เก้าอี้สำนักงาน คืออะไร
คือ เก้าอี้ที่ใช้ในการนั่งทำงานภายในที่ทำงาน, สำนักงาน หรือ ออฟฟิศ ที่เน้นในการใช้งานที่นั่งสบาย, สามารถรับน้ำหนักได้ ซึ่งสามารถมีให้เลือกทั้งแบบที่มีล้อเลื่อน และไม่มีล้อเลื่อน
เก้าอี้ใช้ในสำนักงานที่มีการใช้งานในห้องผู้บริหาร ที่ควรจะมีการดูแลสรีระส่วนแผ่นหลัง และมีการรองรับไปถึงส่วนคอ และศีรษะร่วมด้วย เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดหัว และปวดหลัง หรือที่เรามักจะเรียกได้ว่า เป็นเก้าอี้ทำงานเพื่อสุขภาพ
ซึ่งในปัจจุบันนี้เราอาจจะเห็นเก้าอี้สำนักงาน ที่มีการผลิตและออกแบบที่หลากหลายมากขึ้น การปรับรูปทรงแผ่นหลังที่สามารถช่วยป้องกันการเกิด โรคออฟฟิศซินโดรม หรือการเลือกวัสดุที่แตกต่างกัน เก้าอี้บางตัวที่มีการขึงด้วยผ้าตาข่าย หรือ Mesh สามารถรองรับน้ำหนัก, ให้ความยืดหยุ่น หรือการสปริงตัวในทุกการเคลื่อนไหวของผู้นั่ง
องค์ประกอบของเก้าอี้สำนักงาน
1.พนักพิง
งพนักพิงของเก้าอี้สำนักงานนั้นหากเป็นเก้าอี้ ที่เน้นการผลิตเพื่อสุขภาพ และเพื่อลดการเกิดปัญหาปวดหลัง ปวดคอ จะสามารถแบ่งตามรูปแบบของตัวพนักพิงเก้าอี้ได้ย่อยๆ อีก 2 รูปแบบคือ
แบบ S Curve
โดยคำว่า S Curve นั้นมาจากส่วนประกอบด้านหลัง หรือพนักพิงของตัวเก้าอี้ ที่เน้นการเลียนแบบโครงสร้างกระดูกสันหลังของเรา ที่เป็นทรงตัว S โดยเทียบตั้งแต่ส่วนศีรษะที่เป็นส่วนปลายตัว S ด้านบน, ส่วนหลังที่เป็นช่วงกลางของตัว S ที่ต้องมีความโค้งเว้า และส่วนปลายของตัว S จะดูแลส่วนเอวและส่วนสะโพก
เก้าอี้เพื่อสุขภาพรูปแบบ S Curve นี้หากเราสังเกตมากกว่านั้นคือ พนักพิงด้านหลังตัวเก้าอี้นั้น จะเน้นวัสดุที่เป็นผ้าตาข่าย หรือ Mesh เป็นส่วนใหญ่ ด้วยคุณสมบัติที่มีความยืดหยุ่นที่ดี และการรองรับแผ่นหลังในเวลาที่เอนหลัง
ดังนั้นเราจะเห็นจากการใช้งานจริงว่า เราสามารถที่จะเอนหลังไปได้จนสุดตัว โดยที่โครงสร้างของเก้าอี้ร่วมด้วยกับการทำงานของ วัสดุผ้าตาข่ายนั้น จะช่วยรองรับน้ำหนัก และปรับโครงสร้างร่างกายไม่ให้เสีย ในทุกครั้งที่มีการเอนหลัง
อีกทั้งส่วนประกอบที่สำคัญ สำหรับเก้าอี้แบบ S Curve นอกจากจะมีวัสดุส่วนพนักพิงเป็นผ้าตาข่ายด้วยแล้ว ฐานเก้าอี้ก็จะมาพร้อมกับอุปกรณ์ล้อเลื่อน เพื่อช่วยในการเคลื่อนไหวในขณะที่เรานั่งบนเก้าอี้ สำหรับการหยิบจับ รวมถึงในเรื่องของการรองรับน้ำหนัก หรือสามารถรับน้ำหนักได้เกิน 100 กิโลกรัม ในขนาดเก้าอี้มาตรฐาน ที่บางครั้งเรามองดูว่า ไม่น่าจะรับน้ำหนักได้มากเท่าไหร่
แบบ Lumbar Support
แบบ Lumbar Support นั้นจะเน้นในส่วนของกระดูกสันหลังส่วนปลาย หรือส่วนที่ลงมาตั้งแต่เอวไปถึงส่วนสะโพก จะเป็นการเติมเต็ม และรองรับแผ่นหลัง ที่เป็นช่วงปลายของกระดูกสันหลัง หรือเชิงกราน, เอว, สะโพก และหมอนรองกระดูก ซึ่งเหมือนกับการเลือกเครื่องใช้อย่างเช่น Bean bag , โคมไฟอ่านหนังสือ , เก้าอี้พับนอน , โต๊ะทำงาน , เก้าอี้โยก , โต๊ะข้างเตียง , โซฟาเดี่ยวปรับนอน , โต๊ะกลางโซฟา , เก้าอี้ ergonomic , เก้าอี้เกมมิ่ง ควรที่จะมีการพิจารณาเลือกให้เหมาะสมทั้งกับสรีระของตัวเราเอง และช่วยแก้ปัญหาในขณะที่นั่งทำงานร่วมด้วย
2.เบาะรองนั่ง
มีทั้งแบบผ้าตาข่าย และหนังเทียมแบบ PU เป็นส่วนใหญ่ สามารถทำความสะอาดได้ง่าย และดูแลได้ง่ายมากกว่านั่นเอง ซึ่งวัสดุทั้งผ้าตาข่าย และเบาะหนังเทียมนั้น มีทั้งนำมาทำเป็นส่วนประกอบของเบาะรองนั่ง และพนักพิงร่วมด้วย
โดยความหนาของเบาะรองนั่งประมาณ 5 – 7 เซนติเมตร จะช่วยให้เกิดการนั่งสบาย โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการบุฟองน้ำ และมีการหุ้มด้วยด้านนอกเป็นผ้าโพลีเอสเตอร์ หรือหนังเทียม ซึ่งหากเป็นผ้าก็จะมีการระบายความร้อน และความชื้นได้ดีกว่าวัสดุที่เป็นหนัง
หนัง PU (Ployurethane)
จุดเด่น คือ มีความนุ่ม และทำความสะอาดได้ง่าย
ผ้าตาข่าย (Mesh Fabric)
เด่นในเรื่องของ การรองรับน้ำหนักได้มาก สำหรับทั่วๆ ไปเก้าอี้ออฟฟิศ มากกว่า 100 – 120 กิโลกรัม ซึ่งเนื้อผ้าที่ผ่านการทำเป็นผ้าตาข่ายนั้น มีหลากหลายเนื้อผ้าไม่ว่าจะเป็น ผ้าโพลีเอสเตอร์ ที่ได้รับความนิยมทั้งการนำมาตัดเย็บเป็นเสื้อผ้า หรือแม้กระทั่งการนำมาผลิตเป็นผ้าตาข่ายลักษณะนี้ รวมถึงผ้าสแปนเด็กซ์และผ้าไนล่อน เป็นต้น โดยเน้นในเรื่องของประโยชน์ใช้งานได้จริง สำหรับเรื่องความยืดหยุ่น และการรองรับน้ำหนัก
3.ฐานเก้าอี้
มีส่วนสำคัญ ในเรื่องความมั่นคงในการนั่ง และเลื่อนเก้าอี้ โดยมีทั้งรุ่นมีล้อ และไม่มีล้อ ซึ่งหากเป็นรุ่นมีล้อ วัสดุที่นำมาผลิตเป็นล้อนั้น มีตัวเลือกที่นิยมกันคือ ไฟเบอร์, ไนลอน และพลาสติก PU เป็นต้น ซึ่งหากเป็นรูปแบบที่มีล้อ จะมีจำนวนมาตรฐานที่ 5 ล้อโดยจัดความห่างของตัวล้อเลื่อน ให้สมดุลรอบตัวเก้าอี้ และขาแยกที่เชื่อมกับตัวลูกล้อ
4.ที่วางแขน
5.ที่พักคอ
การพิจารณาเลือกซื้อเก้าอี้สำนักงาน
1.วัสดุ
วัสดุหลักที่เราอาจจะต้องเน้น และใส่ใจในการพิจารณาเลือกอันดับแรกคือ วัสดุที่เป็นพนักพิง และเบาะ ที่มีทั้งหนัง PU และผ้าตาข่าย รวมถึงกำหนดการเลือกใช้ว่า ทั้งพนักพิง และเบาะรองนั่งนั้น เราจะเลือกใช้วัสดุที่เหมือน หรือแตกต่างกัน อย่างเช่น พนักพิงที่เป็นตาข่าย เน้นความยืดหยุ่นในเวลาเอนหลังได้ดี กับเบาะรองนั่งที่เป็นหนังPU เน้นเรื่องความนุ่ม และแน่นในเวลานั่ง เป็นต้น
2.รูปแบบ
เช่น ในรูปแบบของเก้าอี้แบบผู้บริหาร จะมีทรงโครงสร้างของเก้าอี้ ที่รองรับสัดส่วน และโครงสร้างของร่างกายตั้งแต่ศีรษะ จนถึงส่วนสะโพก และเชิงกราน หรือในรูปแบบของเก้าอี้นั่งทำงาน Task Chair ที่มีความกะทัดรัดมากกว่า
Task Chair อาจจะไม่มีที่วางแขน และฐานด้านล่างไม่มีล้อเลื่อน เพื่อเป็นการประหยัดพื้นที่ไปในตัว ซึ่งบางสำนักงานเลือกเก้าอี้ประเภทนี้ ไว้รองรับในจุดที่จะมีการนั่งเขียน หรือกรอกข้อมูลเอกสารเพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น
3.รองรับโครงสร้างร่างกาย
จะเป็นแบบ S Curve ที่เน้นในการดูแลส่วนหลัง หรือแผ่นหลังในเวลานั่งทำงาน หรือ เก้าอี้ในแบบ Ergonomic เป็นต้น
4.เหมาะสมกับโต๊ะทำงาน
ความสูงของเก้าอี้ และโต๊ะทำงานเราอาจจะต้องให้อยู่ในระยะห่างประมาณ 30 เซนติเมตร เพื่อให้เวลานั่งทำงานหลังไม่โก่ง หรือค่อมเกินไป หรือโต๊ะทำงานที่สูงจนเกิดความเมื่อยล้าได้ง่าย
5.ฟังค์ชั่นเสริม
แบบมีล้อเลื่อน
หากเราเลือกในส่วนประกอบเสริม ที่ช่วยให้การใช้งานเก้าอี้ออฟฟิศ มีความสะดวกสบายมากขึ้นนั้น ในส่วนของล้อเลื่อน ก็จะมีส่วนที่เราควรจะพิจารณาในรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็น พลาสติก, ไฟเบอร์ หรือไนลอน
ปรับความสูงได้
ในส่วนของความสูงของเก้าอี้ ซึ่งสามารถปรับความสูงได้หลากหลาย ตามการใช้งานเมื่อเทียบกับโต๊ะทำงาน ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานเก้าอี้ ร่วมกับโต๊ะตัวอื่นๆ ได้อีก ซึ่งมีทั้งตัวที่ปรับขึ้นลงแบบเป็นเกลียว และเป็นด้ามกดใต้เบาะเก้าอี้
เทคนิคการเลือกเก้าอี้สำนักงาน
สรุป
การมีเก้าอี้สำนักงานดีๆที่เหมาะกับตัวเรา จะสามารถช่วยให้เรานั่งทำงานได้อย่างยาวนาน ไม่ปวดหลัง ไม่เป็นโรคออฟฟิศซินโดรม และการที่จะเลือกให้เก้าอี้ที่เหมาะกับตัวเรา เราต้องพิจารณาจากสรีระร่างกาย น้ำหนักตัว หรือแม้กระทั่งโต๊ะทำงานร่วมกันด้วย
ควบคุมและดูแลการผลิตคอนเท้นส์ ชื่นชอบที่จะนำเสนอคอนเท้นส์ที่ดีๆ มีประโยชน์ให้กับท่านผู้อ่าน
แบรนด์ Deli
-ล้อมีความแข็งแรง หมุนได้ 360 องศา
-เบาะนั่งเป็นฟองน้ำ ระบายอากาศได้ดี
-พนักพิงตาข่าย มีความยืดหยุ่น
แบรนด์ FULI
-สามารถรองรับน้ำหนักได้สูงสุดถึง 200 kg.
-ตาข่ายคุณภาพสูง เก้าอี้สามารถหมุนได้ 360 องศา
-ปรับระดับความสูงได้และที่วางขาสามารถพับเก็บได้
แบรนด์ Bewell
-สามารถปรับเอนได้ 135 องศา เบาะนั่งกว้าง 56 ซม.
-ระบายความชื่นได้ดี น้ำหนักเบา มีความแข็งแรง
แบรนด์ U-RO DECOR
-สามารถปรับระดับความสูง ต่ำ ได้
-เบาะกว้าง นั่งสบาย ไม่เก็บกลิ่น ไม่อับชื้น
-ล้อแข็งแรง ไม่หักง่าย สามารถรองรับน้ำหนักได้ดี
แบรนด์ Woodpanda
-รูปทรงสวย นั่งสบาย ที่วางแขนสามารถพับเก็บได้
-สามารถเอนหลังได้ 90 องศา พนักหลังเป็นตาข่าย
แบรนด์ Modernform
-สามารถหมุดได้ 360 องศา น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย
-ตาข่ายไมโครนิต ไม่เก็บความชื้น ระบายกลิ่นอับได้ดี
แบรนด์ Ergotrend
-สามารถปรับระดับความสูง-ต่ำและปรับระดับที่พักแขนได้
-ล้อผลิตจาก PU ไม่ทำลายพื้นผิวทำให้เกิดรอย
แบรนด์ FURRADEC
-เก้าอี้หมุนได้รอบตัว ไม่อับชื้น ระบายอากาศได้ดี
-สามารถปรับระดับสูง – ต่ำ ได้ 95 – 105 ซม.
แบรนด์ Furinbox
-สามารถปรับระดับความสูงได้ถึง 100 มม.
-เบาะหุ้มฟองน้ำคุณภาพดี รูปทรงสวย
-มีที่พักหัว ทำให้รู้สึกสบายมากขึ้น
แบรนด์ MONO
-ล้อหมุนได้ 360 องศา ระบายอากาศได้ดี ไม่อับชื้น
-ดีไซน์สวยหรูหรา ออกแบบมาเพื่อรองรับสรีระศาสตร์