ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อกับ โน๊ตบุ๊ค dell ,โน๊ตบุ๊ค Acer สำหรับการทำงานหรือการเรียน เครื่องพิมพ์ฉลากสินค้า สำหรับการพิมพ์ลาเบล เครื่องปริ้น Canon , เครื่องอ่านบาร์โค้ด , เครื่องอ่าน Ebook หรือ android box ที่ใช้เชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หรือแม้แต่การใช้ สายชาร์จเร็ว ที่เป็น หัวชาร์จเร็ว เพื่อชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ พาวเวอร์แบงค์ ยิ่งได้ประสิทธิภาพของการเชื่อมต่อที่รวดเร็วมากขึ้น
แต่สำหรับการเชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ตนอกจากระบบไวไฟแล้ว การเชื่อมต่อที่ทรงประสิทธิภาพสูงอีกทางหนึ่งคือ การเชื่อมต่อผ่านสายแลน เพราะสายแลนมีความสำคัญในการเชื่อมต่อสัญญาณกับอุปกรณ์ต่าง ๆ สามารถเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตเครือข่ายภายในบ้านได้อย่างเสถียรภาพ
สาย LAN คืออะไร ใช้ทำอะไร
หรือที่เรารู้จักเป็นทางการว่าสาย UTP (Unshielded Twisted Pair) เป็นสายนำสัญญาณชนิดหนึ่ง ที่มีตัวนำสัญญาณเป็นทองแดงบิดตีเกลียวกันเป็นคู่ (Twisted Pairs) ใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในการรับส่งช้อมูล หรือเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายกลาง ได้แก่ Hub, Router Wifi, Network Switch ซึ่งในส่วนของหัวที่ใช้เชื่อมต่อสายแลนเราเรียกว่า RJ45
คุณสมบัติของสาย LAN
เป็นสายที่ใช้นำสัญญาณเพื่อการเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตกับคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่าง ๆ หรือระบบภายในระหว่างเครื่องสายที่มีคุณภาพสูง เพื่อการรับส่งสัญญาณที่มีมาตรฐาน ไม่สะดุด และไม่มีปัญหาระหว่างการเชื่อมต่อ
สาย LAN ใช้ทำอะไร
หลัก ๆ เป็นการทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องใช้การเชื่อมต่อเข้าหากันมีการเชื่อมต่อที่ต่อเนื่อง
1.ใช้แชร์ฮาร์ดแวร์กับอุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่อฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ ได้
- เป็นอุปกรณ์สำหรับใช้งานด้านการสื่อสารที่ต้องใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์ Modem Router Gateway
- เป็นอุปกรณ์สำหรับการเก็บหน่วยความจำต่าง ๆ ใช้ร่วมกบสายแลนคือ Hard Disk SSD
- ใช้ทำงานกับอุปกรณ์เครื่องพิมพ์ เช่น Printer แบบปกติ หรือ เครื่องปริ้นเลเซอร์ใช้งานร่วมกันได้
- ใช้เครื่องฉาย VDO โปรเจคเตอร์ที่ต้องใช้ในห้องประชุมในการนำเสนองาน ในการนำมาเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ในการแสดงภาพออกทางเครื่องโปรเจคเตอร์
2.แชร์ซอฟต์แวร์กับอุปกรณ์หลายเครื่องพร้อมกันในเวลาเดียวกัน
ซอฟต์แวร์บางชนิดสามารถติดตั้งกับคอมพิวเตอร์จากเครื่องไปอีกเครื่องได้ และสามารถดึงโปแกรมจากตัวคอมพิวเตอร์อีกเครื่องได้
3.แชร์ข้อมูลได้
การทำงานไม่ว่าจะในสายงานไหนต้องใช้ระบบคอมพิวเตอร์ จะมีการแชร์ข้อมูลกันระหว่างอุปกรณ์หนึ่งไปอีกอุปกรณ์หนึ่ง สายแลนจะเข้ามาเป็นตัวช่วยในการเชื่อมต่อสำหรับการแชร์ข้อมูลภายในพื้นที่ทำงานเดียวกัน
มาตรฐานสาย LAN คุณภาพสูง
ปกติสาย LAN จะมีฉลากกำกับไว้ว่าเป็นสาย LAN ประเภทไหน เช่น Cat5 Cat5E Cat8 ซึ่งเลขที่เราเห็นคือ เลขที่จะบอกให้เรารู้ว่าเป็นสาย LAN ประเภทอะไร โดย CAT ย่อมาจากคกว่า CATegory ซึ่งกฏง่าย ๆ คือ เลขยิ่งสูง ความเร็วในการรับส่งข้อมูล แบรนด์วิธ คุณภาพจะยิ่งสูงตาม หมายความว่า เครือข่ายจะรับส่งสัญญาณได้เร็วขึ้น ไม่สะดุด ปัจจุบันมีสาย LAN 8 ประเภทคือ
สาย CAT3 CAT5
สาย CAT3 CAT5 ได้ตกยุคแล้ว โดยเราจะเจอสาย CAT5 อยู่บ้างแต่ประสิทธิภาพก็ช้าเกินไปสำหรับยุคสมัยนี้ ดังนั้นเราขอข้ามสาย CAT3 CAT5 ไปได้เลย
CAT5e
คำว่า Enhanced มาจากคำย่อ e ใน CAT5e ซึ่งในทางฟิสิกส์แล้วสาย CAT5 CAT5e ไม่แตกต่างกันเลย แต่การผลิตสาย CAT5e จะควบคุมภาพสัญญาณอย่างเข้มงวดกว่า
CAT6
CAT6 จะมีแบรนด์วิธที่สูง คุณภาพสูงกว่า CAT5e อย่างมาก สูงได้ถึง 250 MHz ความยาวสายสูงสุด 100 เมตร ทำความเร็วสูงสุด 10 Gbps ได้ที่ความยาว 55 เมตร
CAT6a
ปัจจุบัน CAT6a เป็นที่น่าสนใจมาก มีโปรโตคอล A/V ในตัว ทำให้รองรับการใช้งานแทนสาย HDMI ได้
CAT6a ต่างจาก CAT6 ตรงแบรนด์วิชที่พัฒนาขึ้นเป็น 500 MHz แล้วภายในสายยังมีฉนวนในการลดปัญหาเสียงสัญญาณรบกวน ทำให้ได้ประสิทธิภาพเสถียร์ภาพ คุณภาพสูง การรับส่งสัญญาณดี ไม่สะดุด ทั้งนี้ยังทำความเร็วสูงสุด 10 Gbps ที่ความยาวสาย 100 เมตร
CAT6e
ต่อมาได้พัฒนามาตรฐานสาย CAT6e โดยมีเป้าหมายเหมือนกับสาย CAT5e ในอดีต ทั้งนี้สาย CAT6e ไม่ได้การยอมรับมาตรฐานจาก TIA (TelecommuniCATions Industry Association)
CAT7 CAT7a
มีความพิเศษในด้านมาตรฐานสาย CAT7 CAT7a รองรับโดยกลุ่ม ANSI/TIA แต่ว่า CAT7 CAT7a รับรองโดย ISO/IEC เป็นสาย LAN ที่มีความเร็วระดับ 10 Gbps ที่ความยาว 100 เมตร แบรนด์วิช 600 MHz สูงกว่า CAT6 สเปกของสาย LAN7 ได้รับการรับรองในปี ค.ศ.2009 ซึ่ง CAT7 CAT7a มีความเร็วในการรับส่งข้อมูลเท่ากันคือ 10 Gbps โดยแบรนด์วิชของ CAT7 อยู่ที่ 600 MHz และ CAT7a แบรนด์วิชที่ 1000 MHz
CAT8
CAT8 เป็นมาตรฐานล่าสุดในปี ค.ศ.2016 โดยสาย CAT8 ทำความเร็วได้ถึง 40 Gbps แบรนด์วิชสูงถึง 2000 MHz แต่มีข้อจำกัด้ดานความยาวสสย ทำความเร็วสูงสุดระยะ 30-36 เมตร
CAT8 ออกแบบมาให้ใช้ใน Data Center ระยะห่างระหว่างตัว Switches กับ Servers ไม่อยู่ใกล้กันมาก ไม่เหมาะกับวางในโครงสร้างตึกขนาดใหญ่
สายแลน UTP STP FTP คืออะไร
เป็นเรื่องของโครงสร้างของสายแลน กับตัวป้องกันสัญญาณรบกวน หากสายไม่มีตัวป้องกันสัญญาณรบกวนที่ดี จะทำให้ความเร็วต่ำและเดินสายในระยะทางสั้นลง ซึ่งปกติสายแลนที่ได้มาตรฐาน ISO/IEC 11801 ed2.2 Annex E
จะมีการตีเกลียวของสายแต่ละคู่ สำหรับการป้องกันสัญญาณรบกวนระดับหนึง เราเรียกสายประเภทนี้ว่า UTP แต่หากต้องการเดินสายแลนในจุดที่มีสัญญาณรบกวนสูง ๆ สาย UTP ไม่ควรนำมาใช้งาน ดังนั้นเรามาดูกันว่าควรเลือกใช้สายแลนแบบไหนดี
1.UTP ย่อมาจาก Unshielded Twisted Pair – เป็นสายแลนแบบตีเกลียวที่ไม่มีชิลด์ ใช้งานตามบ้านหรือสำนักงาน ราคาไม่แพง ป้องกันสัญญาณรบกวนได้ระดับนึง
2.F/UTP โดยตัว F มาจาก Foil – เป็นสายแลนแบบหุ้มฟรอยด์ สำหรับการป้องกันสัญญาณรบกวนได้ดี เหมาะสำหรับงานที่ต้องเดินคู่กับสายไฟฟ้าแรงสูง
3.S/FTP และ SF/UTP ตัว S มาจาก Shield – โดยตัวสายหุ้มด้วยฟรอยด์ และชิลด์ถักอีกชั้นนึง ทำให้สามารถกันสัญญาณรบกวนได้ดี เหมาะกับใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีเครื่องจักรขนาดใหญ่ และมีราคาแพงที่สุด คุณภาพสูง การรับส่งสัญญาณไม่สะดุด
สาย LAN มีกี่ประเภท
สาย LAN แบ่งได้หลายประเภทขึ้นกับลักษณะการจำแนก โดยแบ่งออกตามลักษณะการติดตั้ง แบ่งตามลักษณะการป้องกันสัญญาณรบกวน และ แบ่งตาม Bandwidth ที่รองรับได้
1.แบ่งตามลักษณะการติดตั้ง
1.1 ชนิดติดตั้งภายในอาคาร Indoor Cable
เป็นสายสัญญาณที่ใช้ในการติดตั้งภายในอาคาร โดยเปลือกนอกนิยมทำจากวัสดุ PVC มีความยืดหยุ่น ป้องกันการลามไฟได้ ได้มีข้อกำหนดหรือมาตรฐานป้องกันทางด้านอัคคีภัย จึงต้องมีการใส่สารพิเศษเข้าไป จึงแบ่งชนิดของสายภายในอาคารที่นิยมใช้กันอีก 4 ชนิดด้วยกัน
- Communication Metallic (CM) – เป็นสายที่ป้องกันการลามไฟได้ในแนวราบ เช่นการติดตั้งสายแนวราบภายในชั้นเดียวกัน
- Communication Metallic Riser (CMR) – เป็นสายที่ป้องกันการลามไฟทั้งแนวราบและแนวดิ่ง ใช้ในการเดินสายสัญญาณระหว่างชั้นในอาคาร ผ่านช่องเดินสายของตัวอาคาร
- Communication Metallic Plenum (CMP) – เป็นสายที่ติดตั้งเดินสายบนฝ้าเพดาน หรือบริเวณช่องว่างเหนือฝ้าที่อากาศไหลเวียน แต่สายแบบนี้ไม่สามารถป้องกันการลามไฟในแนวดิ่งได้
- Low Smoke Zero Haloge (LSZH) – เป็นสายที่ป้องกันการลามไฟได้ทั้งแนวราบและแนวดิ่งเหมือน CMR แต่คุณสมบัติคือเมื่อเกิดอัคคีภัย สายประเภทนี้จะมีควันน้อยและไม่เกิดสารพิษ
1.2.ชนิดติดตั้งภายนอกอาคาร (Outdoor Cable)
เป็นสายสัญญาณสำหรับติดตั้งภายนอกอาคาร มีเปลือกนอกทำจากวัสดุ PE (Polyethylene) คุณสมบัติทนทานต่อสภาพแวดล้อมภายนอก ไม่สึกกร่อน แต่จะไม่สามารถป้องกันการลามไฟได้
2.แบ่งตามลักษณะการป้องกันสัญญาณรบกวน
2.1 ไม่มีฉนวนป้องกันสัญญาณรบกวน UTP (Unshield Twisted Pair)
เป็นสายทองแดงคู่ บิตติเกลียวแบบไม่มีชิลด์ป้องกันสัญญาณรบกวน ตัวนำสัญญาณจะมี 8 เส้น หรือ 4 คู่ เป็นทองแดงแท้ทั้งหมด เรานิยมใช้กับงานระบบคอมพิวเตอร์
2.2 มีฉนวนป้องกันสัญญาณรบกวน UTP (Foil Twisted Pair)
เป็นสายทองแดงคู่ บิตติเกลียวแบบมีชิลด์ป้องกันสัญญาณรบกวน มีสัญญาณรบกวนสูง นิยมใช้ในงานพื้นที่โรงงานอุตสาหกรรม ติดตั้งเครื่องจักรขนาดใหญ่ ไฟฟ้าแรงสูง
3.แบ่งตาม Bandwidth ที่รองรับได้
3.1 Category 5E (CAT 5E)
LAN (UTP) ทองแดงที่มีความเร็วต่ำ พัฒนามาจากสาย CAT 5 เดิม เพื่อรองรับ Bandwidth ที่ 100-200 MHz ความเร็วสูงสุดที่ 1 Gbps ในระยะทางไม่เกิน 100 เมตร
3.2 Category 6 (CAT6)
LAN (UTP) ทองแดงที่มีความเร็ว ถูกผลิตตามมาตรฐานของ Gigabit Ethernet ออกแบบมาเพื่อรองรับ Bandwidth ที่ 250 MHz ความเร็วสูงสุดที่ 10 Gbps ในระยะทางไม่เกิน 55 เมตร
3.3 Category 6A (CAT 6A)
LAN (UTP) ทองแดงที่มีความเร็ว รองรับ Bandwidth อยู่ที่ 500 MHz ความเร็วสูงสุดที่ 10 Gbps ในระบะทางไม่เกิน 100 เมตร
3.4 Category 8 (CAT8)
LAN (UTP) ทองแดงที่มีความเร็ว รองรับ Bandwidth ที่ 2 GHz ความเร็วสูงสุดที่ 25/40 Gbps ในระยะทางไม่เกิน 30 เมตร
สาย lan cat6 กับ cat7 ต่างกันอย่างไร
ความแตกต่างระหว่าง Cat 6 กับ Cat7 คือความถี่ในการส่งสัญญาณและความยาวของสายเคเบิลเป็นสองปัจจัยคือ สาย Cat6 ให้ประสิทธิภาพสูงถึง 250 MHz ขณะที่สาย Cat7 ได้รับการจัดอันดับสำหรับการส่งความถี่สูงถึง 600 MHz ความยาวสายเคเบิลสูงสุดของสายเคเบิลเครือข่าย Cat6 คือ 100 M.ด้วย 2 Gbps. ขณะที่ Cat7 ที่ 100 M. กับ 10 Gbps.
ในส่วนราคาของสาย Cat6 Cat7 นั้น สาย Cat7 จะมีราคาแพงกว่า Cat6 หากเปรียบกันภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน หากไม่สามารถซื้อ Cat6 Cat7 แนะนำให้เลือก Cat5e เป็นตัวเลือกสำหรับเครือข่าย 10G แต่ในเรื่องของความืนทาน Cat6 อยู่ที่ประมาณ 10 ปี ขณะที่ Cat7 อยู่ที่ประมาณ 15 ปี
Attribute | Cat6 | Cat 7 | Cat 8 |
Frequency | 250 MHz | 600 MHz. | 2000 MHz. |
Maximum Transmission Speed | 1 Gbps / 10 Gbps. | 10 Gbps. | 25 Gbps/40 Gbps. |
Distance | 100 m with 1 Gbps / 37.55 m with 10 Gbps. | 100m. | 30m. |
Number of Connectors in Channel | 4 | 4 | 2 |
Cable Construction | UTP or Shielded | Shielded | Shielded |
Connector Type | RJ45 | Non-RJ45 | Class I : RJ45 Class II : Non-RJ45 |
สาย LAN cat 8 คืออะไร
หรือ Category 8 ใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาสาย LAN Cat 8 ขึ้นมาให้มีปริมาณข้อมูลเพิ่มขึ้น คุณภาพที่สูงขึ้น หมายถึงการรับส่งข้อมูลที่ใช้ Bandwidth ที่เพิ่มมากขึ้น และอีกไม่นานสายแลน Cat8 จะถูกนำมาใช้งาน Data Center ขององค์กรใหญ่ ๆ มากขึ้นด้วย
สาย LAN Cat8 สามารถรองรับ Bandwidth ถึง 2 GHz และรองรับเครือข่าย Ethernet ได้ถึง 25G/40 Gbps BAST-T ระยะไม่เกิน 30 เมตร ซึ่งระยะนี้เพียงพอต่อการใช้งานในห้อง Data Center ได้อย่างดี สัญญาณไม่สะดุด
สาย LAN Cat8 มีคุณสมบัติอย่างไร
- โครงสร้าง S/FTP มีชิลด์ถักด้านนอกและฟอยล์หุ้มแต่ละคู่สาย เพื่อลดสัญญาณรบกวนให้มากที่สุด
- มีมาตรฐานสูงระดับ ANSI/TIA-568-C 2-1 Category 8
- รองรับ Bandwidth ได้ถึง 2000 MHz
- เป็นตัวนำทองแดงขนาด 22AWG การใช้งานรอบรับถึง 25G/40G BASE-T และ PoE-+
- ตัวฉนวนภายนอกทำจากวัสดุที่แข็งแรงอย่าง LSZH ที่ต้านการลามของไฟได้ดี แถมไม่มีควันพิษกระจายออกเมื่อเกิดไฟไหม้
วิธีต่อสาย LAN สำหรับสายlan cat6
เริ่มที่เตรียมอุปกรณ์ต่อสายแลนให้พร้อม ได้แก่ สายแลน Cat6, คีมเข้าหัว RJ45, หัวแลน RJ45, ปลอกหุ้มหัวแลน RJ45, กรรไกร, อุปกรณ์วัดสัญญาณ
ขั้นตอนการต่อสายแลน
1..ให้ปลอกเปลือกนอกสายแลน Cat6 โดยใช้คีมเข้าหัวในระยะการปลอกให้ห่างจากปลายสายประมาณ 2-3 cm. พอใส่สายแลนเข้าไป ให้หมุนคีมเป็นวงกลมให้รอบสาย ต้องระวังอย่าให้สายแลนเส้นในขาดเด็ดขาด
2.ค่อย ๆ ดึงปลอกสายแลนส่วนปลายแยกจากกัน
3.ปลอกสายแลนเสร็จ ให้สังเกตว่าจะเห็นมีเส้นด้ายสีขาว ไส้กลางให้ใช้กรรไกรตัดออก
4.แล้วจะพบสายแลนสีต่าง ๆ พันเกลียวเป็นคู่ 4 คู่ให้แยกสายออกแล้วค่อย ๆ ดึงให้ตรง
5.ให้ใส่ปลอกหุ้มหัวแลน RJ45 เข้าไปในสายแลน
6.ให้จัดเลียงลำดับสายใหม่ทั้งหมด โดยเรียงสีสายแลนตามการใช้งานได้สองแบบคือ
ในกรณีต้องการทำสายตางสำหรับเครื่องคอมไป switch ให้เรียงสีสายแลนคือ ทั้งสองข้าง ขาวส้ม ส้ม ขาว เขียวฟ้า ขาวฟ้า เขียว ขาวน้ำตาล น้ำตาล
ในกรณีต้องการทำสายครอส สำหรับค่อคอมกับคอม ให้เรียงสีสายแลนคือ
ข้างหนึ่งเป็น ขาวเขียว-ส้ม -ขาวส้ม -ฟ้า ขาวฟ้า-เขียว -ขาวน้ำตาล – น้ำตาล
อีกข้างหนึ่งเป็น ขาวส้ม -เขียว – ขาวเขียว – ฟ้า -ขาวฟ้า -ส้ม -ขาวน้ำตาล – น้ำตาล
7.ให้เรียงสีสายแลนให้ถูก ตามประเภทการใช้งานของท่าน จากนั้นใช้กรรไกรตัดสายแลนแนวเฉียง
8.ค่อย ๆ สอดสายแลนเข้าไส้ในหัว RJ45 สอดให้สุดปลอก แล้วใช้กรรไกรตัด
9.ตัดเสร็จแล้วให้นำหัวดันเข้าไปให้สุด
10.ให้นำสายแลนที่เข้ากับหัว RJ45 แล้วนำ นำมาเข้าคีม แล้วย่ำสายแลนให้มิด
11.เมื่อทำเสร็จแล้ว ให้นำมาทดสอบกับอุปกรณ์วัดสัญญาณ ลองสังเกตจะมีสัญญาณไฟสีเขียวขึ้น เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
สาย LAN ที่นิยมใช้มีกี่แบบ
สายแลนเป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์กับระบบเน็ตเวิร์ค การใช้งานในระบบเครือข่ายมีอยู่ด้วยกันสามแบบคือ
1.Copper Twisted Pair
หรือสายลวดทองแดงตีเกลียว สำหรับเป็นสื่อกลางในการส่งสัญญาณด้วยกระแสไฟฟ้า นอกจากจะส่งสัญญาณข้อมูลได้แล้ว ยังเป็นตัวส่งกระแสไฟฟ้าเพื่อเป็นพลังงานให้ไม่ต้องต่อสายไฟเพิ่ม หรือรู้จักกันดี PoE (Power of Ethernet)
แล้วเมื่อเราไปซื้อสายแลนจะพบว่ามีฉลากกำกัลไว้เช่น CAT5 CAT5E CAT8 คือเลขที่จะบอกว่ามันเป็นสายแลน โดย CAT ย่อมาจากคำว่า CATegory แปลว่า ประเภท และเลขต่อท้ายคือตัวเลขที่บ่งบอกความจุในการรองรับสัญญาณของสาย ยิ่งสูงเท่าไหร่ยิ่งรองรับการส่งข้อมูลได้มากขึ้น
2.Coaxial Cable
สายโคแอ็กเซียล เป็นสายทองแดงแกนกลาง ส่วนที่นำสัญญาณข้อมูล สายสัญญาณนี้เป็นที่นิยมมากในสมัยก่อน แต่ปัจจุบันสายโคแอ๊กซ์ไม่ค่อยนิยมแล้วสำหรับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ แต่ก็ยังมีบางระบบเครือข่ายที่ยังใช้สายประเภทนี้อยู่เหมือนกัน ส่วนใหญ่เรียกว่า สายโค้แอ็กซ์ Coax โดยมีตัวนำไฟฟ้าอยู่สองส่วน คือ คำว่าโคแอ็กซ์ มีความหมายว่า มีแกนร่วมกัน
3.Fiber Optic Cable
และส่งผ่านข้อมูลที่เป็นสัญญาณแสงนี้ตามสายไฟเบอร์ออฟติก แล้วเมื่อเดินทางมาถึงอุปกรณ์ปลายทาง ก็จะทำการแปลงสัญญาณแสงเป็นสัญญาณข้อมูลไฟฟ้า เพื่อให้ระบบไฟเบอร์ออฟติดถูกนำมาใช้ในการส่งสัญญาณข้อมูลในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์คุณภาพสูงที่เป็นการสื่อสารและระบบอินเทอร์เน็ตที่เราใช้กันแทบจะทุกบ้านกัน
สายไฟเบอร์ออฟติก หรือ สายใยแก้วนำแสง หมายถึง สายสัญญาณชนิดหนึ่งผลิตมาจากแก้ว หุ้มด้วยใยพิเศษ โดยการส่งข้อมูลของเส้นใยแก้วนำแสง ลักษณะการทำงานโดยการแปลงสัญญาณข้อมูลไฟฟ้าจากอุปกรณ์ต้นทางเป็นสัญญาณแสง
วิธีเลือกซื้อสาย LAN
การเลือกซื้อสายแลนที่ถูกต้อง ควรคำนึงถึงอะไรบ้าง
ฮาร์ดแวร์ และสัญญาณอินเตอร์เน็ต
เพราะหากว่าเราเลือกสายแลนกำลังในการรับส่งข้อมูลที่สูง แต่ฮาร์แวร์ส่งข้อมูลได้น้อยอยู่ ก็ควรเลือกสายแลนที่มีความเร็วที่พอเหมาะ เพื่อการใช้งานที่ได้เต็มประสิทธิภาพ เลือกที่คุณภาพสูง การใช้งานไม่มีสะดุด
แบบของสายแลน
สายแลนเป็นตัวกลางหลักที่ทำให้สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ เพราะสายแลนทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการเชื่อมต่อข้อมูลต่าง ๆ ในระบบแลน และแบ่งเป็น 3 ประเภทหลักๆคือ
- สายอินเทอร์เน็ต
สายตัวนำสัญญาณเป็นทองแดงบิตตีเกลียว เป็นสายที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน
- สายใยแก้วนำแสง
หรือสายไฟเบอร์ เป็นสายสื่อกลางนำสัญญาณ ใช้นำสัญญาณแสง มีประสิทธิภาพสูงที่สุด แต่มีความเปราะบางและราคาสูง
- สายโคแอทเซียล
สายทองแดงเป็นแกนกลางทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในเครือข่ายสมัยก่อน แต่ปัจจุบันสายโคแอ็กซ์ถือว่าเป็นสายที่ล้าสมัยไปแล้ว
เลือกสาย LAN (UTP) ให้เหมาะสม
สรุป
สายแลน หรือที่เราเรียกว่าสายแบบ Twisted Pair ซึ่งในมาตรฐานส่วนใหญ่เป็นพวก CAT5e CAT6 CAT6a สายแบบ UTP หมด คือไม่มีฉนวนหุ้มที่ตัวสาย สามารถทำความเร็วมากพอกับการใช้งานในบ้านทั่วไปถึง 10 Gbps
สำหรับใครที่กำลังมองหาสายแลนเพื่อใช้บ้านใหม่ แนะนำให้เลือก CAT6 CAT6a เพื่อประสิทธิภาพการใช้งานที่ลื่นไหล และความคงทนอยู่กับเราได้นานถึง 10 ปี
นักชำนาญการเทคนิคด้านคอมพิวเตอร์ ไอที การศึกษาเอกคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ผู้ชำนาญการด้านความรู้เกี่ยวกับไอที และคร่ำควอดเทคโนโลยี gadget มือถือ ชื่นชอบและติดตามวงการข่าวสารไอทีประสบการณ์มากกว่า 7 ปี
สาย LAN Glink
-เข้าหัวโดยผู้เชี่ยวชาญรับประกันคุณภาพทุกเส้น
-ใช้ได้กับอุปกรณ์หลากหลาย เช่น คอมพิวเตอร์,กล้องวงจรปิด
สาย LAN JAERSENT
-มีระยะความยาว 3.5,10,15,20,30,50 เมตร
-สาย LAN Gigabite Ethernet
สาย LAN Vention
-ขั้วต่อ RJ45 8P8C ขั้วต่อทองแดงปราศจากออกซิเจน
-สามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์เน็ตเวิคได้หลากหลาย
สาย LAN UGREEN รุ่น NW134
-เชื่อมต่อด้วยหัว RJ45 เหมาะสำหรับอุปกรณ์ Network
-มีความเสถียรในการรับส่งข้อมูลความเร็วสูง
สาย LAN UpToMe Store
-สาย LAN CAT7 10 Gbps 600 Mhz
-การเชื่อมต่อมีเสถียรภาพรับส่งข้อมูลได้ไหลลื่น
สาย LAN Gadget Villa
-เคลือบด้วยอลูมิเนียมกันสัญญาณรบกวน
-สายแบนจัดเก็บง่าย ยางครอบคลิปล็อคป้องกันหัก
สาย LAN Hoco
-รองรับการโอนถ่ายข้อมูล 1 Gbps = 125 MB/S
-ทองแดงคุณภาพสูงจำนวน 8Core รับส่งข้อมูลเร็วและเสถียร
สาย LAN G-Link รุ่น GL-5001
-ขนาดของสายเคเบิล 24 AWG สายแบบ Solid (Bare)
-มาตราฐาน UL&cULListed,TIA/EIA-568A
สาย LAN POWERSYNC
-สาย LAN CAT7 10 Gbps แบบแบนเก็บง่าย
-มีความทนทานสูง ล็อคหัวสายไม่ให้ขาดง่าย
สาย LAN OWIRE
-ตัวสายหุ้มด้วย อลูมิเนียมฟอยล์+โลหะสาน
-ทองแดงปราศจากออกซิเจน 8 Core 24 AWG