กาแฟกระป๋อง คืออะไร
คือ เครื่องดื่มกาแฟที่เป็นการผลิตออกมาในรูปแบบของกระป๋อง หรือที่เรียกว่า กาแฟกระป๋อง ปรุงสำเร็จรูปพร้อมดื่ม สามารถซื้อดื่มได้ง่ายตามร้านค้าต่างๆ, ร้านสะดวกซื้อ, ห้างสรรพสินค้า หรือตู้ Vending Machine ไม่ต้องเสียเวลาในการชง มีความนิยมและขายดี โดยเฉพาะมีรสชาติให้เลือกตามประเภทของกาแฟ อย่างเช่น เอสเปรสโซ่, อเมริกาโน่ หรือลาเต้
ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าในบางวัน สำหรับคนทำงานออฟฟิศ ที่บางวันต้องอยู่ทำงานจนดึกดื่น และร้านกาแฟก็ปิดกันหมด แต่สำหรับกาแฟปรุงสำเร็จพร้อมดื่ม ในรูปแบบกระป๋องที่เราสามารถเดินซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อ หรือแม้แต่ตู้กดเครื่องดื่มที่ตั้งไว้ในส่วนของอาคารสำนักงาน ทำให้ช่วยอำนวยความสะดวก สำหรับผู้ทำงานล่วงเวลา และเวลาเช้าหรือเวลาดึกมากๆ
รสชาติของกาแฟกระป๋อง มีอะไรบ้าง
กาแฟปรุงสำเร็จรูปพร้อมดื่ม ในรูปแบบกระป๋องนั้น จะให้รสชาติความเข้ม และกลิ่นหอมกาแฟแท้ๆ เทียบได้กับกาแฟสด แต่สามารถหาดื่มได้ง่ายกว่า ตามร้านค้าสะดวกซื้อ หรือตามตู้กดทั่วไปได้ เน้นความสะดวกในการเปิดดื่มได้ทันที
- รสชาติที่ให้ความเข้มของกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า
- ความหอมของเมล็ดกาแฟคั่วในระดับปานกลาง
- ความเข้มข้นของรสชาติขึ้นอยู่กับกาแฟแต่ละประเภท อย่างเช่น อเมริกาโน่, เอสเปรสโซ่ หรือลาเต้
กาแฟกระป๋อง vs กาแฟสด
ขั้นตอนการชงดื่ม
กาแฟกระป๋อง
ถ้าจะบอกว่าเป็นคุณสมบัติที่ดีข้อหนึ่งเลยทีเดียว ที่ทำให้กาแฟปรุงสำเร็จรูปพร้อมดื่ม ในรูปแบบกระป๋องนี้เป็นที่ครองใจและได้รับความนิยมต่อผู้ดื่มมากขึ้นทุกวัน ก็คือความสะดวกสบายที่เราไม่จำเป็นต้องเสียเวลาชงดื่ม หรือยืนต่อคิวรอการชงแบบแก้วต่อแก้ว เพราะเราสามารถลิ้มรสชาติกาแฟแท้ๆ ที่อร่อยและสามารถเลือกสูตรน้ำตาลน้อยได้ ตามตู้กด, ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าสะดวกซื้อ แบบง่ายๆ
กาแฟสด
รูปแบบขั้นตอนการชงกาแฟสดดื่มนั้น สามารถเห็นได้ตามร้านกาแฟ และในปัจจุบันนี้ ก็มีคอกาแฟหลายคน ที่หันมานิยมในการชงดื่มเองกันบ้าง เพื่อนอกจากที่จะดื่มด่ำกับกาแฟในเรื่องรสชาติอย่างเดียวแล้ว ยังถือว่าเป็นการเพิ่มประสบการณ์ในการชงกาแฟ ให้เกิดความชำนาญ และปรับรสชาติในการชงได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย รูปแบบและขั้นตอนการชงกาแฟที่เรามักจะเห็นกันก็คือ
- Moka Pot ผ่านการใช้อุปกรณ์การชงเฉพาะ ใช้แรงดันจากไอน้ำด้านล่างขึ้นมา เพื่อให้กลิ่น, รสชาติ และสีกาแฟเข้ามาในน้ำด้านล่างหม้อ แต่ขั้นตอนก็ต้องใช้ระยะเวลาในการชงพอสมควร เหมาะกับผู้ที่ชอบดื่มด่ำ และละเมียดละไมในการดื่มและการชงกาแฟเป็นพิเศษ
- เครื่องชงกาแฟแบบอัดแรงดันไอน้ำ จะเป็นเครื่องที่เรามักจะเห็นตามร้านเครื่องดื่มกาแฟทั่วไป ที่มีขายกาแฟสดทั้งแบบร้อนและเย็น เป็นการนำเอากาแฟที่ผ่านการคั่วและบดเรียบร้อย ตามระดับความละเอียด และความหยาบที่ต้องการ แล้วบีบอัดใส่อุปกรณ์ โดยใช้แรงดันไอน้ำเป็นตัวดึงเอารสชาติ, กลิ่นหอมกาแฟ และสีกาแฟออกมาพร้อมกับเครื่องดื่มที่ได้
- การสกัดเย็น เป็นการนำเอากาแฟที่บดในรูปแบบที่มีความหยาบ มาแช่ในน้ำเย็นค้างคืน หรือในระยะเวลาเฉลี่ย12-24 ชั่วโมงโดยประมาณ เพื่อให้น้ำเย็นดึงเอารสชาติ, สี และความหอมกาแฟออกมา น้ำกาแฟที่ได้จะเป็นรูปแบบความบางเบา หรือ Coffee Soft ที่สามารถดื่มได้ง่าย และมีความขมน้อย รวมถึงเหมาะที่จะดื่มแบบกาแฟดำ หรืออเมริกาโน่ในรูปแบ Cold Brew
รสชาติ
กาแฟกระป๋อง
ด้วยส่วนใหญ่ของกาแฟกระป๋องนี้ จะมีการนำเอากาแฟสายพันธุ์โรบัสต้ามาผลิตเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งก็จะมีในบางประเภทกาแฟ ที่มีการผสมผสานสายพันธุ์ของกาแฟบ้าง แต่เน้นที่สายพันธุ์โรบัสต้า ที่ให้รสชาติความเข้มถึงใจ โดยเฉพาะประเภทกาแฟที่เป็น เอสเปรสโซ่ ที่ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ที่คู่กับสายพันธุ์โรบัสต้าโดยเฉพาะ
ดังนั้นรสชาติที่จะได้กับกาแฟปรุงสำเร็จพร้อมรูป รูปแบบกระป๋องก็จะเน้นที่รสชาติความเข้ม และมีรสขมในกรณีที่เป็นแบบกาแฟดำ หรือเอสเปรสโซ่ สำหรับอุปกรณ์ชงกาแฟในตอนเช้า, ส่วนประกอบในการชงกาแฟ รวมถึงของกินร่วมกับเครื่องดื่ม ที่เราควรมีติดบ้านไว้ อย่างเช่น เครื่องชงกาแฟสด , เครื่องบดกาแฟ , กาดริปกาแฟ , กาแฟอาราบิก้า , กาแฟสำเร็จรูป , กาแฟขี้ชะมด , น้ำผึ้งแท้ , ข้าวโอ๊ต , ขนมปังปี๊บ , ซีเรียล
กาแฟสด
ลักษณะเด่นในเรื่องของรสชาติของกาแฟสด จะเน้นการเลือกเอากาแฟสายพันธุ์อาราบิก้า มาชงไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการชงอย่างเช่น การสกัดเย็น, การใช้เครื่องอัดแรงดันไอน้ำ หรือการชงผ่านหม้อ Moka Pot ก็ตาม ซึ่งหากเป็นการชงตามร้านเครื่องดื่ม โดยผ่านเครื่องชงกาแฟอัดแรงดันไอน้ำนั้น ก็อาจจะเป็นการผสมระหว่างสายพันธุ์อาราบิก้า และโรบัสต้า ตามแต่ละสูตรของทางร้าน
แต่โดยหลักๆ แล้วหากเป็นสายพันธุ์อาราบิก้านั้น ก็จะให้รสชาติความนุ่มนวลมากกว่า และยังให้ระดับความเข้มที่น้อยกว่า กาแฟสำเร็จรูปพร้อมดื่ม ในรูปแบบกระป๋อง ซึ่งรวมไปถึงระดับคาเฟอีนที่มีน้อยกว่าร่วมด้วย แต่อย่างไรก็ดี หากเป็นกาแฟในรูปแบบกระป๋องนั้น เราสามารถที่จะหาดื่มกันได้ง่ายๆ ตามร้านสะดวกซื้อ และสามารถเลือกสูตรน้ำตาลน้อย เพื่อเป็นการใส่ใจสุขภาพ รวมถึงยังสามารถเลือกได้ว่า จะดื่มแบบกาแฟดำ หรือกาแฟใส่นม
สายพันธุ์กาแฟ
กาแฟกระป๋อง
ส่วนใหญ่แล้วหากเป็นกาแฟพร้อมดื่มสำเร็จรูป แบบกระป๋องจะเน้นเป็นกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้าเป็นหลัก ซึ่งก็จะมีการนำมาผสมร่วมกับสายพันธุ์อาราบิก้า ได้ตามแต่ละประเภทของกาแฟ อย่างเช่น อเมริกาโน่บางยี่ห้อ ก็จะมีการปรับผสมระหว่างสายพันธุ์อาราบิก้า และโรบัสต้า หรือลาเต้ เพื่อที่จะช่วยให้เกิดรสชาติที่นุ่มนวลมากขึ้น
กาแฟสด
ส่วนใหญ่หากเป็นกาแฟสดที่ชงตามร้านกาแฟ จะเน้นการใช้กาแฟสายพันธุ์อาราบิก้า หรืออาจจะมีการผสมระหว่างสายพันธุ์อาราบิก้า และสายพันธุ์โรบัสต้า เพื่อให้เกิดรสชาติที่สมดุล ซึ่งแล้วแต่สูตรของแต่ละร้าน รวมถึงหากเป็นการชงดื่มเอง ก็อาจจะมีการปรับสูตรการผสมระหว่างกาแฟแต่ละสายพันธุ์ร่วมด้วย เพื่อเน้นกลิ่นและรสชาติที่นุ่มนวลขึ้น
ปริมาณคาเฟอีน
กาแฟกระป๋อง
ด้วยสายพันธุ์กาแฟที่นำมาผลิต เป็นกาแฟในรูปแบบกระป๋อง จะเน้นเป็นสายพันธุ์โรบัสต้า ทำให้มีปริมาณคาเฟอีนมากกว่า รูปแบบกาแฟสด ปริมาณคาเฟอีนโดยเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 150-160 มิลลิกรัมต่อกระป๋อง
กาแฟสด
ส่วนใหญ่แล้วจะมีการนำเอากาแฟที่เป็นสายพันธุ์อาราบิก้า มาใช้ในการชงกาแฟสด ซึ่งหากจะมีการผสมระหว่างสายพันธุ์อาราบิก้า และสายพันธุ์โรบัสต้า ก็ขึ้นอยู่กับการปรับในเรื่องรสชาติ ให้มีความละมุนมากขึ้น ทั้งในรูปแบบการชงดื่มเองที่บ้าน หรือแบบร้านกาแฟ ปริมาณคาเฟอีนโดยเฉลี่ยอยู่ที่100 มิลลิกรัมต่อแก้ว
การเลือกซื้อกาแฟกระป๋อง
ประเภทกาแฟ
เอสเปรสโซ่
สำหรับบางยี่ห้อจะเป็นการระบุหน้ากระป๋องเลยว่า เป็นประเภทกาแฟชนิด Robusta ที่เราเกริ่นไว้ข้างต้นแล้วว่า ส่วนใหญ่แล้วกาแฟปรุงสำเร็จพร้อมดื่ม ในรูปแบบกระป๋องจะเน้นในการนำกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้ามาเป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งจะให้ความเข้มทั้งกลิ่นและรสชาติ และเป็นสายพันธุ์ที่เป็นเอกลักษณ์คู่กับประเภทกาแฟชนิดนี้คือ เอสเปรสโซ่ คือการให้รสชาติที่เข้ม และกลิ่นหอมกาแฟที่ชัดเจน
อเมริกาโน่
สำหรับบางยี่ห้อเพื่อที่จะเน้น ความกลมกล่อมในรสชาติกาแฟมากขึ้น จึงเป็นการผสมผสานระหว่างสายพันธุ์ของอาราบิก้า ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ละมุน, นุ่มนวล ร่วมกับ กาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า ที่มีกลิ่นและรสชาติเข้ม และมีกลิ่นหอมกาแฟชัดเจน จะทำให้เกิดกลิ่นและรสชาติ 2 มิติที่นอกจากจะช่วยเพิ่มความหอมกาแฟมากขึ้นแล้ว ยังช่วยให้เกิดความละมุนในการดื่มอีกด้วย
ลาเต้
ซึ่งมีทั้งแบบที่เป็นสายพันธุ์อาราบิก้า และสายพันธุ์โรบัสต้า แต่เป็นประเภทกาแฟที่มีการเติมนมและน้ำตาลเข้าไปด้วย ทำให้เกิดรสชาติความนุ่มนวลมากกว่า กาแฟดำ หรืออเมริกาโน่ ทำให้ดื่มได้ง่าย และยังได้ความหอมของกาแฟ ถือว่าเป็นอีกประเภทกาแฟ ที่คนนิยมดื่มกันไม่แพ้ 2 ประเภทข้างต้น
ตัวเลือกเสริม
กาแฟสำเร็จรูปพร้อมดื่มในแบบกระป๋อง ในวันนี้ที่ผลิตออกมาเป็นทางเลือกให้กับผู้ดื่มได้มากขึ้น กับการเห็นลักษณะการดื่มกาแฟของคน ที่เน้นความหวานน้อยลง การออกมาในรูปแบบของสูตรน้ำตาลน้อย หรือ Low Sugar ก็เริ่มมีให้เห็นมากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ทั้งต่อผู้ดื่มทั้งชายและหญิง และผู้ดื่มที่ต้องการควบคุมน้ำหนักเป็นพิเศษร่วมด้วย
ส่วนประกอบและแคลอรี่
เราควรเน้นดูที่ส่วนประกอบที่ระบุข้างกระป๋อง ว่าสัดส่วนของส่วนประกอบต่างๆ มีอะไรบ้าง และมีเปอร์เซ็นต์มากน้อยแค่ไหน รวมถึงทำให้เราได้รู้ว่าปริมาณแคลอรี่เท่าไหร่ต่อกระป๋องนั้นๆ ซึ่งเราสามารถรู้ปริมาณเฉลี่ยของแคลอรี่ ในแต่ละประเภทกาแฟ ดังนี้คือ
- กาแฟดำ 50-60 กิโลแคลอรี่
- เอสเปรสโซ่ 70-90 กิโลแคลอรี่
- ลาเต้ 80-90 กิโลแคลอรี่
- กาแฟดำรูปแบบสกัดเย็น 15 กิโลแคลอรี่
- ลาเต้รูปแบบสกัดเย็น 35 กิโลแคลอรี่
วัสดุของกระป๋อง
เหล็กเคลือบดีบุก
วัสดุในรูปแบบนี้จะมีการใช้สำหรับ เครื่องดื่มที่ไม่ได้มีการอัดแก๊สเหมือนน้ำอัดลมทั่วไป ซึ่งอาจจะมีเนื้อวัสดุที่หนา และไม่บุบง่าย แต่ในอีกทางหนี่ง เราก็ควรที่จะสังเกตในการพิจารณาเลือกซื้อในรูปแบบกระป๋องก็คือ การขึ้นสนิมรอบกระป๋องหรือมุมใดมุมหนึ่งของกระป๋อง ซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องกับการจัดเก็บร่วมด้วย
อลูมิเนียม
หลายผลิตภัณฑ์ที่เป็นกาแฟสำเร็จรูปพร้อมดื่ม ในแบบกระป๋องที่ความสะดวก และให้รสชาติอร่อยและหอมกลิ่นกาแฟแท้ๆ แต่มีการเลือกใช้วัสดุที่นำมาผลิตกระป๋องเป็น อลูมิเนียม ซี่งมีคุณสมบัติที่เป็นข้อดีดังนี้ คือ
- กระป๋องมีความเย็นเร็ว
- น้ำหนักกระป๋องเบากว่าวัสดุที่เป็นเหล็กเคลือบดีบุก
- กระป๋องคืนรูปได้ เมื่อมีแรงกดเล็กน้อย
- บีบได้ง่ายเมื่อดื่มเสร็จ และกลายสภาพในรูปของขยะ
- สามารถรีไซเคิลได้แบบ 100%
- เครื่องดื่มไม่มีกลิ่นและรสปนเปื้อนของสนิม หรือดีบุก
คำถามที่พบบ่อย
กาแฟกระป๋องกี่แคล
โดยส่วนใหญ่แล้วที่เราเลือกซื้อ กาแฟปรุงสำเร็จรูปพร้อมดื่มกันตามห้างสรรพสินค้า, ร้านค้าสะดวกซื้อ หรือตามตู้กดที่กระจายตามที่ต่างๆ นั้นจะมีหลากหลายประเภทของกาแฟ ไม่ว่าจะเป็นกาแฟดำ หรืออเมริกาโน่, เอสเปรสโซ่ หรือ ลาเต้ ที่ถือว่าเป็น3 ประเภทใหญ่ที่เรามักจะเห็น และมีคนเลือกกันมากเป็นพิเศษ
ซึ่งแน่นอนว่า กาแฟสำเร็จรูปพร้อมดื่มที่บรรจุมาในรูปแบบกระป๋องนี้ จะให้รสชาติกาแฟแท้ๆ และมีรสชาติที่อร่อยในแบบเฉพาะของแต่ละประเภทกาแฟแล้วนั้น แต่สิ่งที่เราหลายคนควรที่จะ ดูในรายละเอียดของแต่ละประเภทกาแฟว่า มีจำนวนการให้พลังงาน หรือในหน่วยกิโลแคลอรี่เท่าไหร่ เพื่อที่จะได้ปรับสมดุลกับอาหารที่เรากินไปในแต่ละมื้อ ให้พอดีกับการใช้พลังงาน และไม่ให้มีปริมาณที่มากเกินไป เพื่อที่จะเป็นการควบคุมน้ำหนักไปในตัว
โดยเฉพาะกับผู้หญิงหลายคนที่เน้นการดูแลน้ำหนัก และรูปร่างเป็นพิเศษร่วมด้วย อาจจะต้องมีการเลือกซื้อที่เน้นระดับการให้พลังงาน หรือแคลอรี่ที่ไม่มากจนเกินไป หรือสูตรน้ำตาลน้อย ที่ในวันนี้หลายผลิตภัณฑ์ก็มีการใส่ใจ เรื่องการปรับสูตรให้มีความหวานลดลง, ใช้ปริมาณน้ำตาลลดลงจากแต่ละประเภทกาแฟ เพื่อที่จะให้ผู้ดื่มทั้งผู้ชายและผู้หญิง สามารถดูแลสุขภาพตัวเอง ไปพร้อมกับความอร่อยในรูปแบบรสชาติกาแฟแท้ๆ ร่วมด้วย
ซึ่งในแต่ละผลิตภัณฑ์ก็จะมีปริมาณที่เท่ากัน หรือแตกต่างกันเล็กน้อยต่อกระป๋อง หรือต่อขวดบรรจุ เราอาจจะต้องใช้การอ่านที่ส่วนประกอบ ที่อยู่บนฉลากผลิตภัณฑ์ร่วมด้วย แต่โดยรวมแล้วค่าเฉลี่ยปริมาณแคลอรี่ หรือปริมาณการให้พลังงานต่อการดื่มกาแฟกระป๋องจะอยู่ที่ 50-60 กิโลแคลอรี่ต่อกระป๋อง ในกรณีที่เป็นกาแฟดำ ส่วนหากเป็นกาแฟใส่นมอย่าง ลาเต้จะมีค่าเฉลี่ยการให้พลังงานอยู่ที่ 80-90 กิโลแคลอรี่
ทั้งหมดนี้อย่างที่ได้กล่าวไว้แล้วคือ การที่เราได้รู้ปริมาณแคลอรี่ต่อกระป๋องที่เราเลือกดื่ม ในแต่ละประเภทกาแฟ ก็จะทำให้เราได้เฉลี่ยกับอาหารอื่นๆ ที่เรากินร่วมกันในมื้อนั้นๆ ให้อยู่ในระดับที่สมตุลต่อวัน ซึ่งหากเราแยกออกเป็นเพศและวัยนั้น ก็จะช่วยให้เราคำนวณแคลอรี่ที่เราได้จากกาแฟปรุงสำเร็จรูปพร้อมดื่ม ในรูปแบบกระป๋องนี้ได้ดีมากขึ้น ซึ่งระดับปริมาณความต้องการพลังงานต่อวัน สำหรับเพศและวัยที่แตกต่างกัน คือ
- ผู้หญิงและผู้สูงอายุ 1600 กิโลแคลอรี่ต่อวัน
- วัยรุ่นชายหญิงและผู้ชายวัยทำงาน 2000 กิโลแคลอรี่ต่อวัน
- ผู้ใช้แรงงานมากต่อวัน 2400 กิโลแคลอรี่ต่อวัน
ปริมาณคาเฟอีนเท่าไหร่ที่เราไม่ควรรับเกินต่อวัน
เราหลายคนในวันทำงาน หรือวันหยุดพักผ่อนนั้น อาจจะต้องมีการชงเครื่องดื่ม หรือซื้อเครื่องดื่มในหลากหลายรูปแบบ แต่สำหรับเครื่องดื่มกาแฟไม่ว่าจะเป็นร้อนหรือเย็นนั้น การดื่มต่อวัน ที่เราอาจจะจำเป็น ที่จะต้องพิจารณาในเรื่องปริมาณคาเฟอีน ต่อจำนวนแก้ว หรือต่อกระป๋องร่วมด้วย
ซึ่งในบางครั้งไม่ว่าจะเป็นการอยู่ที่บ้าน หรือออกไปเที่ยวนอกสถานที่ เราอาจจะมีการดื่มกาแฟมากเกินความจำเป็นของร่างกาย อย่างเช่น การสั่งกาแฟเย็นดื่มเกิน 4 แก้วต่อวัน หรือการดื่มกาแฟดำ 3 แก้วต่อวัน ซี่งในแต่ละประเภทกาแฟ ก็ให้ปริมาณคาเฟอีนที่แตกต่างกัน โดยในระดับคาเฟอีนที่เราไม่ควรรับเข้าร่างกายเกิน200 มิลลิกรัมต่อวัน หรือ 4 แก้วต่อวัน
กาแฟกระป๋องมีปริมาณคาเฟอีนเท่าไหร่
สำหรับกาแฟปรุงสำเร็จพร้อมดื่ม ในรูปแบบกระป๋อง ที่เรามักจะไปหาซื้อได้ง่ายตามร้านค้าสะดวกซื้อ โดยเฉลี่ยแล้วจะมีปริมาณระดับคาเฟอีนอยู่ที่150-160 มิลลิกรัม ซึ่งหากเปรียบเทียบกับกาแฟสด จะมีระดับปริมาณคาเฟอีนอยู่ที่100 มิลลิกรัมต่อแก้ว ซึ่งกาแฟในรูปแบบกระป๋อง มีจะปริมาณคาเฟอีนมากกว่า กาแฟสด ด้วยความเข้มของสายพันธุ์กาแฟ ที่นิยมใช้สายพันธุ์โรบัสต้า มากกว่าอาราบิก้า
อาการเมื่อรับคาเฟอีนเข้าร่างกายเกินปริมาณ
เราหลายคนอาจจะเคยเจอกับเหตุการณ์ ที่ต้องเร่งงาน หรือต้องกระตุ้นประสาทและสมอง เพื่อให้สามารถทำงานได้เกินชั่วโมง ที่ร่างกายควรจะเป็น อย่างเช่น ในหนึ่งวันเราจะทำงานกันเฉลี่ยต่อวันคือ 8-12 ชั่วโมง แต่ในบางครั้งเราก็จำเป็นที่จะต้อง ใช้กาแฟมาช่วยให้เรา ไม่ง่วงและยังสามารถต่อได้อีก
ซึ่งในแต่ละประเภทกาแฟ อย่างเช่น อเมริกาโน่, ลาเต้ หรือ เอสเปรสโซ่นั้น ต่างก็ให้ปริมาณคาเฟอีนที่ไม่เท่ากัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับความเข้มของกาแฟแต่ละสายพันธุ์ที่นำมาชง, รูปแบบการชง, ปริมาณกาแฟที่นำมาชง และที่สำคัญคือ กาแฟแต่ละประเภท อย่างเช่น กาแฟดำ ย่อมจะให้ปริมาณคาเฟอีน ที่มากกว่ากาแฟที่ใส่นมและน้ำตาลอย่างแน่นอน
มากกว่านั้นก็คือ รู้หรือไม่ว่าการรับปริมาณคาเฟอีนมากจนเกินไป อาจมีผลข้างเคียงต่อร่างกาย ที่เราสามารถรับรู้ได้จากอวัยวะต่างๆ และโดยเฉพาะประเภทกาแฟที่ไม่มีการผสมนมเพิ่มเข้าไป จะมีความเข้มและมีปริมาณคาเฟอีนมากกว่า กาแฟในรูปแบบที่ผสมนมและน้ำตาลเข้าไป ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่เราควรตรวจสอบร่างกาย และอวัยวะของตัวเองว่า เป็นสัญญาณที่บอกว่า เราอาจจะรับคาเฟอีนมากจนเกินไปแล้ว
- ปวดศีรษะ
- นอนไม่หลับ
- ความดันโลหิตสูง
- ใจสั่น
- คลื่นไส้, อาเจียน
การผลิตกาแฟกระป๋องเบอร์ดี้
สรุป
เครื่องกาแฟถือว่าเป็นเครี่องดื่มที่ยอดนิยม สำหรับคนส่วนใหญ่ในทุกวันนี้ ที่นอกจากกลิ่นหอมและรสชาติกาแฟที่เข้มแล้ว ยังช่วยในการปลุกความสดชื่นให้กับเราทุกคนในตอนเช้า ไม่ว่าจะเป็นการชงเป็นเครื่องดื่มร้อนหรือเย็น ทำให้ได้รสชาติกาแฟแท้ๆ ที่ไม่แพ้กาแฟสด อีกทั้งยังเป็นกาแฟกระป๋องที่เราสามารถหาซื้อได้ง่ายๆ ทั้งแบบตู้กดเครื่องดื่ม หรือร้านค้าสะดวกซื้อ ในวันนี้ที่มีตัวเลือกเสริม ด้วยการออกใหม่กับสูตรน้ำตาลน้อย สำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพร่วมด้วย
ควบคุมและดูแลการผลิตคอนเท้นส์ ชื่นชอบที่จะนำเสนอคอนเท้นส์ที่ดีๆ มีประโยชน์ให้กับท่านผู้อ่าน
กาแฟกระป๋อง BON TRE
-กลิ่นหอมอาราบิก้า หวานน้อย
-ช่วยลดความอ่อนล้าและลดความเครียด
กาแฟกระป๋อง NESCAFE
-รสชาติเข้มข้นกาแฟแท้ กลิ่นหอม อร่อย
-บรรจุจำนวน 6 กระป๋อง/แพ็ค
กาแฟกระป๋อง Segafredo
-สามารถเก็บรักษาได้ยาวนาน 1 ปี 6 เดือน
-สูตรลาเต้ หอมกลมกล่อม สไตล์อิตาเลี่ยนแท้ๆ
กาแฟกระป๋อง UFC Velvet
-ปริมาณสุทธิ 180 มิลลิลิตร จำนวน 30 กระป๋อง
-ช่วยเพิ่มความสดชื่น ตื่นตัว และกระปรี้กระเปร่า
กาแฟกระป๋อง Casa Lapin
-กาแฟคั่วเข้ม รสชาติเข้มข้น มีความเปรี้ยวเล็กน้อย
-สามารถเลือกได้ 3 รสชาติ ทานง่าย พกพาสะดวก
กาแฟกระป๋อง คาราบาว
-รสเอสเพรสโซ เข้มข้น อร่อย หอมละมุน
-เหมาะสำหรับดื่มคลายความง่วง
กาแฟกระป๋อง UCC
-รสชาติเข้มข้น หอม หวานน้อย อร่อย
-ผลิตจากเมล็ดกาแฟคั่วบด 100 %
กาแฟกระป๋อง Mon Passion
-ผ่านการคั่วตามสไตล์ฝรั่งเศส หอม เข้มข้น
-ผลิตจากเมล็ดกาแฟอาราบิก้า 100 %
กาแฟกระป๋อง Birdy
-รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม หอมกลิ่นกาแฟ
-เหมาะสำหรับเพิ่มความสดชื่น ยามเช้า
กาแฟกระป๋อง Arabus
-สามารถเลือกได้ 2 รสชาติ ทานง่าย พกพาสะดวก
-กาแฟพร้อมดื่ม หอม เข้ม นุ่ม ละมุน กลมกล่อมเน้นๆ