้นนำส่วนผสมมาผสมรวมกัน นำมาขัดผิวประมาณ 15 นาที แล้วทิ้งค้างไว้ 5 นาที ค่อยล้างออกด้วยน้ำเย็น สูตรนี้จะให้ผิวกระจ่างใส ลดจุดด่างดำ รอยสิวต่าง ๆ จางลงได้
9.สูตรมะกรูด + นมสด + น้ำผึ้ง
นำส่วนผสมมีน้ำมะกรูด น้ำผึ้งแท้ นมสด โดยเราจะต้องนำมะกรูด 1 ลูก มาคั้นน้ำก่อน เมือ่ได้น้ำมะกรูดแล้วนำมาผสมกับนมสด 1 แก้ว น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้ากัน นำมาพอกตัวไว้ 30 นาที แล้วล้างออก ระหว่างนี้สามารถนำเปลือกมะกรูดมาขัดข้อศอก หัวเข่าได้ด้วย แนะนำสูตรนี้ควรทำสัปดาห์ละ 2 ครั้งซึ่งเป็นสูตรที่ช่วยเรื่องผิวกระจ่างใสให้เนียนใสได้
10.สูตรมะขามเปียก + โยเกิร์ต + มะนาว
สูตรนี้น้ำมะนาวและมะขามเปียกจะช่วยฆ่าเชื้อสิ่งสกปรกออก แถมโยเกิร์ตยังช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วได้ วิธีทำเริ่มจากต้องเตรียมน้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 1-2 ช้อนชา โยเกิร์ตธรรมชาติ 1-2 ช้อนโต๊ะ นำมาผสมให้เข้ากัน จากนั้นนำมาพอกให้ทั่วร่างกาย ทั้งใบหน้า ลำคอ แขน ขา ทิ้งไว้ 20-30 นาที แล้วล้างออก สูตรนี้จะให้ผิวกระจ่างใส
สรุป
เป็นอย่างไรกันบ้าง กับเรื่องราวของใยบวบที่เรานำมาฝาก ทั้งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ รวมถึงวิธีการใช้ การดูแลรักษา ซึ่งคงจะทำให้ตัดสินใจกันได้ว่าจะเลือกใช้ชนิดไหนมาขัดผิว สครับผิวกัน
ซึ่งการเลือกใยบวบจากธรรมชาติมาขัดผิวจะช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส ไม่เป็นอันตรายต่อผิว แถมใช้ได้นาน เพียงแต่ต้องหมั่นทำความสะอาดหลังการใช้งานด้วยทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดคราบแบคทีเรีย หรือเชื้อรานั่นเอง เพียงเท่านี้ก็จะชวยยืดอายุให้ใช้ไปได้อีกนาน
นามปากกา เถาองุ่น การศึกษาจบปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เป็นนักรีวิวผลิตภัณฑ์ด้านการบำรุงผิวโดยเฉพาะ ทั้งผิวกาย ผิวหน้า ความงาม และเป็นผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายมาแล้วหลายยี่ห้อ
ใยบวบ Tanhombrand
-รูปทรงจับถนัดมือ แขวนได้แบคทีเรียไม่สะสม แห้งไว
-เส้นใยละเอียด ไม่บาดผิว ไม่ผ่านการฟอกขาว
ใยบวบ Botany
-ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100 % ไม่ผ่านการฟอกสี
-ใยนุ่ม ใช้ง่ายจับถนัดมือ ร้อยเชือกแขวนได้ทุกที่
ใยบวบ Emily
-ใยบวบที่มาพร้อมแปรงสำหรับถูหลังสามารถแขวนได้
-แห้งไว ไม่ดูดซับน้ำ ไม่สะสมแบคทีเรีย สัมผัสนิ่ม
ใยบวบ Nanaherbssupply
-ช่วยทำให้ผิวนุ่มลื่นขึ้น คืนความขาวกระจ่างใสให้แก่ผิว
-ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วบนผิวชั้นนอกออก
ใยบวบ NariyaHerbal
-ฟองน้ำใยบวบธรรมชาติ 100 % ปราศจากสารเคมี
-เหมาะสำหรับทุกวัย ทำความสะอาดลึกอย่างอ่อนโยน
ใยบวบ shoppingdekdee
-ไม่ทำลายชั้นผิว ช่วยให้ผิวดูสะอาด ผิวดูสุขภาพดี
-ช่วยขจัดคราบเหงื่อ ขี้ไคล หรือสิ่งสกปรกตามผิวหนัง
ใยบวบ Natural Loofah Sponge
-เหมาะสำหรับใช้ขัดผิว ช่วยให้ผิวกระจ่างใสแลดูสุขภาพดี
-สัมผัสนิ่ม ไม่บาดผิว หรือระคายเคืองผิว ขนาดสินค้า 4 นิ้ว
ใยบวบ Botany
-แบบมีเชือกร้อย แขวนได้ลดการสะสมของแบคทีเรีย
-ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวอย่างเป็นธรรมชาติให้ผิวเนียนนุ่ม
ใยบวบ PHUTAWAN
-ช่วยขัดผิวที่เสื่อมสภาและ คราบเหงื่อไคลสิ่งสกปรก
-สามารถใช้ร่วมกับสบู่หรือเจลอาบน้ำได้
ใยบวบ TANSY
-ช่วยกระตุ้นให้เกิดเซลล์ผิวหนังใหม่และขจัดเหงื่อไคล
-เหมาะสำหรับทุกเพศ ทุกวัย สามารถใช้ได้ทั้ง 2 ด้าน