ชั้นวางทีวี คืออะไร
ชั้นวางทีวี จัดเป็นเฟอร์นิเจอร์ประเภทหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการวางทีวี รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆ ที่ต้องใช้ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น หนังสือ , ลำโพงบลูทูธ , กรอบรูป , กระถางต้นไม้ , เทียนหอม , แก้วเยติ , แก้วหัดดื่ม , เหยือกกรองน้ำ , พาวเวอร์แบงค์ เป็นต้น
โดยส่วนใหญ่จะมีขนาดและดีไซน์ที่แตกต่างกัน เพื่อให้ผู้ใช้มีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น และด้วยความที่ทีวีแต่ละรุ่นนั้นมีขนาดและดีไซน์ที่ไม่เหมือนกัน จึงทำให้การนำมาใช้งานจะต้องผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบ ทีวีที่ใช้มีขนาดและลักษณะแบบไหนก็ควรเลือกชั้นสำหรับวางทีวีให้เหมาะสมกับทีวีนั้น เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานและได้รับประโยชน์อันสูงสุด
เหล็กเป็นวัสดุในการนำมาทำชั้นทีวีที่มีความทนทานและรองรับน้ำหนักได้ดี แต่ก็อาจเคลื่อนย้ายได้ลำบากหน่อย ส่วนวัสดุชั้นทีวีอย่างอะคริลิกมักจะถูกใช้ในงานดีไซน์สวยๆ เพราะมีความโปร่งใสและยืดหยุ่น แต่ยังคงแข็งแรงอยู่
ในปัจจุบันเฟอร์นิเจอร์ประเภทนี้ไม่ได้ผลิตขึ้นเพื่อใช้วางทีวีเท่านั้น แต่ด้วยดีไซน์สวยๆ งามๆ ที่มีให้เลือกหลากหลายสไตล์ จึงมักจะถูกใช้ในการตกแต่งห้องด้วย โดยเฉพาะห้องที่มีพื้นที่จำกัด การนำชั้นมาตั้งทีวีไว้ก็อาจจะกินพื้นที่ไปมากพอสมควร
ด้วยเหตุผลนี้ผู้ผลิตจึงต้องออกแบบให้ชั้นทีวีมีหลายขนาดและหลายรูปแบบ เพื่อให้ผู้ใช้งานทุกคนเลือกใช้ตามความเหมาะสม นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ดีไซน์ออกมาให้สามารถวางอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ขนาดและดีไซน์ของชั้นทีวีแต่ละแบบก็จะมีความโดดเด่นไม่เหมือนกันด้วย เพราะฉะนั้นการจะเลือกซื้อชั้นทีวีมาใช้งานนั้น ผู้ใช้จึงจำเป็นต้องคำนึงถึงองค์ประกอบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวทีวีเอง รวมไปถึงพื้นที่ภายในบ้านด้วย
ชั้นวางทีวีมีกี่ประเภท
1. ชั้นทีวีทรงเตี้ย
ในปัจจุบันชั้นทีวีทรงเตี้ยจะมีขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 120 เซนติเมตร ไปจนถึง 240 เซนติเมตร ซึ่งไม่มีขนาดที่มากไปกว่านี้แล้ว เพราะโดยปกติแผ่นไม้จะมีความกว้างสูงสุดอยู่ที่ 120 เซนติเมตร และยาวสูงสุด 244 เซนติเมตร เมื่อนำมาตัดทำเฟอร์นิเจอร์ ขนาดยาวสูงสุดก็จะได้แค่ 240 เซนติเมตร ส่วนวัสดุอื่นๆ นั้นก็จะถูกออกแบบมาให้มีลักษณะเป็นทรงเตี้ยเช่นกัน
2. ชั้นทีวีแบบติดผนัง
ชั้นทีวีแบบติดผนังมักจะถูกออกแบบมาให้มีขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ ซึ่งจะเน้นให้ทีวีนั้นดูมีความกว้างและสูงอยู่พอสมควร เนื่องจากการติดตั้งทีวีแบบติดผนังนั้นจะต้องดูโปร่งและสบายตา จึงได้ทำชั้นวางออกมาให้เหมาะกับลักษณะการใช้งาน จัดเป็นชั้นสำหรับใช้วางทีวีประเภทหนึ่งที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่ในห้องค่อนข้างกว้าง ทั้งยังใช้วางสิ่งของต่างๆ ได้อีกด้วย แต่ควรเลือกวัสดุที่มีความแข็งแรงและทนทาน
3. ชั้นทีวีแบบเข้ามุม
ชั้นวางทีวีแบบเข้ามุมเป็นชั้นวางที่เหมาะกับคนที่มีพื้นที่จำกัด เนื่องจากเป็นชั้นทีวีที่ถูกออกแบบมาให้มีขนาดค่อนข้างเล็ก ซึ่งมักจะดีไซน์ออกมาให้เป็นรูปทรงสามเหลี่ยม เพื่อให้เหมาะสมกับมุมห้องที่จะตั้งชั้นวางสำหรับวางทีวีเอาไว้ และช่วยเพิ่มระยะสายตาในการดูทีวีอย่างเหมาะสมมากขึ้น หากใครที่มีห้องหน้าแคบหรือเป็นพื้นที่จำกัดก็ควรเลือกชั้นทีวีประเภทนี้
4. ชั้นทีวีแบบเหล็ก
ชั้นทีวีแบบเหล็กจะมีโครงสร้างที่มีความแข็งแรงมากเป็นพิเศษ อย่างที่ทราบกันดีว่าเหล็กนั้นเป็นวัสดุที่มีความทนทาน และแข็งแรงมาก และมักจะมาพร้อมกับน้ำหนักที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นชั้นวางทีวีประเภทนี้จะเคลื่อนย้ายได้ค่อนข้างลำบาก แนะนำให้เลือกแบบมีล้อหมุนเพื่อให้สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายขึ้น
5. ชั้นทีวีแบบลอย
ชั้นทีวีแบบลอย เป็นชั้นสำหรับวางทีวีที่เน้นให้ตัวทีวีมีความโดดเด่นมากที่สุด โครงสร้างส่วนใหญ่มักจะใช้วัสดุอย่างไม้หรืออะคริลิกเป็นหลัก ออกแบบมาเพื่อให้วางทีวีอยู่ตรงกึ่งกลาง ซึ่งดูเหมือนทีวีลอยอยู่กลางอากาศ ในส่วนของช่องหรือชั้นวางของนั้นมักจะอยู่ในส่วนบนและส่วนล่าง
6. ชั้นวางทีวีไม้
ชั้นทีวีประเภทไม้ เป็นอีกหนึ่งประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยจะใช้ไม้เป็นวัสดุหลักในการผลิต ซึ่งแต่ละรุ่นก็จะถูกออกแบบให้มีลักษณะแตกต่างกันไป โดยส่วนใหญ่จะมีดีไซน์สวยๆ ตามแบบฉบับของวัสดุจากธรรมชาติ ด้วยความที่ไม้เป็นวัสดุหลัก จึงทำให้สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายกว่าวัสดุหนักๆ อย่างชั้นทีวีแบบเหล็ก
7. ชั้นทีวีอเนกประสงค์
ชั้นทีวีอเนกประสงค์ ถือว่าเป็นประเภทที่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น ภายในอุปกรณ์เดียว นอกจากจะใช้วางทีวีได้แล้ว ยังสามารถที่จะนำสิ่งของหรืออุปกรณ์อื่นๆ มาวางไว้ เพื่อความสะดวกในการใช้งาน ที่สำคัญช่วยประหยัดพื้นที่ภายในบ้านหรือห้อง และทำให้การจัดวางสิ่งของมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ดูน่ามองได้ดีอีกด้วย
8. ชั้นทีวีแบบเสริมกระจก
ชั้นทีวีแบบเสริมกระจก นอกจากจะเป็นอุปกรณ์ในการใช้วางทีวีได้แล้ว ยังถือว่าเป็นอีกหนึ่งเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้าน ที่จะช่วยให้บ้านมีความน่ามอง ดูดีมีสไตล์ทันสมัยมากขึ้นอีกด้วย แต่ข้อควรระวังในการเลือกซื้อชั้นทีวีแบบเสริมกระจกก็คือ หากเลือกที่ทำจากวัสดุหรือมีราคาที่ถูก อาจจะทำให้แตกได้ง่าย เพราะฉะนั้นก่อนเลือกซื้อควรเลือกที่มีความปลอดภัยสูง และกระจกมีความหนาเป็นพิเศษ
ข้อดีของชั้นวางทีวี
1. ทำให้บ้านหรือห้องเป็นระเบียบมากขึ้น
การเลือกซื้อชั้นทีวีมาตกแต่งบ้านหรือห้องนั้น หากเลือกซื้อที่มีขนาดพอดีกับห้อง พอดีกับหน้าจอทีวีหรือเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของห้องนั้น จะช่วยทำให้บ้านหรือห้องดูเป็นระเบียบมากขึ้น มองแล้วสบายตา เพราะสามารถที่จะนำสิ่งของหรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่ต้องการหยิบใช้วางไว้เป็นสัดส่วน หรือจะเลือกซื้อกระถางดอกไม้มาประดับตกแต่งให้สวยงามมากขึ้นก็ได้
2. ช่วยตกแต่งภายในห้องให้น่ามอง
หากเลือกซื้อชั้นวางทีวีที่เข้ากับสีหรือสไตล์การตกแต่งของห้อง ชั้นทีวีจะยิ่งเพิ่มความน่ามองให้กับห้องของเราได้อีกด้วย ไม่เพียงแค่ใช้วางทีวีได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ผู้ใช้ยังสามารถซื้ออุปกรณ์อื่นๆ มาตกแต่งหรือนำมาตั้งโชว์ไว้บนชั้นทีวีได้เช่นเดียวกัน ทำให้เพลิดเพลินกับการแต่งห้องให้สนุกมากขึ้น
3. ช่วยรักษาสุขภาพสายตาในการดูทีวี
หากเลือกชั้นทีวีให้มีขนาดที่พอดี และเลือกติดตั้งให้พอดีกับระดับสายตา จะทำให้ขณะดูทีวีช่วยรักษาสุขภาพของสายตาได้อีกด้วย รวมถึงหากนั่งหรือนอนดูทีวีนานๆ ทำให้ไม่เกิดอาการปวดเมื่อย หรือมีอาการอื่นๆ ที่เกิดจากการดูทีวีนานๆ ตามมา โดยเฉพาะสายตา
4. ใช้วางสิ่งของเพื่อโชว์แขก
อย่างที่บอกไปแล้วว่าชั้นทีวีนั้น ไม่ได้มีประโยชน์เพียงแค่ใช้สำหรับวางทีวีได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังสามารถที่จะใช้วางสิ่งของอื่นๆ เพื่อโชว์แขกหรือประดับบ้านให้สวยงามน่ามอง เช่น กรอบรูป , ใบประกาศ , เครื่องสำอาง , นาฬิกา เป็นต้น หรือจะเป็นของสะสมต่างๆ ที่ผู้ใช้ชื่นชอบได้
Tip: ถ้าคุณอยากดูทีวีแบบชิวๆ คุณลองซื้อ บีนแบ็ค มานั่งแล้วดูทีวีดูสิ คุณจะรู้สึกฟินสบายไม่อยากทำอะไรเลย !!!
วิธีเลือกซื้อชั้นวางทีวี
1. เลือกซื้อตามสไตล์การตกแต่งห้อง
- สไตล์โมเดิร์น แนะนำให้เลือกชั้นทีวีที่มีดีไซน์แบบเรียบง่ายแต่ดูโมเดิร์นหรือทันสมัย ปรับแต่งให้เข้ากับยุคสมัยในปัจจุบัน อาจเลือกชั้นวางที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานแบบประหยัดพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มลิ้นชัก หรือช่องต่างๆ ที่สามารถเก็บอุปกรณ์และสายไฟได้อย่างเป็นระเบียบ
- สไตล์ฮัสค์ เป็นอีกหนึ่งสไตล์การตกแต่งห้องที่มีความโมเดิร์นแต่เน้นความเรียบง่าย แต่ก็ยังคงมีความทันสมัยอยู่ในตัว แนะนำให้เลือกชั้นทีวีแบบไม้ที่มีการเคลือบด้วยเมลามีน ถึงแม้ว่าดีไซน์จะเน้นความเรียบง่ายแต่ลักษณะภายนอกก็ดูไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
- สไตล์ลอฟท์ เป็นอีกหนึ่งสไตล์การแต่งห้องที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ด้วยความเป็นลอฟท์ก็เน้นที่ตัววัสดุเป็นหลัก ซึ่งดูมีความดิบอยู่ในตัว สำหรับใครที่ต้องการจะแต่งห้องในสไตล์ลอฟท์แบบสวยๆ ดิบๆ ก็ต้องเน้นโทนสีดำ เทาและน้ำตาล อาจเลือกชั้นทีวีที่ใช้วัสดุเหล็กหรือไม้เป็นหลัก
- สไตล์มินิมอล สามารถเลือกใช้ชั้นทีวีแบบไม้ในการตกแต่งห้องได้ เพราะการตกแต่งห้องในสไตล์มินิมอลมักจะนิยมใช้วัสดุอย่างไม้เป็นหลัก เพราะมีสีที่ดูสบายตา มีความเรียบง่ายและเป็นธรรมชาติ หรือจะเลือกชั้นวางทีวีแบบอื่นก็ได้เช่นกัน แต่ควรเน้นโทนสีขาวและน้ำตาลเป็นหลัก
2. เลือกตามลักษณะและขนาดของห้อง
ชั้นวางทีวีถือว่าเป็นเฟอร์นิเจอร์ประเภทหนึ่ง เมื่อนำมาตั้งไว้ภายในบ้านก็เหมือนเป็นการตกแต่งไปในตัว จึงต้องเลือกซื้อให้เหมาะสมกับลักษณะและขนาดของห้อง ไม่ว่าจะมีราคาถูกหรือแพง หากเลือกไม่เหมาะกับขนาดของห้องก็อาจเปล่าประโยชน์ แนะนำให้พิจารณาจากห้องที่จะตั้งทีวีไว้เป็นหลัก โดยเลือกชั้นทีวีที่ห้องนั้นสามารถรองรับได้ และลักษณะของเฟอร์นิเจอร์ต้องสอดคล้องกันด้วย
3. เลือกตามขนาดจอทีวีที่ใช้งาน
เนื่องจากทีวีในปัจจุบันค่อนข้างมีขนาดใหญ่ โดยส่วนมากแล้วจะมีขนาด 50 – 55 นิ้ว ควรเลือกชั้นทีวีที่มีขนาด 120 เซนติเมตร เพราะสามารถรองรับขนาดของทีวีได้ ทั้งนี้ควรตรวจสอบ ที่แขวนทีวี , ขายึดทีวี ขาของทีวีด้วยว่าอยู่ในขอบ 120 เซนติเมตรหรือไม่ หากไม่มั่นใจก็ควรขอคำแนะนำจากผู้ขายโดยตรง
4. เลือกตามขนาดและความแข็งแรงของชั้น
นอกจากดีไซน์สวยๆ แล้ว ชั้นทีวีควรจะมีขนาดที่สามารถรองรับทีวีได้เป็นอย่างดี โดยต้องพิจารณาจากขนาดของทีวีก่อนจะเลือกซื้อชั้นวาง ผู้ใช้จำเป็นต้องทราบว่าทีวีของตนเองนั้นมีขนาดกว้างและยาวอยู่ในระดับใด นอกจากนี้ความแข็งแรงก็เป็นสิ่งที่สำคัญ หากเลือกชั้นวางที่มีความแข็งแรงมากพอก็จะสามารถรองรับน้ำหนักของทีวีและอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้
5. เลือกตามคุณสมบัติของชั้นวาง
คุณสมบัติของชั้นวางทีวีที่ดี นอกจากจะมีความแข็งแรงและคงทน ควรมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลายเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นช่องรองรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, AV, สายเคเบิล , ซาวด์บาร์ , เครื่องเล่นเกม และอื่นๆ หากเลือกคุณสมบัติที่ครอบคลุมการใช้งานก็จะช่วยอำนวยความสะดวกได้มากขึ้น
6. เลือกตามราคา
ไม่ว่าชั้นทีวีจะมีราคาถูกหรือราคาแพงมากแค่ไหนก็ตาม หากเลือกซื้อไม่เหมาะสม ชั้นทีวีนั้นก็อาจจะไม่ตอบโจทย์การนำมาใช้งานนัก อย่างไรก็ตามควรเลือกชั้นวางทีวีที่มีคุณสมบัติตามความต้องการ และต้องดูด้วยว่ามีความเหมาะสมที่จะนำมาใช้งานหรือไม่ แนะนำให้พิจารณาจากสิ่งที่กล่าวไปข้างต้น และไม่ว่าจะมีราคาถูกหรือแพงก็ต้องดูให้สมเหตุสมผลด้วย
7. การเคลื่อนย้าย
แน่นอนว่าชั้นทีวีนั้นเป็นเฟอร์นิเจอร์ประเภทหนึ่งที่สามารถตกแต่งห้องให้ดูสวยงามได้ แต่ในขณะเดียวกันหากปล่อยไว้นานโดยที่ไม่ทำความสะอาดก็จะดูสกปรกและเก่าลงได้เช่นกัน ในกรณีที่ต้องทำความสะอาดและมีความจำเป็นจะต้องเคลื่อนย้าย แน่นอนว่าชั้นทีวีที่มีน้ำหนักสูงก็จะเคลื่อนย้ายได้ยาก แนะนำให้เลือกซื้อชั้นวางที่มีน้ำหนักเบา หรือถ้าจะให้ดีก็ควรเลือกแบบที่มีล้อหมุน
วิธีทำความสะอาดชั้นวางทีวี
1. หมั่นทำความสะอาดสิ่งของที่ตั้งไว้บนชั้นทีวี
ก่อนจะทำความสะอาดชั้นทีวี ควรทำความสะอาดอุปกรณ์หรือสิ่งของที่ตั้งไว้บนชั้นวางก่อนเป็นอันดับแรก เพราะสิ่งของเหล่านี้มักจะมีฝุ่นหรือสิ่งสกปรกเกาะอยู่ ดังนั้นควรหมั่นทำความสะอาดโดยการนำเอาสิ่งของที่ตั้งไว้บนชั้นวางมาเช็ดให้สะอาดอยู่เป็นประจำ
2. ปัดฝุ่นชั้นทีวีอยู่เป็นประจำ
หลังจากนำอุปกรณ์และสิ่งของต่างๆ ออกจากชั้นทีวีแล้ว ควรเริ่มทำความสะอาดชั้นทีวีโดยการปัดฝุ่น แนะนำให้ปัดฝุ่นทุกซอกทุกมุม รวมถึงบริเวณด้านหลังชั้นทีวีด้วย เพราะถ้าหากปล่อยไว้นานๆ อาจจะมีฝุ่นและหยากไย่แมงมุมเกาะอยู่ได้ ดังนั้นควรปัดฝุ่นทุกส่วนของชั้นทีวีให้สะอาดอยู่เสมอ
3. ใช้ผ้าเช็ดฝุ่นบนชั้นทีวี
ในกรณีที่ไม้ปัดขนไก่ไม่สามารถปัดฝุ่นออกได้ทั้งหมด แนะนำให้ใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดให้ทั่วทุกส่วนของชั้นวางทีวี เพื่อขจัดฝุ่นหรือสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่ตามชั้นวางออกไปให้หมด อาจใช้แทนไม้ปัดขนไก่ หรือจะใช้ไม้ปัดขนไก่ก่อนแล้วค่อยใช้ผ้าเช็ดทีหลังก็ได้เช่นกัน
4. ใช้น้ำยาเช็ดเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะกับวัสดุของชั้นทีวี
หลังจากปัดฝุ่นออกแล้วก็ควรทำความสะอาดด้วยน้ำยาเช็ดเฟอร์นิเจอร์ โดยเฉพาะชั้นทีวีที่เป็นวัสดุไม้ ควรจะเช็ดทำความสะอาดอยู่เป็นประจำ และไม่ควรปล่อยให้มีความชื้นหลงเหลืออยู่ เพราะจะทำให้เกิดเชื้อราจนชั้นทีวีเสียหายได้ แนะนำให้เลือกใช้น้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะกับเฟอร์นิเจอร์นั้นๆ โดยเฉพาะ
ชั้นวางทีวีไซส์ไหน ที่ใช่กับทีวีบ้านคุณ
สรุป
เป็นอย่างไรกันบ้างคราวนี้หลายคนคงจะได้ทราบกันแล้วว่าการเลือกชั้นวางทีวีนั้นมีความสำคัญมากแค่ไหน และมีหลักการในการเลือกซื้ออย่างไร หากคุณเป็นผู้ที่กำลังมองหาหรือตัดสินใจจะซื้อชั้นทีวีมาใช้งานก็ควรเลือกให้เหมาะสมกับทีวีของตนเอง
นอกจากดีไซน์สวยๆ ราคาถูกหรือแพงแบบสมเหตุสมผลแล้ว ก็ควรคำนึงถึงพื้นที่ที่จะใช้ตั้งชั้นทีวีด้วยว่าสามารถรองรับได้มากน้อยเพียงใด ถ้าหากเลือกชั้นทีวีได้อย่างเหมาะสมก็จะตอบโจทย์ในการใช้งานอย่างแน่นอน
ควบคุมและดูแลการผลิตคอนเท้นส์ ชื่นชอบที่จะนำเสนอคอนเท้นส์ที่ดีๆ มีประโยชน์ให้กับท่านผู้อ่าน
ชั้นวางทีวี RINA HEY
-มีช่องเก็บของและสามารถรองรับทีวีสูงสุดขนาด 65 นิ้ว
-ขนาด กว้าง 150 ซม. x ลึก 40 ซม. x สูง 15 ซม.
-รองรับน้ำหนักแบบกระจายได้ถึง 20 kg.
ชั้นวางทีวี SB Design Square รุ่น Aleece
-ประตูบานเปิด 3 บาน ลิ้นชัก 3 ชั้น
-ดีไซน์ทันสมัย สไตล์สแกนดิเนเวียน
-แข็งแรงและรองรับน้ำหนักได้ดี
ชั้นวางทีวี Dsupreme รุ่น GF523
-ขนาด กว้าง 150 ซม. x ลึก 38 ซม. x สูง 42 ซม.
-เก็บของได้เยอะและสามารถดูแลรักษาง่าย
ชั้นวางทีวี ECF FURNITURE
-ดีไซน์สวยงามและสามารถเก็บของได้เยอะ
-วัสดุผลิตจากไม้ คุณภาพดี เกรดพรีเมี่ยม
-รอรับน้ำหนักแบบกระจายได้ถึง 15 kg.
-สามารถรองรับทีวีสูงสุดขนาด 43 นิ้ว
ชั้นวางทีวี Koncept furniture รุ่น Benesia
-สไตล์โมเดิร์น แข็งแรง ดูแลรักษาง่าย
-น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายได้สะดวก
ชั้นวางทีวี JYSK
-น้ำหนักสินค้า 39 กิโลกรัม ประกอบง่ายไม่ยาก
-ขนาด กว้าง 160 ซม. x ลึก 43 ซม. x สูง 54 ซม.
ชั้นวางทีวี Baierdi Mall
-ดีไซนืสวยงาม สไตล์นอร์ดิก
-น้ำหนักสินค้า 16.35 กิโลกรัม
-วัสดุแข็งแรง ทนทาน หนาพิเศษ
-สามารถขยายชั้นวางทีวีได้ยาวสุดถึง 178 ซม.
ชั้นวางทีวี Livinghome Furniture รุ่น Hanna
-มีช่องเก็บของ 4 ช่อง รองรับน้ำหนักได้เยอะ
-บานพับ Soft close ลดแรงกระแทกเปิด-ปิด
-ขนาด กว้าง 160 ซม. x ลึก 41.50 ซม. x สูง 70 ซม.
ชั้นวางทีวี INDEX LIVING MALL รุ่นมัช+ชั้นวาง ฮัทช์
-รองรับน้ำหนักแบบกระจายได้ถึง 40 kg.
-วัสดุโครงสร้างแข็งแรง ทนทานต่อการใช้งาน
-เหมาะสำหรับวางทีวีขนาด 32 นิ้ว ถึง ขนาด 43 นิ้ว
ชั้นวางทีวี Best Fur
-ขนาด กว้าง 140 ซม. x ลึก 30 ซม. x สูง 40 ซม.
-รองรับน้ำหนักได้ดี มีลิ้นชัก 3 ช่อง เก็บของได้เยอะ