10 bean bag ยี่ห้อไหนดี 2024 เก๋ๆ นั่งสบาย เม็ดโฟมดี มีคุณภาพ

Bean bag คืออะไร

คือ เก้าอี้หรือที่นั่งอย่างหนึ่ง ที่มีลักษณะเด่นของวัสดุที่อัดด้านในเป็นเม็ดโฟม เราสามารถเรียกเก้าอี้รูปแบบนี้ว่า เป็นถุงนั่ง หรือ บีนแบ็ก จริงๆ แล้วสิ่งที่ทำให้เก้าอี้ในรูปแบบนี้เป็นที่สนใจ และน่าดึงดูดคือ รูปแบบที่หลากหลาย และเม็ดโฟมที่อยู่ด้านในบีนแบ็กนั่นเอง ใช้งานได้หลากหลายประโยชน์ เช่น นั่งดื่ม กาแฟสำเร็จรูป แบบชิวๆในวันพักผ่อน หรือจะไว้ดูทีวีกับ android box ที่อัจฉริยะสามารถดูได้ทั้ง Netflix และyoutube

สิ่งที่ทำให้ Bean bag แตกต่างจากเก้าอี้แบบอื่น

ที่นั่งบีนแบ็กนั้นอาจไม่ใช่ตามแนวกระแส หรือตามแทรนด์การแต่งบ้าน ที่จำเป็นต้องมีที่นั่งในแบบที่กำลังนิยมนี้ มาเป็นหนึ่งในเฟอร์นิเจอร์ในการแต่งห้องของเราอีกแล้ว เพราะวันนี้ที่เราต่างมองเห็นในจุดดีของที่นั่งแบบนี้ ที่ไม่เพียงแต่รูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความสบายในการใช้งานได้จริงร่วมด้วย เรามาดูกันว่าเพราะอะไร บีนแบ็ก ถึงเป็นไอเท็มที่ไม่ตกยุค

1.รูปแบบวางพื้น

หากเราพูดถึงที่นั่งหรือเก้าอี้นั้น เราคงต้องนึกถึงภาพ ของที่นั่งที่มี 4 ขายึดไว้บนพื้น และเป็นที่นั่งที่อาจจะไม่จำเป็นต้องสูงมาก แต่ควรจะอยู่เหนือพื้น แต่ด้วยไอเดีย และการประดิษฐ์ที่แหวกแนว รวมถึงความคิดที่ไม่เหมือนใคร ไม่เพียงแต่ผลิตเก้าอี้ที่ช่วยให้นั่งสบาย กับเนื้อสัมผัสเม็ดโฟมที่อยู่ด้านในด้วยแล้วนั้น ยังถือว่าเป็นความสบาย ที่ได้นั่งแล้วยันขากับพื้น ที่ไม่ค่อยมีเก้าอี้ตัวไหนทำได้เหมือนอีกด้วย

รวมถึงด้วยลักษณะของการเป็นที่นั่ง ที่วางบนพื้นเลย และรูปแบบของ Bean bag ที่สามารถปรับรูปทรงเก้าอี้ ได้ตามรูปร่างของคนนั่ง รวมถึงการที่เราสามารถนั่ง, เอกเขนก หรือนอนได้แม้จะเป็นรูปทรงเก้าอี้ก็ตาม ยิ่งทำให้หลายคนที่ได้มาเจอกับ ที่นั่งในรูปแบบนี้ ต้องการที่จะนำมาเป็นหนึ่งในเฟอร์นิเจอร์ในบ้านของตัวเองกันบ้าง

2.เม็ดโฟมด้านในที่นั่ง

เราอาจจะคุ้นเคยทั้งเก้าอี้, โซฟา, เครื่องนอนอย่างหมอน หรือแม้แต่ตุ๊กตา ที่มีไส้ด้านในเป็นนุ่น, เส้นใยผ้า, หรือขนจากสัตว์ อย่างเช่น ขนเป็ด หรือขนห่าน เป็นต้น แต่เราคงไม่คุ้นเคยกับการใส่ไส้ด้านในของเครื่องใช้เป็นเม็ดโฟมกันเท่าไหร่ รวมถึงวัสดุที่เป็นเม็ดโฟมนี้นี่เอง ที่ทำให้เกิดความสบายในเวลาที่ได้นั่งบนบีนแบ็กนี้

การเคลื่อนตัวอย่างอิสระของเม็ดโฟมนี้ จะช่วยให้ไม่ว่าผู้นั่งจะมีน้ำหนักเท่าไหร่ก็ตาม จะช่วยให้เกิดความยืดหยุ่น ในการรับน้ำหนักตัว และสามารถปรับรูปทรงได้ตามร่างกายของผู้ที่นั่ง ขนาดของเม็ดโฟมก็มีความสำคัญ ในการช่วยให้ที่นั่งรูปแบบนี้ มีความสบายได้มากแค่ไหน เพราะโดยปกติแล้วขนาดของเม็ดโฟมจะะอยู่ที่ 3-9 มิลลิเมตร

แต่หากเราต้องการให้การนั่งบีนแบ็กนั้น มีความนั่งสบาย และให้ความรู้สึกทั้งความแน่นในการนั่ง และความยืดหยุ่นในเวลาที่สัมผัสนั่งลงไปแล้ว ควรที่จะเลือกเม็ดโฟมที่มีขนาดเล็ก อย่างเช่น ขนาด 1 มิลลิเมตร ที่ยิ่งเม็ดโฟมมีขนาดเล็กเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เกิดความแน่นในเวลานั่งมากขึ้นเท่านั้น รวมถึงความนุ่มของเนื้อเม็ดโฟมอีกด้วย

3.หลากหลายรูปทรง

เราคงจะได้เห็นรูปทรงหลากหลาย และรูปลักษณ์ภายนอกที่สร้างความโดดเด่น และแตกต่างไปจากเฟอร์นิเจอร์ที่นั่งอื่นๆ รวมถึงสีสันที่มีตั้งแต่สีพื้นเรียบๆ จนถึงสีสันสดใส และเข้มสะดุดตา จนทำให้หลายคนถูกใจ และนำไปแต่งห้อง ที่จะทำให้มีรูปแบบห้องไม่เหมือนใคร อีกทั้งรูปทรงที่หลากหลายนี้ อย่างเช่น ทรงกลม, ทรงสี่เหลี่ยมแบบกล่อง, ทรงสามเหลี่ยม ทรงหยดน้ำ เป็นต้น

4.ปรับเปลี่ยนตามรูปทรง

เมื่อเราได้นั่งเก้าอี้หรือบีนแบ็กนี้แล้ว จะยิ่งทำให้รับรู้ถึงความแตกต่างมากยิ่งขึ้น กับเก้าอี้ในรูปแบบอื่นๆ ที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปทรงของเก้าอี้ ได้ตามรูปร่างของผู้นั่ง รวมถึงการรองรับน้ำหนัก โดยที่ไม่ทำให้โครงสร้างร่างกายของเราเสียไป อีกทั้งยังสามารถใช้งานได้กับทุกวัย ตั้งแต่เด็ก จนถึงผู้ใหญ่

5.ปรับเปลี่ยนที่วางได้ง่าย

ใครหลายคนที่มักจะชอบเปลี่ยนการแต่งห้อง และเปลี่ยนที่ตั้งของเฟอร์นิเจอร์ในทุกๆ เดือน หรือทุกๆ ครึ่งปีนั้น การย้าย หรือเปลี่ยนที่วางของ Bean bag นั้นทำได้ง่ายมาก มีน้ำหนักที่เบากว่าเก้าอี้ที่ทำจากบางวัสดุเสียอีก อีกทั้งไม่สูญเสียรูปทรงได้ง่าย เมื่อวางบนพื้นแล้ว ก็จะคงรูปทรงแบบเดิม

ความเป็นมาของ Bean bag

การเกิดขึ้นของที่นั่งที่เรียกว่า บีนแบ็กนั้น ถือว่าในช่วงแรกเป็นความแปลกใหม่ ต่อผู้ที่พบเห็น และผู้ที่ตัดสินใจซื้อมาใช้งานอีกด้วย ด้วยความที่เป็นที่นั่งในแบบที่ติดพื้น แถมด้านในที่มีเม็ดโฟม เป็นวัสดุที่ยัดเป็นไส้ด้านใน ถือว่าเป็นลูกเล่น หรือ Gimmick ที่ซ่อนความสนุกในทุกครั้งที่เราได้นั่ง หรือสัมผัสลงบนบีนแบ็กนี้

การที่เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่มีขอบเขต หรือไม่เหมือนเก้าอี้อื่นๆ ที่โดนจำกัดความคิดว่า ต้องมีขาตั้งบนพื้น 4 ขา และต้องทำมาจากวัสดุที่เป็นไม้, พลาสติก หรือวัสดุที่มีความแข็งแรงเท่านั้น แต่ใครจะคิดว่า เม็ดโฟมที่มีความยืดหยุ่น และเคลื่อนไหวตัวได้อย่างอิสระแบบนี้ จะสามารถรองรับน้ำหนักของผู้นั่ง ในบางยี่ห้อ และบางรุ่นได้มากถึง 200 กิโลกรัมอีกด้วย

ด้วยประโยคที่หลากหลายของบีนแบ็กนั้น ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกที่เมื่อได้นั่ง จะได้ความสบาย, สามารถเข้าได้กับทุกการแต่งห้อง ด้วยเพียงเราเลือกสีให้เหมาะกับสไตล์ของห้องนั้นๆ

อย่างเช่น หากเป็นการแต่งสไตล์ลอฟท์ ควรเลือกสีคุมโทน หรือหลุดกรอบเป็นสีสันสดใส, สีเข้มจัด หากเป็นการแต่งห้องในแบบโมเดิร์น ที่ไม่จำเป็นต้องเน้นแนวอวกาศ หรือเฟอร์นิเจอร์สีเงินเพียงเท่านั้น แต่การเลือกบีนแบ็กที่มีสีเขียวเข้ม หรือแดงสดใส ก็สามารถเข้ากันได้

ถึงแม้บีนแบ็ก หรือถุงนั่งที่มีลักษณะหลากหลายรูปทรงนั้น จะมีความน่าสนุกในการสัมผัสลงนั่งแล้ว การดูแลและรองรับในสรีระทุกสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็นกระดูกสันหลัง, แผ่นหลัง และโครงสร้างต่างๆ ของร่างกายเรา อย่าเช่น แขน, สะโพก และคอในเวลาที่เราต้องการเอนนอนลงนั้น ยังมีสามารถช่วยให้เกิดความผ่อนคลาย กับเด็กที่มีอาการของกลุ่มโรคออทิสติกร่วมด้วย

รวมถึงในการคิดค้นของบีนแบ็ก และถุงนั่งรูปแบบนี้นั้น กลับมีการพบว่ามีการประดิษฐ์ถุงนั่งรูปแบบนี้ ในยุคก่อนทศวรรษ 1960 หรือมากกว่า 4,000 ปีในยุคอียิปต์โบราณ รวมถึง Bean bag นี้ยังเป็นเครื่องมือในการฝึกร่างกาย สำหรับการออกกำลังกายที่เรียกว่า ไทชิ หรือ Tai Chi ที่เน้นในเรื่องการสร้างความเข้มแข็งให้กับร่างกายภายนอก และระบบร่างกายภายใน โดยมีการสร้างเลียนแบบบีนแบ็ก เพื่อใช้ในการแตะขา เน้นสร้างความสมดุลในการทรงตัว

รูปทรง Bean bag  มีอะไรบ้าง

แม้ว่าถุงนั่งหรือที่นั่งที่เรียกกันว่า บีนแบ็กนั้นจะมีหลายอย่างที่มีความแตกต่าง ทั้งไอเดียในการผลิต, วัสดุเม็ดโฟมที่อยู่ด้านใน หรือแม้แต่รูปแบบหลากหลายที่ถูกใจใครหลายคน การใช้งาน บีนแบ็กก็ยังคงเป็นเก้าอี้ หรือที่นั่ง ที่อยู่ในไอเท็มของโต๊ะ, เก้าอี้ และโคมไฟ เหมือนกับ โซฟาเดี่ยวปรับนอน , โต๊ะกลางโซฟา , เก้าอี้โยก , โต๊ะข้างเตียง , เก้าอี้เกมส์มิ่ง , เก้าอี้พับนอน , เก้าอี้สำนักงาน , เก้าอี้ ergonomic , โคมไฟอ่านหนังสือ , โต๊ะทำงาน

ซึ่งไม่ว่าจะเป็นบีนแบ็ก, เก้าอี้, โต๊ะ หรือโคมไฟนั้น ก็ต่างเน้นในเรื่องการใช้งานสำหรับอ่านหนังสือเป็นหลัก ซึ่งนอกจากนี้แล้วนั้น วัสดุที่ใช้หุ้มด้านนอก ก็ยังเป็นความน่าตื่นเต้นสำหรับผู้เลือกใช้อีกด้วย เพราะจะสร้างความรู้สึกในการนั่งที่แตกต่างกันไปด้วย ตัวเลือกที่มีหลากหลายทั้งผ้า, หนังแท้, หนังเทียมแบบ PU, ขนสัตว์ และกำมะหยี่ เป็นต้น

ซึ่งใครจะรู้บ้างว่าบีนแบ็กรูปทรงแรก ที่ได้มีการผลิตออกมาของบริษัทผลิตเฟอร์นิเจอร์ ที่ประเทศอิตาลีนั้น ได้มีการผลิตถุงนั่งบีนแบ็กในรูปทรงหยดน้ำ หรือรูปทรงลูกแพร์ โดยมีวัสดุห่อหุ้มด้านนอกเป็นหนัง และยังคงมีการผลิต และการนำมาใช้อยู่ในปัจจุบันนี้อีกด้วย ซึ่งการที่บีนแบ็กได้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจก็คือ สามารถใช้แทนที่นั่งวางแขนได้, กันน้ำ, และสามารถวางใช้งานในสถานที่แบบ outdoor ได้อีกด้วย

รูปทรงเก้าอี้

ที่เน้นด้านหลังที่เป็นพนักพิงได้ แต่อาจจะแตกต่างกันในเรื่องของความสูง โดยขนาดที่เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ได้นั่ง และสามารถลุกได้ง่ายคือ 70×80 เซนติเมตร นอกจากจะมีระดับความสูงให้เลือกสำหรับรูปทรงเก้าอี้แบบนี้แล้ว ความแน่นของแต่ละบีนแบ็กก็ยังแตกต่างกัน ตามจำนวนเม็ดโฟมที่อยู่ด้านใน และขนาดของเม็ดโฟมที่แตกต่างกันอีกด้วย

รูปทรงโซฟา

จุดเด่นที่จะทำให้เราสามารถแยกได้ กับรูปทรงอื่นๆ ก็คือจะมีรูปทรงที่ยาว และผู้นั่งสามารถที่จะเหยียดขาได้จนสุด ส่วนใหญ่จะผลิตออกมาให้มีความสูง และที่นั่ง Bean bag ที่มีความแน่น แต่ก็ยังมีบางรุ่นที่เป็นทรงโซฟา แต่มีระดับความสูงไม่มาก มาพร้อมกับการใส่เม็ดโฟมปริมาณที่ไม่มาก ทำให้ในเวลานั่งจะให้ความรู้สึก ที่แตกต่างจากบีนแบ็กที่ใส่เม็ดโฟมจำนวนมาก

แต่อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นทรงโซฟาที่มีความสูงมาก หรือน้อย และมีความนิ่มของที่นั่งมาก หรือน้อยก็ตาม จะมีเรื่องของขนาดเม็ดโฟม, จำนวนเม็ดโฟมที่อัดด้านในบีนแบ็ก อีกทั้งราคาก็ยังเป็นตัวกำหนด ความแตกต่างของถุงนั่งแต่ละแบบอีกด้วย เพราะเรามักจะเห็นว่าบีนแบ็กที่มีความแน่นด้านใน หรือมีการอัดเม็ดโฟมที่มาก ก็จะช่วยในการนั่งเกิดความสบายมากขึ้นตามไปด้วย

รูปทรงกล่องสี่เหลี่ยม

รูปทรงกล่อง หรือทรงลูกบาศก์นี้ ส่วนใหญ่วัสดุที่ใช้สำหรับด้านนอก เราสามารถเห็นได้ทั้งแบบเป็นผ้า และหนัง มีความแน่น และรองรับน้ำหนักได้ดี เพียงแต่ไม่มีพนักพิงด้านหลัง ในการใช้งานจึงต้องระวังผู้สูงอายุ, เด็กที่ยังอายุน้อย และผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ ในการนั่ง แล้วอาจจะเอียง หรือเสียหลักไปด้านหลังได้ อีกทั้งรูปทรงกล่องแบบนี้ ก็ยังประหยัดพื้นที่, ขนาดเล็ก และสามารถขนย้าย หรือปรับเปลี่ยนที่วางได้ตลอด

รูปทรงสามเหลี่ยม

หลังจากที่มีการผลิตบีนแบ็ก และเป็นที่นิยมกันมาได้สักพักแล้ว การคิดค้นรูปทรงใหม่ๆ ก็มาถึงรูปทรงสามเหลี่ยมแบบนี้ ที่เน้นความเตี้ย และติดพื้น ทำให้คล้ายกับเบาะของคนญี่ปุ่น จนมีการเรียกอีกชื่อคือ Cheese Bag ที่เป็นการบอกว่า จริงๆ แล้วรูปทรงสามเหลี่ยมนี้ ก็คล้ายกับรูปทรงก้อนชีสที่เป็นสามเหลี่ยมนั่นเอง

การยัดไส้เม็ดโฟมจึงไม่นิยมยัดให้แน่น แต่จะเป็นสัญลักษณ์เลยว่า หากเป็นรูปทรงสามเหลี่ยม หรือ Cheese Bag นี้ละก็จะมีความฟีบของที่นั่ง แต่สำหรับการใช้งานนั่งจริง ก็ยังให้ความนั่งสบายได้เหมือนๆ กับรูปทรงอื่นๆ วัสดุที่หุ้มด้านนอกเราสามารถเห็นได้ทั้ง แบบที่เป็นหนัง และผ้า มีพนักพิงด้านหลัง ปลายด้านบนผนักพิงจะเป็นปลายแหลม

รูปทรงกลม

ในช่วงแรกของการผลิตบีนแบ็กนั้น เรามักจะเห็นรูปทรงกลมนี้ออกมาเป็นจำนวนมาก เพราะการปรับใช้ในแต่ละพื้นที่ได้ง่าย มีความโค้งมน และมีการใช้งานที่ยืดหยุ่น มีการผลิตออกมาหลากหลายขนาด และมีทั้งวัสดุที่เป็นหนัง และผ้า สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายเหมือน รูปทรงสามเหลี่ยม หรือรูปทรงกล่องสี่เหลี่ยม

รูปทรงหยดน้ำ หรือรูปทรงลูกแพร์

เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของทรงหยดน้ำนี้ก็คือ นอกจากจะมีพนักพิงด้านหลังแล้ว พนักพิงของรูปทรงหยดน้ำ หรือที่เรียกอีกอย่างคือ ทรงลูกแพร์นั่นเอง เพราะด้วยความที่มีฐานที่นั่งกว้าง และพนักพิงด้านบนจะเป็นทรงสูงและยาว เรามักจะสังเกตได้ว่า สำหรับทรงลูกแพร์นี้ มักจะทำสายคล้องด้านบนพนักพิงไว้ เพื่อให้สะดวกในการเคลื่อนย้าย โดยที่ไม่จำเป็นที่จะต้องยก ใช้การลากผ่านสายคล้องนี้เท่านั้นเอง

รูปทรงวาไรตี้

ส่วนใหญ่ที่เรามักจะเห็นบีนแบ็ก ในรูปทรงนอกเหนือจากที่เกริ่นมาข้างต้นแล้ว จะเป็นทรงอื่นๆ ที่เน้นสำหรับให้เด็กได้นั่งเล่น ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงดอกไม้ ที่มีความคล้ายกับทรงกลม และอีกรูปทรงหนึ่งที่ผลิตออกมา มีความคล้ายกับทรงหยดน้ำ หรือทรงลูกแพร์ ที่เป็นรูปทรงปลา มีให้เลือกได้หลากหลาย ทั้งปลาฉลาม และปลาวาฬ เป็นต้น

วิธีเลือกซื้อเก้าอี้ Bean bag

1.ระบายอากาศได้ดี

หากเราต้องการวางบีนแบ็กในการใช้งาน ภายในบ้าน หรือภายในที่อยู่อาศัย และต้องการให้มีการถ่ายเท หรือระบายอากาศได้ดีในระหว่างนั่งใช้งาน คือไม่มีเหงื่ออบด้านหลังพนักพิงนั่นเอง

เราควรที่จะเลือกวัสดุที่เป็นผ้าเท่านั้น เพราะหาเป็นผ้ากำมะหยี่ หรือหนัง ไม่ว่าจะเป็นหนังแท้, หนัง PU หรือหนังเทียมก็ตาม หากมีความร้อน หรือความชื้น จะไม่สามารถระบายได้ดีเท่าวัสดุที่เป็นผ้า

2.กันน้ำ

ซึ่งหากเราเลือกวัสดุที่เป็นหนังนั้น และเน้นว่าควรเลือกหนังเทียม หรือหนัง PU จะมีการดูแลรักษา และป้องกันน้ำได้ร่วมด้วย อีกทั้งยังสามารถนำไปวางนั่งได้ในพื้นที่ๆ อยู่นอกชานบ้าน, กลางแจ้ง ได้อย่างไม่ต้องห่วงว่าจะเปียก ซี่งเราสามารถเช็ดให้แห้งได้ง่ายๆ

3.เคลื่อนย้ายได้ง่าย

ทรงของบีนแบ็ก ที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย และมีขนาดกะทัดรัด อย่างเช่น ทรงกล่องสี่เหลี่ยม, ทรงสามเหลี่ยม, ทรงเก้าอี้, ทรงหยดน้ำ หรือทรงลูกแพร์ ที่มีการติดสายคล้องด้านบนพนักพิง ให้สามารถลากเคลื่อนย้ายได้สะดวก และทรงกลมหากเป็นขนาดที่ไม่ใหญ่มากเกินไป

4.กันไรฝุ่น

หากเป็นวัสดุที่เป็นผ้านั้น การเลือกแบบที่รับรองว่ามีการกันไรฝุ่น ก็จะเป็นเรื่องดีสำหรับผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ หรือแพ้อากาศได้ง่าย อีกทั้งการเลือกวัสดุที่เป็นผ้าหุ้มด้านนอก และมีฟังค์ชั่นเสริมในเรื่อง ความสามารถที่จะถอดปลอกออกมาซักได้ ก็จะเป็นการช่วยในเรื่องดูแลความสะอาดได้ง่ายมากขึ้น

อย่างในบีนแบ็กบางทรงนั้น ถึงแม้จะมีการใช้งานจริง ที่ช่วยให้นั่งสบาย แต่ด้วยความที่มีขนาดใหญ่ ทำให้การทำความสะอาดก็เป็นไปได้ยาก หากไม่มีสามารถถอดปลอกซักได้ หรือเนื้อผ้ามีการป้องกันไรฝุ่นได้จริง

โดยเฉพาะบีนแบ็กบางตัวนั้น มีการนำออกไปตั้งใช้งานกลางแจ้ง หรือ outdoor ซึ่งอาจจะเป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรก หรือฝุ่นละอองต่างๆ

5.ระดับความสูง

ระดับความสูงของถุงนั่งบีนแบ็กนั้น อาจจะต้องมีส่วนในการพิจารณาเลือกซื้อร่วมด้วย ซี่งสำหรับบางครอบครัว อาจจะมีทั้งผู้ใหญ่และเด็กอยู่ร่วมกัน หากต้องการนำ Bean bag วางในห้องเพื่อให้ใช้งานได้หลายคน อย่างเช่น ห้องนั่งเล่น หรือมุมห้องรับแขก เพื่อเป็นที่นั่งเสริมในแบบไม่เป็นทางการ

รีวิว Bean Bag นั่งนอนได้ทั้งวัน

สรุป

รูปแบบการแต่งห้องไม่ว่าจะเป็นสไตล์ลอฟท์, สไตล์โมเดิร์น หรือรูปแบบไหนก็ตาม การที่จะเลือกเฟอร์นิเจอร์เข้ามาชิ้นหนึ่งนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร สำหรับเจ้าของห้อง ที่ต้องการให้เข้ากันได้ดีกับสไตล์การแต่งห้องเดิม แต่หากใครต้องการเลือกเก้าอี้แบบมีเอกลักษณ์ และสามารถเข้าได้กับทุกสไตล์การแต่งของห้องแล้วละก็ Bean bag ถือว่าเป็นไอเท็มอีกตัวหนี่ง ที่สามารถนำไปวางเสริม ได้กับทุกสไตล์การแต่งห้อง ในแบบที่ลงตัวและมีราคาถูกอีกด้วย

ดูแลบทความโดย กองบรรณาธิการ BESTCHOICE

ควบคุมและดูแลการผลิตคอนเท้นส์ ชื่นชอบที่จะนำเสนอคอนเท้นส์ที่ดีๆ มีประโยชน์ให้กับท่านผู้อ่าน

• Facebook
• X
• Line