อุปกรณ์ตัดผมที่นิยมมีอะไรบ้าง
1. กรรไกรตัดผม
เป็นอุปกรณ์ตัดผมที่ช่างใช้ที่สำคัญมากที่สุด ทั้งการตัดผมผู้หญิงและผู้ชายจะต้องมีอุปกรณ์นี้ โดยเฉพาะผู้ที่มีผมยาวก็ต้องตัดแต่งด้วยอุปกรณ์ชนิดนี้ ซึ่งมีประเภทและขนาดที่แตกต่างกัน รวมถึงความเหมาะสมในการใช้งานก็แตกต่างกันด้วย
2. ปัตตาเลียน
เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่สำคัญที่สุดสำหรับตัดผมผู้ชาย ใช้สำหรับตัดและเล็มผมผู้ชายหรือผมสั้น ซึ่งถือเป็นอุปกรณ์ที่สามารถใช้งานได้ง่าย และสะดวกมากเลยทีเดียว ทั้งช่วยทำให้การตัดผมของเราสามารถปรับได้ด้วยตัวเอง มีให้เลือกใช้ทั้งแบบไร้สาย แบบมีสาย และไร้เสียง
3. กรรไกรซอยผม
สำหรับอุปกรณ์ตัดผมอีกประเภทที่ได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน ก็คือ กรรไกรซอยผม เป็นอุปกรณ์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ตัดแต่งทรงผม ใช้งานง่าย และมีประสิทธิภาพในการตัดสูง แถมยังตัดแต่งทรงผมได้หลากหลาย ตามความต้องการของแต่ละบุคคล
กรรไกรตัดผมคืออะไร
กรรไกรตัดผม คือ หนึ่งในอุปกรณ์ตัดผมที่ช่างใช้ มีคุณภาพสูงในการตกแต่งทรงผม จะตัดหรือซอยผมทำได้หมด ซึ่งถือเป็นอุปกรณ์หลักและมีความสำคัญมากที่สุด และจัดเป็นเครื่องมืออเนกประสงค์ในการออกแบบตัดผมและตกแต่งทรงผม
โดยเฉพาะการตัดผมผู้หญิง จำเป็นต้องใช้กรรไกรในการตัดแต่งทรงผมโดยเฉพาะ เพราะผู้หญิงมักจะมีผมที่ยาวมากกว่าผู้ชาย จึงต้องอาศัยกรรไกรสำหรับตัดผมเป็นหลักในการตัดแต่งทรงผม ส่วนการตัดผมผู้ชายนั้น นอกจากกรรไกรแล้ว อาจต้องเพิ่งปัตตาเลียนด้วย เนื่องจากผู้ชายส่วนใหญ่มักจะผมสั้น
นอกจากนี้เรายังสามารถที่จะใช้อุปกรณ์ในการตัดตกแต่งทรงผม หรือเปลี่ยนทรงผมในรูปแบบที่ต้องการด้วยตนเองได้อีกหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น ปัตตาเลียน , เครื่องม้วนผม , ที่หนีบผม หรือจะเป็นการเปลี่ยนสีผมด้วยตนเองง่ายๆ ด้วยการเลือกใช้ ครีมเปลี่ยนสีผมชั่วคราว , ฟอกสีผม หรือการกัดสีผม เป็นต้น เปลี่ยนแปลงทางผมได้หลายสไตล์ตามที่ชื่นชอบได้เลย
กรรไกรตัดผม VS กรรไกรธรรมดา
กรรไกรตัดผม และกรรไกรธรรมดาที่ใช้กันโดยทั่วไป มีความแตกต่างกันทั้งในลักษณะและวิธีการใช้งาน รวมถึงจุดประสงค์ที่นำไปใช้ด้วย สำหรับกรรไกรตัดผมนั้นจะเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการตัดแต่งทรงผมโดยเฉพาะ และไม่ควรนำไปใช้ตัดวัสดุหรือสิ่งอื่นนอกเหนือจากผม เพราะถูกออกแบบมาให้ใช้งานกับผมเท่านั้น
ส่วนกรรไกรธรรมดานั้นเป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับตัดเช่นกัน แต่ใช้สำหรับตัดวัสดุต่างๆ อย่างเช่น ผ้า , กระดาษ , หลอด , ริบบิ้น หรือวัสดุของใช้อื่นๆ ตามความเหมาะสม ที่ต้องใช้แรงกดเล็กน้อย เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่ากรรไกรทั้งสองประเภทมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน
กรรไกรตัดผมมีกี่แบบ
โดยทั่วไปแล้วจะมี 3 แบบหลักๆ ดังนี้
1. กรรไกรตัดผมแบบธรรมดา (Cutting Scissors)
มีลักษณะเหมือนกรรไกรตัดผมทั่วไป ดูมีความคลาสสิก ซึ่งเป็นกรรไกรสำหรับตัดผมที่ช่างนิยมใช้กันมากที่สุด เหมาะกับการใช้ตัดผมที่ไม่ได้หนามาก สามารถใช้ตัดผมได้ทั่วไป เช่น การเล็มผม และตัดผมส่วนเกินออก เป็นต้น
2. กรรไกรตัดผมฟันปลา (Texturizing Scissors)
เป็นกรรไกรสำหรับใช้ตัดผมประเภทที่มีลักษณะเป็นซี่ๆ คล้ายกับฟันปลา ช่างตัดผมส่วนใหญ่นิยมนำมาใช้งานในการซอยผมมากกว่าตัดตรง และผมที่ซอยจากตอนแรกที่มีความหนาก็จะดูบางลง
3. กรรไกรตัดผมแบบหมุนได้ (Swivel Scissors)
มีความสามารถในการลดแรงกดหรือการเกร็งของกล้ามเนื้อมือในขณะใช้งานได้ดี บริเวณช่วงด้ามจับจะมีช่องสอดนิ้วโป้งที่ผู้ใช้หมุนได้แบบไร้ข้อจำกัด ทำให้สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างสะดวก และเคลื่อนไหวได้ตามความต้องการของผู้ใช้
ขนาดของกรรไกรตัดผม
- ขนาด 4 นิ้ว ขนาดของกรรไกรตัดผมนี้จะตัดได้ช้า แต่มีความเสี่ยงต่อการเกิดข้อผิดพลาดต่ำ จึงเหมาะกับงานประเภทซาลอนที่ต้องการความละเอียดมากเป็นพิเศษ เช่น การเล็มผม การตัดแต่งผม เป็นต้น
- ขนาด 5 นิ้ว ถือเป็นขนาดมาตรฐานที่ใช้กันทั่วไปในงานซาลอน หรือการตัดแต่งทรงผมผู้หญิง เพราะถือเป็นขนาดที่ไม่สั้นหรือยาวจนเกินไป เหมาะกับงานที่ต้องการความละเอียดในระดับหนึ่ง
- ขนาด 6 นิ้ว เป็นขนาดที่เหมาะสำหรับการตัดแต่งทรงผมในงานบาร์เบอร์ เพราะขนาดดังกล่าวถือว่าอยู่ในระดับที่กำลังดี ไม่สั้นจนเกินไป ถือว่าเป็นขนาดที่สามารถตัดผมผู้ชายได้อย่างถนัดมือ
- ขนาด 7 นิ้ว จะช่วยให้ตัดผมได้เร็ว แต่ถ้าหากเกิดข้อผิดพลาดก็จะแก้ไขอะไรไม่ได้ เพราะเป็นกรรไกรที่ใช้สำหรับตัดครั้งเดียวแล้วผมขาดทันที ซึ่งเหมาะกับงานที่ค่อนข้างเร่งรีบและใช้แรงในการตัด เช่น การตัดผมยาวที่มีลักษณะตรงในระดับหนึ่งให้สั้นลง เป็นต้น
- ขนาด 8 นิ้ว โดยเฉลี่ยแล้วถือเป็นขนาดที่ยาวที่สุดที่นิยมใช้สำหรับการตัดผม แต่จะเหมาะกับงานที่ต้องการความเร่งรีบ และไม่เน้นความละเอียดมากนัก เช่น การซอยผม การตัดผมที่ยาวมากๆ เป็นต้น
วิธีเลือกซื้อกรรไกรตัดผม
1. เลือกขนาดให้เหมาะสมกับการใช้งาน
กรรไกรตัดผมมีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีคุณสมบัติและวิธีการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนั้นควรเลือกประเภทที่เหมาะกับการใช้งานของตัวเอง และเมื่อนำมาใช้แล้วมีความถนัด หากต้องการกรรไกรที่สามารถตัดผมได้อย่างรวดเร็ว ควรเลือกที่มีขนาดยาว และสำหรับการตัดผมที่เน้นความละเอียด และไม่เร่งรีบ ควรเลือกที่มีขนาดสั้น
2. เลือกตามประเภทของกรรไกรตัดผม
หลายท่านอาจจะมีความเข้าใจว่ากรรไกรสำหรับใช้ตัดผมนั้นมีอยู่แค่ประเภทเดียว แต่ความเป็นจริงมีทั้งหมดอยู่ 3 ประเภทด้วยกัน ก็คือ กรรไกรแบบธรรมดา , กรรไกรแบบฟันปลา และกรรไกรประเภทหมุนได้ ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีการใช้งานและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ดังนั้นควรเลือกประเภทให้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด
3. เลือกตามรูปทรงแบบขวามือหรือซ้ายมือ
รูปทรงและส่วนประกอบมีความสำคัญมาก กรรไกรที่ดีควรมีความสมมาตรในแต่ละส่วน โดยเฉพาะด้ามจับและที่พักนิ้ว ควรเลือกให้เหมาะสมกับความถนัดของมือ ซึ่งออกแบบมารองรับทั้งคนที่ถนัดมือซ้ายและถนัดมือขวา ควรเลือกให้เหมาะกับความถนัด ไม่ควรเลือกแบบตรงข้าม เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
4. เลือกจากวัสดุที่ใช้
กรรไกรตัดผมที่ดีต้องใช้วัสดุเหล็กอย่างสเตนเลสหรือโลหะที่มีความทนทานและคุณภาพสูง ซึ่งช่างตัดผมมืออาชีพส่วนใหญ่มักจะใช้กัน เนื่องจากสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยลดโอกาสที่จะต้องนำไปซ่อมแซมหรือลับให้คม เพราะถ้าหากกรรไกรไม่มีความคมมากพอก็จะใช้งานได้ยากหรือใช้ไม่ได้เลย ซึ่งกรรไกรที่ผลิตจากสเตนเลสจะช่วยลดการเกิดสนิมและปัญหาอื่นๆ ได้
5. เลือกจากใบมีดของกรรไกร
ใบมีดของกรรไกรสำหรับตัดผมนั้นจะต้องมีความคม ไม่เป็นสนิทง่าย สามารถใช้ตัดผมได้สะดวก ลื่นไหล ไม่นุ่มและกระแทกจนเกินไป จะช่วยให้ตัดผมได้อย่างไม่ติดขัด และทำมาจากสเตนเลส ซึ่งกรรไกรที่มีความคมของใบมีดสูงจะมีราคาที่ค่อนข้างพอสมควร
ข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อกรรไกรตัดผม
- ควรเลือกร้านขายกรรไกรสำหรับตัดผมโดยเฉพาะ ที่มีความน่าเชื่อถือ หากซื้อที่ร้านโดยตรงก็ควรเลือกร้านที่ขายเกี่ยวกับอุปกรณ์ตัดผมโดยเฉพาะ และผู้ขายควรจะมีความรู้ทางด้านนี้เป็นพิเศษ เพื่อที่จะสามารถให้คำปรึกษากับผู้ซื้อได้
- ในกรณีที่ซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ก็ควรเลือกร้านที่มีการรีวิวสินค้า มีความน่าเชื่อถือ และเครดิตของร้านดี เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยเพิ่มโอกาสให้เราได้สินค้าที่มีคุณภาพมากขึ้น
- ราคาไม่ถูกจนเกินไป กรรไกรสำหรับตัดผมที่ดีและมีคุณภาพมักจะมีราคาอยู่ที่หลักพันขึ้นไป หากเลือกซื้อกรรไกรสำหรับตัดผมที่มีราคาถูกอาจได้ของที่ไม่มีมาตรฐาน ทำให้ตัดผมได้ยาก ไม่ลื่นไหล เพราะฉะนั้นควรเลือกซื้อที่มีราคาหลักพันขึ้นไป จะทำให้ใช้งานได้อย่างสะดวกและยาวนานมากขึ้น
- ควรเลือกกรรไกรตัดผมที่มียี่ห้อ และช่างตัดผมส่วนใหญ่ใช้กัน จะสามารถการันตีคุณภาพการใช้งานได้ เพราะอาชีพช่างตัดผมคืองานบริการ ดังนั้นช่างตัดผมจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพเพื่อให้ลูกค้าประทับใจในฝีมือการตัดผม
- ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรลองจับให้เข้ามือก่อน เพราะบางครั้งเมื่อซื้อมาใช้จริงแล้วจะรู้สึกไม่ค่อยถนัดมือนัก เนื่องจากขนาดมือและนิ้วของแต่ละคนไม่เท่ากัน ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อแต่ละประเภทควรลองจับเพื่อให้มั่นใจว่าถนัดมือก่อน หรือถ้าหากไม่มั่นใจว่าควรเลือกซื้อแบบไหนก็ปรึกษาผู้ขายหรือผู้ที่มีความรู้ด้านนี้โดยเฉพาะ
- ก่อนตัดสินใจซื้อควรดูใบมีดของกรรไกรก่อนว่ามีความคมดีหรือไม่ และใบมีดที่ดีควรมีส่วนเว้า เป็นคุณสมบัติของกรรไกรสำหรับตัดผมที่เป็นเอกลักษณ์ หากยี่ห้อไหนที่จับดูแล้วไม่มีส่วนเว้า ไม่ควรเลือกซื้อ
อุปกรณ์ทำผมอื่นๆนอกเหนือจากกรรไกรตัดผม
1. หวีไฟฟ้า
เมื่อกล่าวถึงอุปกรณ์การตัดผม หวีไฟฟ้า ถือเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้เช่นกัน ซึ่งมีการเลือกใช้งานที่แตกต่างกันออกไป สำหรับหวีที่ใช้ในการตัดแต่งทรงผมมักจะมีขนาดที่ไม่ใหญ่มาก โดยการตัดแต่งทรงผมแต่ละประเภทก็จะเลือกใช้หวีที่จับถนัด ใช้งานง่าย และไม่หนักจนเกินไป
2. แปรงปัด
เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับปัดเศษผมที่ติดอยู่บริเวณใบหน้า และลำคอออก เพื่อให้ผู้ที่ถูกตัดผมไม่รู้สึกคันและระคายเคืองจากการที่มีเศษผมเกาะอยู่ตามบริเวณใบหน้า และลำคอ ซึ่งช่างตัดผมมักจะใช้ตอนที่เศษผมหล่นใส่ใบหน้าหรือหลังตัดผมเสร็จเรียบร้อยแล้ว
3. มีดโกน
ในกรณีที่เป็นการตัดผมผู้ชายมักจะถูกใช้สำหรับโกนผมที่หลงเหลืออยู่ให้ดูเรียบร้อยมากขึ้น เพราะการใช้ปัตตาเลียนและกรรไกรตัดผม อาจจะทำให้ตัดผมได้อย่างไม่หมดจด จึงต้องใช้มีดโกนมาช่วยโกนผมออก เพื่อการตัดผมที่เสร็จสมบูรณ์
4. กระบอกฉีดน้ำ
เป็นอุปกรณ์ที่มีในร้านเสริมสวย และร้านตัดผมชาย ซึ่งมักจะใช้ในการฉีดผมเพื่อให้ง่ายต่อการตัดแต่งทรงผมหรือซอยผม ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยให้ผมอยู่ทรงมากขึ้น
5. ผ้าพันคอ
ก่อนที่จะใช้ผ้าคลุมตัวต้องใช้ผ้าพันคอผืนเล็กคลุมบริเวณคอก่อน คุณสมบัติของผ้าพันคอที่ดีควรมีลักษณะอ่อนนุ่ม และไม่หนาเกินไป เพราะถ้ามีความหนาเกินไปจะทำให้เกะกะหรือไม่สบายตัวได้
6. กิ๊บหนีบผม
กิ๊บหนีบผม หรือกิ๊บปากเป็ด ที่ช่างตัดผมส่วนใหญ่นิยมใช้กัน นำมาใช้สำหรับหนีบผมเพื่อให้สะดวกต่อการตัดแต่งทรงผม แบ่งผมออกเป็นสัดส่วน เพิ่มความสะดวกในการตัดผมได้ดีขึ้น โดยมักจะใช้ในการแบ่งผมของผู้หญิง หรือผู้ที่ผมยาวในระดับหนึ่ง
7. ผ้าคลุมตัดผม
ผ้าคลุมตัดผม ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้เลยในการตัดผม จะใช้คลุมตัวก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนการตัดผม ถือเป็นอุปกรณ์แรกที่ใช้ในการตัดผม โดยการคลุมตัวนั้นเพื่อป้องกันเศษผมที่ถูกตัดหลุดร่วงลงใส่ตัว
8. ไดร์เป่าผม
จะใช้ ไดร์เป่าผม สำหรับเป่าเซตผมหลังตัดซอยและจัดทรงให้ผมของลูกค้า ทั้งยังช่วยในการปัดเศษผมออกจากบริเวณลำคอและใบหน้าออกได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น กระดาษสำหรับรองคอ หรือ มูสใส่ผม และกระจกส่องทรงผม เป็นต้น
การรักษาคมกรรไกรตัดผม
- ไม่ควรนำกรรไกรตัดผมไปใช้ตัดวัสดุอย่างอื่น เนื่องจากเป็นกรรไกรประเภทที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานสำหรับผมเท่านั้น หากนำไปใช้ตัดสิ่งอื่นๆ ที่นอกเหนือจากผม เช่นกระดาษ , ริบบิ้น หรือผ้าก็จะส่งผลให้คมกรรไกรลดลง
- หลังจากใช้กรรไกรตัดผมเสร็จแล้ว ควรนำผ้าแห้งนิ่มๆ มาเช็ดทำความสะอาดให้เศษผม และฝุ่นต่างๆ ที่อาจติดเกาะอยู่ออกให้หมด ซึ่งวิธีนี้จะช่วยลดแรงเสียดทานจากโลหะ ทำให้ความคมยังคงอยู่ และช่วยยืดอายุการใช้งานได้นานมากขึ้นด้วย
- หยอดน้ำมันหล่อลื่นลงบนใบมีดของกรรไกรทุกวัน เริ่มต้นจากการง้างขากรรไกรออก แล้วหยอดน้ำมันหล่อลื่นลงไป จากนั้นทำการขยับเปิดปิดไปมา วิธีนี้จะช่วยรักษาใบมีด และทำให้ความคมของกรรไกรคงอยู่ได้นานขึ้น
- เก็บรักษากรรไกรตัดผมให้มิดชิด ควรมีกล่องหรือวัสดุที่สามารถเก็บได้อย่างดี เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ และควรลับคมมีดเป็นประจำ เพื่อให้ใบมีดพร้อมใช้งานอยู่เสมอ ไม่ติดขัด
- ช่างตัดผมหลาย ๆ คนจะทราบดีว่า เมื่อทำกรรไกรตกลงพื้นแล้วจะส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ดังนั้นห้ามทำกรรไกรตก เพราะหากทำตกแล้วกรรไกรจะบิ่น และเสียรูปทรง จนส่งผลให้ความคมลดน้อยลงไปด้วย
ควรลับกรรไกรตัดผมบ่อยแค่ไหน
การลับคมของกรรไกรตัดผม จะขึ้นอยู่กับการใช้งานว่าผ่านการใช้งานมาแล้วมากน้อยเพียงใด แต่โดยทั่วไปแล้วกรรไกรที่ผ่านการใช้งานแล้ว ควรทำการลับคมใบมีดอย่างน้อยปีละครั้ง หรือในทุกๆ 3-6 เดือน ก็จะช่วยให้ความคมของกรรไกรยังคงอยู่ และทำให้มีประสิทธิภาพในการใช้งาน ซึ่งผู้ใช้งานหรือเจ้าของกรรไกรจะต้องไปทำการลับคมในร้านที่เปิดให้บริการลับคมกรรไกร หรือสำหรับผู้ที่ชำนาญและต้องการทำด้วยตัวเอง ก็สามารถใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมมาทำการลับคมกรรไกรได้
กรรไกรตัดผมที่ช่างนิยมใช้มากที่สุด
สรุป
จากข้อมูลที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นนี้ จะเห็นได้ว่ากรรไกรตัดผมเป็นเครื่องมือที่สำคัญมากแค่ไหน ซึ่งจัดว่าเป็นอุปกรณ์หลักในการตัดผมที่ช่วยในเรื่องเทคนิคการทำผมและตัดแต่งทรงผมเกือบ 100% เลยทีเดียว เพราะฉะนั้นการเลือกที่มีคุณภาพดีและเหมาะกับการใช้งาน จึงเป็นเรื่องที่ช่างตัดผม ช่างเสริมสวย หรือแม้กระทั่งผู้ที่ต้องการจะตัดผมด้วยตัวเอง ควรให้ความสำคัญ เพราะการจะตัดแต่งทรงผมออกมาให้ได้ตามความต้องการนั้นก็ต้องอุปกรณ์นี้เป็นหลัก
ยุ้ย พิมพ์ฉัตร การศึกษาปริญญาตรี บริหารทรัพยากรมนุษย์ มีประสบการณ์และเป็นนักค้นคว้าวิจัยผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม เป็นนักทดสอบผลิตภัณฑ์ออกใหม่เพื่อดูแลเส้นผมแบรนด์ดังหลายแบรนด์
กรรไกรตัดผม Zwilling
-รูปทรงจับถนัดมือ ใช้งานง่าย น้ำหนักกำลังดี
-ดีไซน์ทันสมัย ดูหรู ดูแพง มีที่พักนิ้วป้องกันการเมื่อยล้า
กรรไกรตัดผม DAISO
-เหมาะสำหรับใช้ตัดและตกแต่งทรงผม
-ผลิตจากวัสดุคุณภาพดี แข็งแรง ทนทานต่อการใช้งาน
กรรไกรตัดผม Rhino Brand
-เหมาะสำหรับตัดแต่งทรงผม ตัด ซอย และเล็ม
-ที่จับทรงกลม มีที่พักนิ้ว ออกแบบให้จับได้ถนัดมือ
กรรไกรตัดผม KASHO
-เหมาะสำหรับมืออาชีพและมือใหม่ มีความคมมาก
-ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ถือจับเหมาะ ถนัดมือ
กรรไกรตัดผม Vs Sassoon
-เหมาะสำหรับร้านตัดผม บาร์เบอร์ ซาลอน หรือใช้งานทั่วไป
-ขนาดของสินค้า 6 นิ้ว ใบมีดคมกริบ ไม่สะดุดเวลาใช้งาน
กรรไกรตัดผม Toni&Guy
-ขนาดของสินค้า 6 นิ้ว ใบมีดมีความคมมาก
-เหมาะสำหรับช่างทำผมหรือร้านทำผม
กรรไกรตัดผม WING
-ช่วยให้ตัดได้เรียบ ลื่น ตัดง่ายและเสียงเบา
-เนื้อวัสดุของสแตนเลสเป็นเกรด Japan Steel
กรรไกรตัดผม Jaguar
-เสียงเงียบคมนิ่มสบายมือไม่ทำให้หงุดหงิด
-ออกแบบมาสำหรับช่างผมมืออาชีพโดยตรง
กรรไกรตัดผม Titan รุ่น T560
-ผลิตจากวัสดุคุณภาพดี เกรดพรีเมี่ยม ทนทาน
-เหมาะสำหรับใช้ตัดแต่งทรงผม คมมาก เสียงเงียบ
กรรไกรตัดผม Master Z
-ดีไซน์ทันสมัย ใช้งานง่าย รูปทรงจับถนัดมือ
-เหมาะสำหรับร้านตัดผม บาร์เบอร์ ซาลอน