แมส คืออะไร
Mask หรือที่แปลความหมายได้ว่า หน้ากากอนามัย คือหน้ากากที่ใช้สำหรับช่วยป้องกันเชื้อโรคต่างๆ ป้องกันมลพิษ สารพิษ และโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ โดยจะทำมาจากผ้าทอและผ้าชนิดที่ไม่ถักทอ ได้แก่ ผ้าฝ้าย ฝ้ายผสมเส้นใยสังเคราะห์ เส้นใยพอลีเอสเตอร์ ผ้าสปันบอนด์ที่สามารถระบายอากาศได้ดี หรือเส้นใยพอลีพรอไพลีน เป็นต้น
ซึ่งในปัจจุบันนี้ Mask กลายเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องใส่ก่อนออกจากบ้านเป็นประจำทุกวัน นอกจากการพก แอลกอฮอล์ และ เจลล้างมือ เนื่องจากการป้องกันเชื้อโรคต่างๆ โดย Mask ที่เราใส่อยู่นั้นก็จะผลิตด้วยผ้าที่แตกต่างกัน รวมไปถึงคุณสมบัติในการป้องกันเชื้อโรคด้วย บางรุ่นสามารถป้องกันฝุ่นละอองได้ดี บางรุ่นป้องกันการฟุ้งกระจายของน้ำลายในอากาศ และบางรุ่นสามารถกรองกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้
ในปัจจุบันนี้นอกจาก Mask จะช่วยป้องกันเชื้อโรคและฝุ่นละอองต่างๆ แล้ว ยังกลายเป็นแฟชั่นในการแต่งตัวที่หลายๆ คนชื่นชอบไปแล้ว เพราะทำให้บุคลิกและหน้าตาที่เห็นเพียงครึ่งใบหน้าดูเปลี่ยนไปจากการใส่ Mask ดังนั้นจึงมี Mask ที่เป็นเสมือนแฟชั่นขึ้นมา ซึ่งในบางครั้งอาจจะไม่สามารถกันเชื้อโรคได้ แต่ใส่เป็นเพียงเครื่องประดับที่ต้องใส่และให้เข้ากับชุดที่ใส่เท่านั้น
แมสมีกี่ประเภท
1. หน้ากากทางการแพทย์
เป็นหน้ากากอนามัยที่เมื่อก่อนเราจะพบเห็นเมื่อไปโรงพยาบาล เพราะจะมีคุณหมอและพยาบาลใส่เมื่อปฏิบัติงาน ผลิตมาจากผ้าหรือพอลิโพรไพลีน ซึ่งเป็นพลาสติกที่มีความปลอดภัย และป้องกันโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ลดและป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัสต่างๆ ได้ถึง 99% โดยให้ใส่ด้านที่เขียวออกมาด้านนอก เพื่อเป็นการป้องกันการได้รับสารคัดหลั่งจากคนอื่น นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันฝุ่นละอองต่างๆ ได้อีกด้วย
2. หน้ากากคาร์บอน
เป็นหน้ากากอนามัยที่มีสีดำ มีคุณสมบัติคล้ายกับหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ แต่จะหน้ากากอนามัยแบบคาร์บอนหรือ หน้ากากอนามัยสีดํา จะเพิ่มชั้นคาร์บอนขึ้นมาช่วยในการกรองกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้ดีกว่าหน้ากากอนามัยโดยทั่วๆ ไป มีใยสังเคราะห์ 4 ชั้น ช่วยกรองเชื้อแบคทีเรียต่างๆ ได้ถึง 95% และช่วยกรองฝุ่นละอองที่มีขนาด 3 ไมครอน ป้องกันได้ถึง 66.37%
3. หน้ากาก N95
เป็นหน้ากากอนามัยที่สามารถช่วยป้องกันเชื้อโรคที่มีขนาดเล็กมากๆ ได้ดี หน้ากาก N95 จะครอบลงไปที่บริเวณหน้าปากและจมูกได้อย่างมิดชิด จึงทำให้เชื้อโรคและฝุ่นละอองต่างๆ ไม่สามารถลอดผ่านเข้าไปได้ หน้ากาก N95 ผลิตขึ้นจากโพลีโพรพีลีน ดักจับอนุภาคขนาดเล็กมากอย่างฝุ่น PM2.5 และ PM10 ไม่น้อยกว่า 95%
4. หน้ากาก FFP1
เป็นหน้ากากหรือแมสที่มีคุณสมบัติคล้ายกับหน้ากากอนามัย N95 โดยมีความเว้าที่ครอบลงไปที่บริเวณหน้าปากและจมูกอย่างมิดชิดเช่นกัน และยังช่วยป้องกันเชื้อโรคที่มีขนาดเล็กๆ ป้องกันฝุ่น เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัสต่างๆ ในปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็กๆ เช่น PM 2.5 และ PM10 ได้ไม่น้อยกว่า 94% ทั้งป้องกันสารเคมีฟูมโลหะได้ด้วย
5. หน้ากากกันฝุ่นทั่วไป
เป็นหน้ากากอนามัยที่ใช้กันโดยทั่วไป ซึ่งใช้สำหรับป้องกันฝุ่นละอองและป้องกันการกระจายของน้ำลาย น้ำมูกต่างๆ ซึ่งจะผลิตขึ้นจากผ้าฝ้าย และหน้ากากกันฝุ่นทั่วไปอีกชนิดหนึ่งผลิตจากใยสังเคราะห์แล้วนำมาซ้อนทบกันเพื่อให้ สามารถป้องกันและกรองฝุ่นได้ สามารถป้องกันเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียต่างๆ ในอากาศได้
6. หน้ากากฟองน้ำ
หน้ากากประเภทนี้ผลิตมาจากโพลียูรีเทนคาร์บอน ซึ่งใช้สำหรับกรองอากาศโดยเฉพาะ เมื่อใช้เสร็จแล้วสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ โดยนำไปซักทำความสะอาดแล้วตากให้แห้ง ซึ่งหน้ากากฟองน้ำจะคืนตัวแม้จะซักหรือจะพับ ก็สามารถกลับคืนเป็นรูปเดิมได้อย่างไม่เสียทรง มีคุณสมบัติในการช่วยป้องกันฝุ่นละอองและเกสรดอกไม้ได้ดี
หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ คืออะไร
หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ เป็นหน้ากากอนามัยที่ใช้สำหรับปิดปากและจมูก เพื่อเป็นการป้องกันและลดการได้รับเชื้อโรคต่างๆ เช่น ฝุ่นละออง แบคทีเรีย เชื้อรา น้ำลาย น้ำมูก และเชื้อไวรัส เป็นต้น ซึ่งเชื้อเหล่านี้จะสามารถแพร่กระจายจากคนสู่คน หรือจะเป็นจากสัตว์สู่คนมักจะใช้ในวงการแพทย์ แต่ปัจจุบันมีวางขายอย่างแพร่หลาย เนื่องจากหน้ากากอนามัยทางการแพทย์สามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ได้
หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ได้ผลิตขึ้นจากผ้าหรือพอลิโพรไพลีน ซึ่งเป็นพลาสติกที่มีความปลอดภัย จึงสามารถใช้เพื่อช่วยในการป้องกันโรคที่เกิดจากระบบทางเดินหายใจต่างๆ โดยหน้ากากอนามัยทางการแพทย์นั้นจะป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อไวรัสที่เรากำลังพบเจออยู่นี้ ได้ถึง 99% เลยทีเดียว จึงถือว่าเป็นหน้ากากอนามัยที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ต้องการในสถานการณ์ ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19
สำหรับวิธีการใส่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ จะมี 2 ด้านด้วยกัน ให้ใส่ด้านที่มีสีเขียวออกมาด้านนอก เพื่อเป็นการป้องกันการได้รับสารคัดหลั่งจากคนอื่นมาสู่ตัวเราไม่ว่าจะเป็นการไอจามที่มีน้ำลาย น้ำมูก หรือเสมหะ หน้ากากอนามัยทางการแพทย์จะช่วยป้องกันฝุ่นละอองและเกสรดอกไม้ ที่มีขนาดเล็กสุดได้ถึง 3 ไมครอนเลยซึ่งสามารถป้องกันได้ถึง 66.37%
หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ ส่วนประกอบ มีกี่แบบ
1. หน้ากากอนามัยทางการแพทย์แบบทั่วไป
หน้ากากอนามัยทางการแพทย์แบบทั่วไป เป็นหน้ากากอนามัยที่คุณหมอหรือคุณพยาบาลใช้ เมื่อต้องตรวจรักษาคนไข้โดยทั่วไป หรือต้องพบปะกับคนไข้ที่มารักษาที่โรงพยาบาล อนามัย หรือตามคลินิกต่างๆ เพื่อป้องกันเชื้อโรค เชื้อรา ฝุ่นละออง และแบคทีเรียต่างๆ ที่มาจากการไอจาม หรือเชื้อโรคที่อยู่ในอากาศ ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายต่อร่างกายทำให้เจ็บป่วยได้หากรับเข้าสู่ร่างกาย
2. หน้ากากหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ที่ใช้ในการผ่าตัด
หน้ากากอนามัยที่ใช้ในการผ่าตัดนั้นจะมีส่วนที่เป็นพลาสติกที่ดี มีคุณสมบัติที่ช่วยในการป้องกันความชื้น กันน้ำ หรือสารคัดหลั่งจากผู้อื่นเข้ามาสู่ตัวได้ ซึ่งในขณะที่หมอผ่าตัดนั้น มีทั้งเลือด เชื้อโรค แบคทีเรีย น้ำลาย หรือสารคัดหลั่งต่างๆ ในร่างกายของคนไข้ ทำให้ต้องใส่หน้ากากอนามัยที่ช่วยป้องกันสารเหล่านี้ รวมถึงยังช่วยในการกรองกลิ่นต่างๆ ในขณะที่ทำการผ่าตัดด้วย
ความแตกต่างของแมส กับ หน้ากากอนามัยทางการแพทย์
Mask เป็นหน้ากากอนามัยที่ใส่เพื่อปิดจมูกและปาก สามารถป้องกันได้หลายอย่างด้วยกัน เช่นกันฝุ่นละอองกัน เชื้อโรคต่าง ๆ กันเกสรดอกไม้ และป้องกันเชื้อแบคทีเรีย โดยปัจจุบันมีหลายรูปแบบด้วยกัน ทั้งแบบที่ใช้แล้วทิ้งหรือแบบที่สามารถซักแล้วนำกลับมาใช้ได้ใหม่อีกครั้ง มีสีสันสวยงามให้ได้เลือกซื้อ ซึ่งจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อแบคทีเรียได้ถึง 95%
หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ เป็นหน้ากากผลิตขึ้นจากผ้าหรือพอลิโพรไพลีนที่เป็นพลาสติก ซึ่งมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้ หน้ากากมีชั้นกรองอย่างน้อย 3 ชั้น มีประสิทธิภาพในการป้องการเชื้อโรค เชื้อรา แบคทีเรีย ฝุ่นละออง และสารคัดหลั่งต่างๆ ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานและได้รับอนุญาตให้นำมาใช้ในทางการแพทย์ จึงเรียกว่าหน้ากากอนามัยทางการแพทย์
แมส จะมีประสิทธิภาพและวิธีการใช้เหมือนกับหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ จะช่วยในการป้องกันเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส และฝุ่นละอองต่างๆ ได้ แต่ Mask จะสามารถป้องกันเชื้อแบคทีเรียต่างๆ ได้สูงสุด 95% แต่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์มีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อแบคทีเรียได้ถึง 99% จึงถือว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันที่มากกว่า
แมส หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ใช้ป้องกันอะไรได้บ้าง ประโยชน์
1. ป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19
เชื้อไวรัสโควิด-19 นี้เป็นเชื้อโรคชนิดใหม่ที่มีในปี 2019 ถือเป็นเชื้อที่มีความรุนแรงและพรากชีวิตคนที่รักไปแบบไม่ได้สั่งลา ซึ่งวิธีการป้องกันในเบื้องต้นก็คือการใส่ Mask และหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ เพื่อเป็นการป้องกันเชื้อไวรัส ป้องกันน้ำลาย น้ำหมู เสมหะ หรือสารคัดหลั่งต่างๆ จากผู้อื่นมาสู่ตัวเรา และอาจจะทำให้ติดเชื้อโควิด-19 ได้
2. ป้องกันฝุ่น
เนื่องจากปัญหาฝุ่นและมลพิษต่างๆ ในปัจจุบันที่มีเพิ่มขึ้น รวมไปถึงปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่หลายๆ ประเทศได้รับผลกระทบ หลายคนที่ไม่ได้สัมผัสคงคิดว่าเป็นแค่ฝุ่นธรรมดา แต่ปัญหาฝุ่น PM 2.5 นั้น สามารถทำให้ระคายเคืองตา ตาแดง มีน้ำมูกไหล คัดจมูก ไอจาม อาการภูมิแพ้ หอบหืดกำเริบ ซึ่งหากได้รับเป็นเวลานานๆ มีผลทำให้เสี่ยงต่อโรคระบบทางเดินหายใจได้ ซึ่ง Mask สามารถป้องกันฝุ่น PM 2.5 ได้ถึง 95%
3. ป้องกันการติดเชื้อต่างๆ
ในแต่ละวันที่ออกจากบ้านนั้น เราไม่รู้เลยว่ามีเชื่อโรคอะไรที่อยู่ในอากาศบ้าง รวมไปถึงมลพิษต่างๆ ที่เราต้องออกไปพบเจอหรือสัมผัส ทำให้ได้รับเชื้อเหล่านั้นเข้ามาในร่างกาย จึงเจ็บป่วยได้ง่ายๆ โดยไม่รู้ตัว การใส่แมสเป็นการป้องกันการติดเชื้อจากผู้คนและสิ่งต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นลดการติดเชื้อจากการพูดคุย ซึ่งอาจมีน้ำลายกระจายออกมา หรือการไอจามใส่หน้า เป็นต้น
4. ป้องกันการแพร่เชื้อโรค
ในบางครั้งเราเองก็ไม่รู้ได้เลยว่าเรามีภาวะเสี่ยงหรือมีเชื้อใดๆ อยู่ในร่างกายหรือไหม เช่น เป็นหวัด เป็นไข้ ภูมิแพ้ต่างๆ ซึ่งมีอาการอยู่บ้างแต่ยังไม่มาก การใส่ Mask จะเป็นการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคจากตัวเราไปสู่ผู้อื่นได้อีกด้วย ซึ่งวิธีนี้เป็นการปกป้องคนที่คุณรัก และยังเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมอีกด้วย
แมส สีเขียว กับสีฟ้า ต่างกันอย่างไร
Mask ในปัจจุบันมีหลากหลายสีด้วยกัน แต่ในช่วงแรกๆ จะมีสีเขียวและสีฟ้า ซึ่งทั้ง 2 สีนี้ไม่ได้มีความแตกต่างกันที่สี เพราะเนื่องจากว่า Mask ส่วนที่เป็นสีเขียวหรือสีฟ้านั้น จะมีสารพลาสติกที่ช่วยป้องกันน้ำ ความชื้น เชื้อรา ซึ่งความสำคัญนั้นไม่ได้อยู่ที่สี หรือไม่สามารถวัดคุณภาพจากสีของ Mask ได้
แมสสีเขียวและสีฟ้านั้น ถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์และใช้โดยทั่วไป ซึ่งอย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับคุณภาพ รวมไปถึงต้องได้รับการรับรองมาตรฐานว่าสามารถป้องกันเชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา ฝุ่นละออง และสารคัดหลั่งต่างๆ ได้ โดยสีเขียวและสีฟ้าถูกออกแบบมาเพื่อความสบายตา เหมือนเช่นกับสีฟ้าม่าน ที่นอน หรือชุดคนไข้ในโรงพยาบาล เนื่องจากเป็นสีที่สบายตา ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นสีเขียวหรือสีฟ้าก็มีความปลอดภัยทั้งนั้น
วิธีใส่แมสที่ถูกต้อง
1. ความสะอาด
ก่อนที่จะใส่ Mask ต้องทำความสะอาดมือให้เรียบร้อย โดยการล้างมือให้สะอาดหรือฉีดแอลกอฮอล์ และให้มือแห้งเสียก่อน จากนั้นดูว่า Mask ที่จะใส่นั้นเป็นแบบใหม่ที่สะอาด หรือไม่ได้ผ่านการใส่มาแล้ว เพราะการที่เรานำมาใส่ซ้ำ อาจจะมีเชื้อโรคที่ติดอยู่ และเมื่อนำมาใช้อีกครั้ง จะทำให้เชื้อโรคเหล่านั้นเข้าสู่ร่างกายของเราได้
2. ใส่ให้คลุมทั้งจมูกและปาก
ควรสวมหน้ากากอนามัยให้คลุมทั้งจมูกและปาก ใส่ให้แนบชิดกับใบหน้า ให้ขอบที่มีรวดอยู่ด้านบนสันจมูก และสังเกตดูรอยจีบพับของแมสให้คว่ำลง จากนั้นดึงขอบของหน้ากากให้ครอบตั้งแต่จมูกจนถึงคาง เลือกด้านที่มีสีเข้มหรือมีลักษณะเป็นมันวาวให้อยู่ด้านนอก ให้ด้านที่มีสีอ่อนหรือสีขาวหันเข้าหาตัว แล้วกดตรงขดลวดให้รัดกับจมูก
3. ใส่ด้านไหนถูก
การใส่ Mask เพื่อป้องกันเชื้อโรค แบคทีเรีย เชื้อรา และสารคัดหลั่งต่างๆ จากผู้อื่นไม่ให้เข้าสู่ร่างกายของเรา ให้หันสีที่เห็นชัด สีเข้มหรือมีลักษณะเงาๆ เป็นมันวาวออก เนื่องจากด้านนี้จะมีพลาสติกดี หรือมีสารที่เคลือบเพื่อช่วยในการป้องการเชื้อโรคและสารคัดหลั่งต่าง ๆ จากผู้อื่นแพร่กระจายเข้าสู่ร่างกายของเราได้ และหันด้านที่เป็นสีขาวเข้าข้างใน
4. แมสสีขาวใส่ด้านไหน
ปัจจุบันไม่ได้มีเพียงสีเขียว สีฟ้าเท่านั้น เรามักจะเห็น Mask ที่มีสีเดียวกันทั้ง2 ด้าน หากเป็นสีขาวทั้ง 2ด้าน เราจะใส่แบบไหน ก่อนอื่นเลยให้สังเกตจากผิวว่าระหว่าทั้ง 2 ด้านนี้ด้านใดที่นุ่มกว่า ให้เลือกด้านนั้นเข้าหาตัวเนื่องจากจะช่วยในการดูดซับความชื้น และด้านที่หยาบหรือมีความเงาวาวให้อยู่ด้านนอก เพราะมีสารเคลือบป้องกันน้ำและเชื้อโรคต่างๆ
วิธีเลือกซื้อแมส
1. เลือกซื้อที่ได้มาตรฐาน
เมื่อจะซื้อ Mask เพื่อต้องการมาใช้งานสักกล่องนั้น จะต้องเลือกที่ได้มาตรฐาน เพราะจะสามารถช่วยป้องกันเชื้อโรคต่างๆ ได้จริง โดยให้สังเกตจากกล่องว่ากล่องอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์หรือไม่ กล่องต้องไม่มีรอยบุบ ไม่ชำรุด หรือถูกเปิดมาก่อนแล้ว จากนั้นให้อ่านรอบกล่องว่าได้มีการระบุประเภท มีคำแนะนำการใช้งาน และที่สำคัญต้องระบุแหล่งผลิตและประเทศที่นำเข้า มีวันเดือนปีที่ผลิต และวันหมดอายุระบุไว้อย่างชัดเจน
2. ต้องไม่มีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์
เมื่อเปิดกล่องออกมาให้สูดดมกลิ่นดูว่ามีกลิ่นอับชื้น กลิ่นสีที่อยู่กับแมส หรือกลิ่นพลาสติกติดมาหรือไม่ เพราะกลิ่นเหล่านี้เมื่อเราสูดดมเข้าไปเป็นเวลานานๆ เนื่องจากต้องใส่เป็นประจำและใส่ตลอดทั้งวัน อาจจะทำให้มีอาการเวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน และอาจจะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ จึงควรเปิดเช็คก่อนน้ำหน้ากากมาใช้ทุกครั้ง
3. เลือกซื้อที่มีแผ่นกรอง
แผ่นกรองถือเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของหน้ากากอนามัย เพราะแผ่นกรองจะช่วยกรองฝุ่น เชื้อโรค เชื้อแบคทีเรีย ซับความชื้นต่างๆ ไว้ หน้ากากอนามัยที่ผลิตออกมาบางครั้ง อาจจะแค่ทำให้ดูหนาแต่ไม่มีแผ่นกรองในนั้น จึงควรตรวจสอบดูให้แน่ใจก่อน บางคนอาจจะอ่านที่ส่วนประกอบหรือบางคนจะตัดเพื่อดูส่วนประกอบข้างใน เพราะหากเลือกใช้ที่ไม่ได้คุณภาพ อาจจะเกิดการเสี่ยงติดเชื้อโรคต่างๆ ได้
4. เลือกซื้อที่กันน้ำได้
อีกหนึ่งคุณสมบัติของ Mask ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือป้องกันน้ำ Mask สีเขียว สีฟ้า จะมีสารเคลือบเพื่อป้องกันน้ำ ดังนั้นหากต้องการอยากรู้ว่า Mask ที่เราใช้อยู่นั้นกันน้ำได้จริงหรือไม่ ให้นำด้านที่เป็นสีนั้นไปทดสอบด้วยการรองน้ำดู ถ้าเปียกแสดงว่ากันน้ำไม่ได้ ให้รีบทิ้งและซื้อใหม่ โดยเลือกที่เป็นที่นิยมใช้ในทางการแพทย์ หรือที่ได้รับการรับรองมาตรฐานไปใช้
ทำไมใส่แมสแล้วสิวขึ้น เกิดจากอะไร
1. การเสียดสีกับผิวหน้า
เนื่องจากการใส่ Mask เป็นเวลานานๆ โดยในขณะที่เราพูดคุยจะมีการขยับของใบหน้า Mask จึงมีการเสียดสีกับหน้าของเราอยู่เป็นประจำ ทำให้เกิดผดผื่น ผื่นคัน ผิวหยาบกร้าน และปัญหาสิว อีกทั้งในแต่ละวันจะมีทั้งการพูด การไอจาม จึงทำให้มีน้ำลายและเหงื่อที่สะสมอยู่ใน Mask จึงทำให้ผิวไม่สะอาด เกิดการระคายเคือง และเป็นสิวตามมาได้
2. การใช้ผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางกับใบหน้า
การใช้ผลิตภัณฑ์บนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นครีมบำรุง , ครีมกันแดดหน้า , กันแดดสำหรับคนเป็นสิว และเครื่องสำอาง เช่น แปรงปัดแก้ม , แป้งพัฟคุมมัน , บลัชออน , รองพื้น , แป้งฝุ่น , กระดาษซับมัน เป็นต้น ที่อาจจะมีส่วนผสมของน้ำมันต่างๆ หรือสารที่ก่อให้เกิดการอุดตันตามรูขุมขน ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวง่ายขึ้น ดังนั้นจึงควรเลือกเครื่องสำอางที่เหมาะกับสภาพผิว และผลิตภัณฑ์ที่ป้องกันและลดการเกิดสิว
3. สิวเกิดจากปัจจัยความเครียด
การเกิดสิวนั้นอาจจะไม่ได้เกิดจากแมสหรือเครื่องสำอาจเท่านั้น แต่ปัญหาความเครียดในแต่ละวันก็ส่งผลให้ฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนไป จึงเกิดสิวได้ง่าย เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ปัญหาเรื่องการเงิน และโรคภัยต่างๆ อาจจะส่งผลให้เกิดสิวได้ง่าย จึงควรพักผ่อนให้เพียงพอ ปล่อยวาง และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
วิธีการป้องกันสิวจากการใช้แมส
- ในแต่ละวันนั้นเราต้องใส่หน้ากากอนามัยเป็นเวลานานๆ และใส่ยาวนานตลอดทั้งวัน จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดสิว ดังนั้นในแต่ละวันควรจะมีการถอดออกบ้าง แต่ควรถอดในสถานที่ส่วนตัว เช่น ขณะที่ขับรถไปทำงาน ในห้องทำงานซึ่งทำคนเดียวหรือมีที่กั้นอย่างดี ต้องห่างจากผู้คน อย่างน้อย 2 เมตรควรถอดเป็นเวลา 10 -15 นาที ในทุกๆ 4 ชั่วโมง
- ควรงดผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางที่มีความน้ำมัน ซึ่งจะก่อให้เกิดการอุดตันตามรูขุมขน หรือเมื่อใส่แมสก็อาจจะไม่แต่งหน้าในบริเวณที่ใส่ เพื่อลดการใช้เครื่องสำอางที่จะทำให้เกิดสิว นอกจากจะเป็นการลดการเกิดสิวยังช่วยประหยัดเครื่องสำอางได้อีกด้วย
- ควรล้างหน้าให้สะอาด โดยใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนต่อผิว ผลิตภัณฑ์ที่ลดการเกิดสิว ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว เพื่อเป็นการไม่ทำร้ายผิวหน้าขณะที่ทำความสะอาด และเป็นการล้างสิ่งสกปรกและความมันที่สะสมมาตลอดทั้งวันออกไป
- ต้องหมั่นเปลี่ยนหน้ากากอนามัยอย่างน้อย ในหนึ่งวันควรเปลี่ยนสัก 1 -2 อัน เพื่อเป็นการทิ้งสิ่งสกปรกและหน้ากากอนามัยอาจจะมีเชื้อโรคติดอยู่ และเป็นการลดการสะสมคราบสกปรกที่ทำร้ายผิวหน้าด้วย หากใช้หน้ากากอนามัยที่สามารถซักได้ ต้องซักทำความสะอาดทุกวัน แตกแดดให้แห้ง และใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่อ่อนโยน จะช่วยให้สิวไม่ขึ้นบนใบหน้า
แมส หน้ากากอนามัยที่บ้านเราใช้ มีแบบไหนบ้าง
สรุป
แมสและหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับผู้คนในยุคปัจจุบัน เพราะเป็นการป้องกันเชื้อโรค แบคทีเรีย รวมไปถึงฝุ่นละอองต่างๆ ซึ่งจะต้องคำนึงถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยเป็นสำคัญ ดังนั้นจึงควรเลือกซื้อและใส่อย่างถูกวิธี อย่าไรก็ตามควรทำความสะอาดและผิวหน้าเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาสิวที่ตามมาจากการใส่แมสด้วย
อ้างอิง
หน้ากากอนามัย กับการป้องกัน COVID-19 : คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล
ใส่แมสก์หรือหน้ากากอนามัย แล้วทำไมสิวขึ้น? : โรงพยาบาลเมดพาร์ค
เจ้าของร้านขายยาโดยเภสัชกรชั้นนำหลายสาขา ขายดีจ่ายยาแล้วคนไข้หายจนเป็นที่ยอมรับ การศึกษาปริญญาตรีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโทจากประเทศออสเตรเลีย มีความรู้ และประสบการณ์เกี่ยวกับ สุขภาพ อาหารเสริม ตลอดจนอุปกรณ์ทางการแพทย์ ประสบการณ์ยาวนานมากกว่า 10 ปี
แมสทางการแพทย์ Double A Care
-ผลิตจากเส้นใยสังเคราะห์ 3 ชั้น มีโครงลวดตรงกลาง
-สามารถปรับความกระชับตามรูปหน้า ทรง V-SHAPE
-หน้ากากขนาด 8.5 ซม. x 20.5 ซม. บรรจุ 50 ชิ้น/กล่อง
แมสทางการแพทย์ PXSTER
-หน้ากากขนาด 9.5 ซม. x 17.2 ซม. บรรจุ 50 ชิ้น/กล่อง
-มีประสิทธิภาพการกรองอนุภาคขนาดเล็ก 0.1 μm 99%
แมสทางการแพทย์ G Lucky
-หน้ากากอนามัยชั้นกรอง 3 ชั้น สีดำ ชนิดสายยางยืด
-สามารถป้องกันไวรัสและแบคทีเรีย หายใจสะดวก
แมสทางการแพทย์ Welcare
-รูปทรง 3 D เข้ากับรูปหน้า สายคล้องหูทักทอแบบพิเศษ
-สามารถป้องกันเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย และละอองฝุ่นได้ดี
แมสทางการแพทย์ Yamada
-สามารถป้องกันสารคัดหลั่งและการกระเซ็นของเลือดได้
-ผลิตจากผ้าใยสังเคราะห์ ชั้นกรอง 3 ชั้น ยับยั้งแบคทีเรีย
แมสทางการแพทย์ Walias
-แนบเนียนสนิทเข้ากับรูปทรงหน้าทุกแบบ มี 3 สีให้เลือก
-ป้องกันความชื้น ปลอดสารพิษ และไม่ระคายเคืองผิว
แมสทางการแพทย์ Dr.Hygiene
-ขอบอลูมิเนียมปรับตามรูปจมูกมิดชิด ป้องกันแบคทีเรียได้ดี
-สายคล้องหูตามมาตราฐานกำหนด น้ำหนักเบา กรอง 3 ชั้น
แมสทางการแพทย์ Omedo
-ประสิทธิภาพกรองอนุภาค PM2.5 มากกว่า 99 %
-ประสิทธิภาพกรองแบคทีเรียมากกว่า 99 %
แมสทางการแพทย์ 3M Nexcare
-สามารถป้องกันฝุ่นละอองและกรองกลิ่นไม่พึ่งประสงค์
-น้ำหนักเบา ไม่อับชื้น สัมผัสนุ่ม ไม่บาดหน้า
แมสทางการแพทย์ MICROTEX
-สายคล้องหูไม่ตึงหรือหย่อยเกินไป ชั้นกรอง 3 ชั้น
-เหมาะกับการใช้งานทั่วไปในสถานพยาบาลหรือโรงงาน