10 ครีมลดรอยสิว ยี่ห้อไหนดี 2024 ใช้ดีมาก รอยสิวจุดด่างดำจางเร็ว

ครีมลดรอยสิว ยี่ห้อไหนดี
ในปัจจุบันนี้แค่เป็นสิวก็เครียดกันมากแล้ว แต่เมื่อเกิดเป็นรอยสิว รอยแผลเป็น จุดด่างดำหรือริ้วรอยต่างๆ ขึ้นมาบนใบหน้า ทำเอาความมั่นใจหดหายกันไปเลยทีเดียว ที่ไม่ว่าจะเป็นสาวๆ หรือ หนุ่มๆ จะรู้สึกไม่มั่นใจอย่างแน่นอน ทำให้การรักษารอยสิวเป็นเรื่องที่สำคัญ เพื่อให้ใบหน้ามีความเรียบเนียนสวยกันอย่างเป็นธรรมชาติ

รอยสิวในความหมายทางการแพทย์ที่แท้จริงคืออะไรกัน เป็นรอยแผลที่เกิดขึ้นมาจากสิว เมื่อใบหน้าของเรามีการอักเสบหรือเกิดสิวอุดตันขึ้นมา ในหลายๆ ครั้ง เมื่อสิวหายไปแล้วจะมีการทิ้งรอยเอาไว้อยู่ ทำให้เกิดเป็นปัญหาตามมา ต้องมีการฟื้นฟูสภาพใบหน้า ต้องลดรอยดำ ลดรอยแดง และรอยแผลเป็นจากสิวกันให้ได้ จะต้องมีการรักษาผิวหนังกันตั้งแต่เนิ่นๆ จะดีที่สุด

เชื่อว่าผู้หญิงอย่างเราๆ นั้น ย่อมต้องการที่จะมีใบหน้าที่ขาวกระจ่างใส ไร้รอยต่างๆ บนใบหน้ากันอย่างแน่นอน และในปัจจุบันก็มีผลิตภัณฑ์สำหรับการลดสิว ปกป้องผิวจากแสงแดด และอื่นๆ อีกมากมาย ตามสภาพปัญหาของแต่ละคนที่พบเจอ แต่จะเห็นได้ว่าคนที่มีใบหน้าเป็นสิวนั้น ถือว่าเป็นปัญหาที่คนส่วนใหญ่เป็นกันมากที่สุด ทั้งยังหมองคล้ำ

เพราะบ้านเราเป็นเมืองแดดที่ร้อนจัดมาก แถมยังมีมลภาวะต่างๆ บนท้องถนน ที่เป็นปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิดสิวบนใบหน้า ทั้งหากเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม ตอบโจทย์ปัญหาที่เป็นอยู่ไม่ได้ จะยิ่งทำให้มีอาการมากกว่าเดิมพันได้

ทำให้การรักษารอยสิวเป็นสิ่งที่สำคัญ สิ่งหนึ่งจะต้องนึกถึงกันเป็นสิ่งแรกนั่นคือ การใช้ครีมลดรอยสิว เนื่องจากหาซื้อได้ง่าย ราคาไม่แพง เพื่อให้ใบหน้ามีความเรียบเนียน มีความมั่นใจเหมือนเช่นเคย แต่ต้องมาทำความเข้าใจก่อนว่าแท้จริงแล้วรอยสิวมีกี่ประเภท เกิดจากสาเหตุใด

ครีมลดรอยแผลจากสิวแบบไหนจะตอบโจทย์และเหมาะสมกับผิวหน้าที่สุด มีวิธีไหนบ้างที่ใช้แล้วเห็นผลมากที่สุด มีวิธีการเลือกซื้ออย่างไร และวิธีการลดรอยด้วยวิธีทางธรรมชาติทำได้อย่างไร ในบทความนี้จะมีคำตอบให้กับทุกคน เพื่อให้ใบหน้าไร้สิว ขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ

สารบัญ

รอยสิวคืออะไร

รอยสิวคืออะไร

รอยสิวเกิดได้จากการที่ผิวหนังบริเวณใบหน้าเกิดการอักเสบจากการเป็นสิว โดยเฉพาะสิวหัวช้างหรือสิวอุดตัน เมื่อเราไปบีบสิวหรือกดสิว แกะเกาจนเป็นแผล หรือการใช้ เครื่องดูดสิว จะยิ่งทำให้ผิวหน้าบริเวณนั้นๆ ยิ่งเกิดการอักเสบมากขึ้นจนไปถึงชั้นผิวหนัง พอสิวเริ่มหายแล้ว ก็จะทิ้งรอยแผลเป็นไว้บนใบหน้าของเรา

นอกจากนี้ยังสามารถเกิดขึ้นได้จากการรักษาสิวที่ผิดวิธี หรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับผิวหน้า จะยิ่งทำให้เกิดรอยสิวขึ้นมากกว่าเดิม และทำให้การรักษายากเข้าไปอีก อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่ารอยสิวนั้นจะไม่ได้สร้างความเจ็บปวดต่อบริเวณผิวหน้า หรือก่อให้เกิดอันตรายที่ร้ายแรง แต่ถ้าหากใครที่มีรอยสิว รอยดำบนใบหน้านั้น จะทำให้ขาดความมั่นใจในตนเองไปได้

รอยสิวมีกี่ประเภท

รอยสิวมีกี่ประเภท
รอยแดง รอยดำ และสิว

1. รอยแดง

จะเกิดขึ้นในขณะที่เกิดสิวอยู่หรือหลังจากที่หายเป็นสิวแล้ว จะเกิดขึ้นจากผิวหนังในบริเวณที่เกิดการอักเสบ ทำให้เกิดเป็นรอยแดงขึ้น เมื่อผิวหนังเกิดการอักเสบ ร่างกายจะมีการฟื้นฟูเอง มีการลำเลียงเลือดไปในบริเวณผิวหนังที่เกิดการอักเสบ เป็นการซ่อมแซมและมีการฟื้นฟูเซลล์เนื้อเยื่อ ทำให้ผิวเป็นสีแดง สีชมพูขึ้นมา

2. รอยดำ

ส่วนมากแล้วจะเกิดจากการอักเสบหรือเกิดการระคายเคืองขึ้นมาของผิวหนัง สามารถเกิดได้หลังจากที่ทำเลเซอร์ มีการลอกหน้า ทำให้เกิดการกระตุ้นเมลาโนโซต์ขึ้นมา เพื่อที่จะมีการผลิตเมลานิน ในเซลล์เคราติโนไซท์มากเกินปกติ จึงเกิดการระคายเคือง ส่งผลให้เกิดรอยดำ หรืออาจเกิดเป็นสีน้ำตามเข้ม สีเทาได้เช่นกัน

3. รอยแผลเป็น

เกิดขึ้นจากกระบวนการรักษาของแผลในร่างกาย ที่อาจเกิดได้จากอุบัติเหตุ มีการผ่าตัด สิว และอื่นๆ เมื่อผิวหนังเกิดเป็นแผลขึ้น จะมีการตอบสนองในการซ่อมแซมผิวหนังในบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว มากกว่าที่จะทำให้ผิวหนังกลับมาอยู่ในสภาพปกติ ส่งผลให้คอลลาเจนในผิวหนังมีการผลิตออกมามากเกิน จนเกิดรอยแผลเป็น

4. จุดด่างดำ

จะพบว่าบริเวณของผิวหนังมีสีเข้มกว่าในบริเวณรอบๆ  โดยเกิดจากการสร้างเม็ดสีเมลานินในชั้นหนังที่มากกว่าปกติ ส่งผลให้ผิวหนังบริเวณนั้น มีสีเข้มกว่าในบริเวณรอบ พบได้บ่อย โดยสามารถเกิดได้จากการสัมผัสแสงแดดและเกิดขึ้นได้หลังจากการอักเสบของผิวหนัง เช่น รอยแผลถลอก รอยสิว เป็นต้น

5. หลุมสิว

รอยหลุมสิว

โดยส่วนใหญ่หลุมสิวมักจะเกิดจากการที่เป็นสิวอักเสบขั้นรุนแรงจนทำให้ผิวบริเวณใบหน้า จะต้องทำการสร้างในส่วนของเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมาทดแทน ซึ่งหลุมสิวมักจะเกิดในบริเวณคาง จมูก และบริเวณแก้ม ถือว่าเป็นรอยสิวที่รักษาให้หายได้ยาก และที่สำคัญทำให้ผิวหน้าดูไม่เรียบเนียนอีกด้วย

สาเหตุของการเกิดสิว

สาเหตุของการเกิดสิว

1. การผลิตน้ำมันในผิวที่มากเกินไปและชั้นผิวมีการก่อตัวหนาผิดปกติ

เมื่อมองในปัจจัยภายใน จะพบว่าเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายเป็นส่วนมาก ยังรวมไปถึงเป็นผลจากการใช้ยาบางชนิด ในส่วนของปัจจัยภายนอก มักจะเกิดจากมลภาวะต่างๆ ที่ทำให้มีการผลิตน้ำมันในผิวมากขึ้น และมีการก่อตัวหนากว่าเดิม จนทำให้เกิดเป็นสิวประเภทต่างๆ ขึ้นมา เช่น สิวหัวดำ

2. มีการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย

ปัจจัยที่สำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหานี้ ในการสะสมไขมันที่หลั่งออกมาจากต่อมไขมัน ที่ถือว่าเป็นอาหารชั้นยอดของแบคทีเรีย ยิ่งในชนิด P.acnes. จะพบว่าแบคทีเรียชนิดนี้จะเข้ามาอาศัยอยู่ในต่อมไขมันนี้ที่มีการอุดตัน เป็นการย่อยสลายไขมันให้เป็นอาหาร ส่งผลให้เกิดการอักเสบมากยิ่งขึ้น เกิดเป็นสิวหัวหนองได้

3. การใช้เครื่องสำอาง

เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เกิดเป็นสิวอุดตันและสิวอักเสบเกิดขึ้นมาได้ ใครที่เป็นสิวง่าย หน้าแผลง่าย จะต้องใช้เครื่องสำอางที่อ่อนโยนต่อผิวหรือจะใช้ให้น้อยที่สุด ถ้าจำเป็นต้องใช้จริงๆ แนะนำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำมัน หรือเลือกใช้ โฟมล้างหน้าผิวแพ้ง่าย หรือ เจลแต้มสิว

4. สภาพผิวของแต่ละคน

สภาพผิวของแต่ละคน

คนเรานั้นมีสภาพผิวหน้าที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นผิวมัน ผิวแพ้ง่าย ผิวแห้ง หรือผิวมีรูขุมขนกว้าง ซึ่งคนที่มีรูขุมขนกว้างจะทำให้ผิวเกิดการอุดตันจนทำให้เกิดสิวได้ง่ายกว่าคนที่มีผิวรูขุมขนเล็ก และสำหรับคนที่มีผิวหน้ามันก็อาจจะทำให้ผิวหน้าเกิดสิวได้ง่ายกว่าคนผิวหน้าแห้ง

5. ฮอร์โมน

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญหลักๆ ของการเกิดสิวก็คือฮอร์โมน ซึ่งฮอร์โมนที่มีส่วนกระตุ้นในการเกิดสิวได้มากที่สุดก็คือ ฮอร์โมนแอนโดรเจน ที่จะไปกระตุ้นการผลิตไขมันส่วนเกินบริเวณผิวหน้า ทำให้ผิวหน้ามีความมัน แน่นอนว่าหากผิวหน้ามีความมันที่มากเกินไป ปัญหาสิวจะตามมาอย่างแน่นอน ส่วนใหญ่จะพบในผู้ชายมากกว่า

6. อาหารที่รับประทาน

หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่ามีอาหารที่ทำให้เกิดสิวได้ ส่วนใหญ่แล้วอาหารที่มีสารในการกระตุ้นฮอร์โมนในร่างกายหรือกระตุ้นการผลิตไขมันส่วนเกินบนใบหน้า ก็จะมีอย่างเช่น ดาร์กช็อกโกแลต , ของทอด , เบเกอรี่ และแอลกอฮอล์ ซึ่งอาหารเหล่านี้จะทำให้เกิดสิวได้ง่ายหากรับประทานเป็นเวลานานหรือบ่อยครั้ง

7. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงหน้า

ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์บำรุงหน้าให้เลือกซื้ออย่างหลากหลาย แต่ก็ยังมีหลายคนที่เลือกซื้อไม่เหมาะกับผิวหน้า หรือสภาพปัญหาที่กำลังเป็นอยู่ หากใช้ไม่ถูกต้องนอกจากจะไม่ช่วยแก้ปัญหาแล้ว อาจจะทำให้เกิดการระคายเคือง จนทำให้สิวกำเริบหนักขึ้นได้ ใครที่มีปัญหาสิวก็ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ตรงโจทย์ ไม่ว่าจะเป็น กันแดดสำหรับคนเป็นสิว , ครีมลดรอยสิว , วิตามินลดสิว , โฟมล้างหน้าลดสิว

วิธีการป้องกันไม่ให้เกิดรอยสิว

วิธีการป้องกันไม่ให้เกิดรอยสิว

1. หลีกเลี่ยงการกด บีบสิวด้วยตนเอง

คนส่วนใหญ่ที่เกิดสิวบนใบหน้า จะชอบบีบ กดหรือแกะสิวด้วยมือ รู้หรือไม่ว่าการทำสิ่งเหล่านี้จะยิ่งไปกระตุ้นให้เนื้อเยื่อของผิวหน้าบริเวณใบหน้า มีรูขุมขนที่กว้างขึ้น ทำให้ผิวหน้าเกิดการอักเสบมากกว่าเดิมและเป็นรอยแผลที่หายได้ช้า

2. หลีกเลี่ยงแสงแดด

แดดเมืองไทยนั้นมีความร้อนแรงสูงมาก และเป็นปัจจัยที่ทำลายผิวหน้าให้มีความหมองคล้ำ รวมทั้งใครที่มีผิวหน้ามัน เมื่อโดนแดดจะยิ่งทำให้ผิวมันมากกว่าเดิม จึงทำให้เกิดสิวขึ้นมาได้ง่าย ที่สำคัญแสงแดดยังเป็นตัวกระตุ้นเม็ดสีผิว ซึ่งยิ่งมีมากเท่าไหร่ ยิ่งจะทำให้รอยสิวหายได้ช้า ทิ้งรอยดำหรือรอยแดงไว้ให้ต้องช้ำใจ ดังนั้นควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปกป้องแสงแดดได้ดี เช่น วิตามินซีทาหน้า , ครีมกันแดดหน้า

3. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิว

สำหรับคนที่เป็นสิวยิ่งจะต้องให้ความสำคัญต่อการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ในการบำรุงผิวหน้า และต้องเหมาะกับสภาพผิวด้วย ซึ่งจะต้องเน้นเลือกซื้อผลิตภัณฑ์หรือสกินแคร์ที่ไม่มีส่วนผสมของสารที่จะทำให้เกิดปัญหาผิวอุดตัน รูขุมขนกว้าง อักเสบและระคายเคือง ทั้งควรหลีกเลี่ยงส่วนผสมของน้ำหอมและแอลกอฮอลล์แนะนำให้เลือกซื้อครีมลดรอยสิว ไอเทมที่กำลังได้รับความนิยมในตอนนี้

ครีมลดรอยสิว คืออะไร

ครีมลดรอยสิว คืออะไร

หลายคนอาจยังไม่เข้าใจว่าครีมสำหรับลดรอยสิวแท้จริงแล้วคืออะไร วันนี้จะมารู้คำตอบกัน โดยปกติแล้วเมื่อเราเกิดเป็นสิวขึ้นมา ไม่ว่าจะใบหน้า หลัง แขน ขา ที่ล้วนแล้วเกิดขึ้นตามร่างกาย เมื่อหลังจากที่หายจากสิวแล้ว แน่นอนว่าจะต้องทิ้งรอยสิวเอาไว้ ทำให้จะต้องมีไอเทมเด็ดมาเพื่อรักษา ให้สภาพผิวหนังกลับมาดีได้ดังเดิม

แม้ว่ารอยสิวทั้งหลายนั้นจะสามารถเลือกใช้รองพื้นเพื่อปกปิดร่องรอยของสิว แต่รู้หรือไม่ว่าการใช้รองพื้นโปะไปมากเท่าไหร่ ยิ่งใครที่มีผิวที่บอบบางหรือแพ้ง่าย จะยิ่งทำให้สิวอักเสบหรือก่อให้เกิดสิวอุดตันได้มากกว่าเดิม รวมไปถึงก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาได้อีกมากมาย เพราะฉะนั้นจึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่จะมาแก้ปัญหาได้โดยเฉพาะอย่างครีมลดรอยสิว

ครีมสำหรับลดรอยสิวนั้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไว้สำหรับการทาเพื่อที่จะลดรอยสิวต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนใบหน้า จะมาในรูปแบบของครีม โดยเป็นยาไว้ใช้สำหรับภายนอก จะมีการผสมสารต่างๆ เข้าไป เพื่อให้เกิดคุณสมบัติในการช่วยรักษารอยตามต้องการ เช่น รักษารอยดำ รอยแดง รอยแผลเป็นจากสิว มีความจำเป็นที่จะต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับประเภทของรอยสิวที่เกิดขึ้น

ครีมลดรอยสิวที่ใช้ดีเป็นอย่างไร

ครีมลดรอยสิวที่ใช้ดีเป็นอย่างไร

1. ช่วยแก้ปัญหาและปกป้องการเกิดสิว

สามารถช่วยจัดการปัญหาต้นตอของการเกิดสิว และการผลัดเซลล์ผิว ลดรอยดำ ลดรอยแดงได้ดี จะทำให้โอกาสการเกิดสิวขึ้นมาใหม่ลดลง แล้วยังทำให้ผิวมีความแข็งแรง ไม่เกิดสิวขึ้นมาใหม่ได้ง่าย การเกิดรอยสิวจะลดลง

2. ไม่เกิดความระคายเคือง

ครีมสำหรับลดรอยสิวที่ดีนั้น เมื่อใช้ไปแล้วจะทำให้มีความชุ่มชื้นต่อผิว ไม่เกิดเป็นรอยแดงหรือเกิดอาการระคายเคืองหนักกว่าเดิม ทำให้การรักษาหายได้ไว เป็นเหมือนการบำรุงผิวพรรณไปในตัว ช่วยปกป้องและปรับสภาพผิวหน้าให้กลับมามีความแข็งแรง และเรียบเนียนอีกครั้ง

3. ลดการอักเสบของผิวและควบคุมการสร้างน้ำมันในรูขุมขนได้ดี

สิ่งที่จะต้องรู้เลยคือ ในผลิตภัณฑ์ที่ใช้มีส่วนผสมอะไรบ้าง จะต้องหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่จะก่อให้เกิดการอักเสบและทำให้ผิวหน้ามีความมันมากกว่าเดิม ถ้าหากว่ามีการอักเสบ สิวจะหายได้ช้า และที่สำคัญต้องช่วยทำให้ใบหน้าหรือในบริเวณที่ทาไปแล้วไม่มัน จะส่งผลให้โอกาสในการเกิดสิวลดลง

วิธีใช้ครีมลดรอยสิวให้ได้ผลที่ดีที่สุด

วิธีใช้ครีมลดรอยสิวให้ได้ผลที่ดีที่สุด

1. ทาครีมสำหรับลดรอยสิวไม่ต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 7 วัน

สิ่งที่จะต้องปฏิบัติให้เหมือนกับเป็นกฎเลยคือการทาอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะให้การรักษามีประสิทธิภาพ ไม่ทาแล้วหยุด แล้วทาใหม่ ไม่ควรที่จะเปลี่ยนยาทาไปเรื่อยๆ เพราะความใจร้อน จะทำให้เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่ายาตัวไหนที่ถูกกับเราด้วย ต้องอาศัยความอดทน ในการทาจะต้องไม่เกิน 2 เดือน

2. ทายาลดรอยก่อนเป็นอันดับแรก หลังจากที่ล้างหน้า

ควรทาครีมสำหรับลดรอยสิวเมื่อล้างหน้ามาใหม่เนื่องจากว่ายาจะสามารถออกฤทธิ์ได้ดี แล้วจะมีการซึมเข้าไปในผิวก่อนที่จะลงครีมตัวอื่นทาด้วย เพื่อให้ประสิทธิภาพของครีมเป็นไปได้ตามต้องการไม่แนะนำให้ทาแล้วออกไปโดนแดดแรงหรือมีการทำกิจกรรมหนัก

3. เลือกประเภทให้ตรงกับประเภทของสิว

สิ่งที่จะต้องนึกถึงเลยคือต้องรู้ก่อนว่าเกิดรอยสิวมาในประเภทใดก่อน เพื่อที่จะรักษาได้ตรงตามประเภทอย่างแท้จริง ถ้าหากว่าใช้ผิดอาจทำให้เกิดการอักเสบ ใช้แล้วไม่เห็นผล เกิดเป็นสิวอุดตัน สิวเสี้ยนขึ้นมา แล้วรอยที่อยากจะรักษากลับไม่เห็นผล

4. ทาเฉพาะจุด

หลายคนทาไปทั่วหน้า ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิดจะต้องทาเพียงแค่เฉพาะจุดเท่านั้น เพื่อให้ครีมลดรอยสิวออกฤทธิ์เป็นเฉพาะจุดไป ถ้าหากว่าทาเยอะไปอาจมีอาการแพ้ได้ สิวจะหนักกว่าเดิม ยิ่งใครที่มีผิวบอบบางจะต้องระวังเป็นพิเศษ

แนะนำวิธีพิจารณาเลือกซื้อครีมลดรอยสิว

เลือกซื้อครีมลดรอยสิว

1. เลือกครีมที่เหมาะกับผิวหน้าตนเอง

ต้องรู้ก่อนว่าตนเองมีผิวแบบใด ผิวผสม ผิวแห้ง หรือผิวมัน เพื่อที่จะเลือกใช้ครีมสำหรับลดรอยสิวได้ตามต้องการถ้าหากว่าเลือกผิด อาจทำให้เกิดการระคายเคือง แพ้ สิวขึ้นมากกว่าเดิม ทั้งที่ตั้งใจจะรักษา ถ้าหากว่าเลือกให้เหมาะสมจะทำให้ประสิทธิภาพของครีมสามารถลดรอยได้ดี ใช้ระยะเวลาไม่นาน

2. มีการรับรองว่ามีมาตรฐานและปลอดภัยจากผู้เชี่ยวชาญ

สิ่งนี้จะต้องมีการคำนึงถึงมาก เนื่องจากว่าในปัจจุบันนี้ครีมที่ไม่ได้มาตรฐานมีเยอะ มีการปลอมเยอะเช่นกัน มีความจำเป็นที่จะต้องศึกษายี่ห้อของครีมลดรอยจากสิวให้ดีว่ามีความปลอดภัยหรือไม่ มีมาตรฐาน มีการรองรับจากผู้เชี่ยวชาญหรือไม่ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอันตรายต่อผิวหนัง

3. เลือกซื้อจากส่วนผสมของครีม

ก่อนเลือกซื้อต้องดูส่วนผสมว่ามีสารที่แพ้หรือก่อให้เกิดความระคายเคืองหรือไม่ เป็นอีกหนึ่งข้อที่ไม่อยากให้มองข้าม ในบางครั้งเราอาจเห็นรีวิวกันมากว่าครีมลดรอยจากสิวยี่ห้อนี้ดี มีส่วนผสมดี แต่ในบางครั้งเราอย่าลืมว่าเราอาจแพ้สารนั้นๆ ได้ จะต้องเลือกครีมที่มีความอ่อนโยน ไม่เกิดความระคายเคืองต่อใบหน้า ถ้าจะให้ดีแนะนำให้ทดลองทาที่แขนก่อน เพื่อทดสอบอาการแพ้

4. เลือกครีมลดรอยสิวที่มีส่วนผสมของวิตามินซี

เนื่องจากจะทำให้เพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิวไปตัว จะทำให้ไม่มีความหมองคล้ำ เป็นการบำรุงผิวไปด้วย แต่ความเข้มข้นจะต้องไม่มากจนเกินไป เพื่อไม่ให้เกิดความระคายเคือง โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีวิตามินซีผสมอยู่ที่ 10 เปอร์เซ็นต์

วิธีลดรอยสิวด้วยวิธีทางธรรมชาติ

  • การมาร์คหน้าด้วย น้ำผึ้งแท้ ผสมกับน้ำมะนาว ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติเพียงแค่สองสิ่งนี้ นำมามาร์คที่ใบหน้าเป็นเวล20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำเกลือ และทำเพียง 2 ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น
  • การแต้มสิวให้หายด้วยหอมแดง ใช้ผักที่อยู่ในบ้านก็คือหอมแดงมาหั่นเป็นแว่นโดยที่ไม่หนามาก และนำมาถูกที่สิงบนใบหน้า แนะนำทำเพียง 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
  • ลดสิวด้วยมะขามเปียกและน้ำผึ้งผสมโยเกิร์ต นำทั้งสามส่วนผสมนี้รวมเข้าด้วยกันแล้วเริ่มทางให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้เพียง 10 นาที เพียงเท่านี้ก็เห็นผล
  • หัวไชเท้าผสมดินสอพอง หั่นหัวไชเท้าเป็นเล็กๆ แช่ไว้ในตู้เย็นก่อน จากนั้นก็นำมาผสมกับดินสอพองแล้วทาไปให้ทั่วทั้งใบหน้า สูตรนี้จะเหมาะกับผู้ที่แพ้ง่าย ไม่เกิดความระคายเคืองต่อผิว

 รีวิวครีมลดรอยสิว by กูรูยาหม่อง

ขอบคุณช่องยูทูป GURUCHECK

สรุป

จะเห็นได้ว่าการเลือกซื้อครีมลดรอยสิวมีความจำเป็นอย่างมาก จะต้องเลือกให้ถูกประเภท ต้องมาทำความเข้าใจกับรอยสิวให้มาก เพื่อที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ได้ถูกต้องตามปัญหาที่เกิด ไม่ว่าจะเป็นรอยดำ รอยแดง รอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว หรือจะเป็นจุดด่างดำก็ตาม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดในการรักษาให้หาย มีวิธีการใช้อย่างไรจะให้เห็นผลมากที่สุด ที่สำคัญจะต้องคำนึกถึงการพิจารณาการเลือกซื้อด้วย และควรบำรุงผิวหน้าหรือลดรอยสิวด้วยวิธีธรรมชาติ

ครีมลดรอยสิว Eve's

ครีมลดรอยสิว อีฟส์
-ปริมาณสุทธิของสินค้า 20 กรัม
-เนื้อครีมเจล บางเบา ซึมซาบลงสู่ผิวได้ล้ำลึก
-ช่วยปรับผิวให้เนียนนุ่มพร้อมล็อกความชุ่มชื้น

ครีมลดรอยสิว SKINRx LAB

ครีมลดรอยสิว สกินอาร์เอ็กซ์แลบ
-ปริมาณสุทธิของสินค้า 15 มิลลิลิตร
-ช่วยปกป้องผิวจากความร้อน แสงแดด
-ช่วยให้ผิวที่มีจุดด่างดำกระฝ้าลดเลือนลง

ครีมลดรอยสิว Himalaya

ครีมลดรอยสิว หิมาลายา
-ปริมาณสุทธิของสินค้า 30 มิลลิลิตร
-ช่วยปรับสภาพผิวให้กลับมาเรียบเนียนเป็นปกติ
-ช่วยลดความหมองคล้ำ รอยดำจากสิวบนใบหน้า

ครีมลดรอยสิว Love Potion

ครีมลดรอยสิว เลิฟโพชั่น
-ปริมาณสุทธิของสินค้า 3 กรัม / ซอง
-เนื้อครีมสีขาว เกลี่ยง่าย บางเบาไม่หนักผิว
-ช่วยลดการผลิตน้ำมันส่วนเกิน อ่อนโยนต่อผิว

ครีมลดรอยสิว Laroche-Posay

ครีมลดรอยสิว ลาโรช-โพเซย์
-ปริมาณสุทธิของสินค้า 7.5 มิลลิลิตร
-ช่วยลดสิวอุดตัน รอยดำ รอยแดงที่เกิดจากสิว
-ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนและเป็นธรรมชาติ

ครีมลดรอยสิว Delphini

ครีมลดรอยสิว เดลฟินี
-ปริมาณสุทธิของสินค้า 15 กรัม
-เหมาะสำหรับคนเป็นสิวช่วยบำรุงผิว
-ช่วยลดการผลิตเม็ดสี ให้รอยแดงรอยดำจางลง

ครีมลดรอยสิว ZiiiT

ครีมลดรอยสิว ซิท
-ปริมาณสุทธิของสินค้า 7.5 กรัม
-ช่วยทำให้ผิวเรียบเนียน สว่างกระจ่างใส
-เหมาะสำหรับผู้ที่มีรอยด่างดำ รอยหลุมสิว จากปัญหาสิว

ครีมลดรอยสิว Puricars

ครีมลดรอยสิว เพียวริก้าส์
-ปริมาณสุทธิของสินค้า 8 กรัม
-ช่วยลดเลือนรอยแผลเป็น รอยดำ-แดงจากสิว
-ช่วยเติมความชุ่มชื้นบริเวณรอยแผล ไม่ให้แห้งกร้าน

ครีมลดรอยสิว BK

ครีมลดรอยสิว บีเค
-ปริมาณสุทธิของสินค้า 30 กรัม
-ช่วยผิวให้นุ่มชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง แลดูกระจ่างใสเป็นธรรมชาติ
-เหมาะสำหรับคนเป็นสิวผิวแพ้ง่ายปราศจากสารอันตราย

ครีมลดรอยสิว Provamed

ครีมลดรอยสิว โปรวาเมด
-ปริมาณสุทธิของสินค้า 15 กรัม
-ช่วยป้องกันการอักเสบ แพ้ ระคายเคืองของผิวหน้า
-ช่วยลดการสังเคราะห์เม็ดสีผิวที่ทำให้เกิดฝ้าและจุดด่างดำ

Best Choice ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุ้กกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า