ซึ่งคราบที่เกิดในห้องน้ำ ส่วนใหญ่จะเป็นคราบของสบู่ คราบผงซักฟอก คราบเชื้อราที่เติบโตบนรอยคราบของคราบ สบู่ล้างหน้า , โคลนพอกหน้า , สบู่เหลวล้างมือ ซึ่งหากมีแต่การใช้น้ำก็มักจะเป็นคราบของเชื้อรา และคราบตะกรันเกาะตามพื้นหรือผนัง ซึ่งเกิดจากคราบน้ำเป็นส่วนใหญ่
อุปกรณ์ล้างห้องน้ำมีอะไรบ้าง
1.ที่ปั๊มส้วม
ท่อระบายน้ำในห้องเกิดการอุดตันได้เสมอ เนื่องจากคราบสกปรกในห้องน้ำ เช่นคราบที่เกิดจากการอาบน้ำ คราบสบู่ การสระผม เส้นผม ที่เป็นสาเหตุทำให้ท่อระบายน้ำอุดตัน น้ำไม่ไหลลงท่อระบายน้ำ เกิดน้ำขังในห้องน้ำ สามารถใช้ที่ปั๊มส้วมในการปั๊ม และดูดสิ่งอุดตันให้ท่อโล่งได้ เพียงแค่ใช้แรงแขนในการปั๊มขึ้นปั๊มลงเพื่อกำจัดสิ่งอุดตัน สามารถขจัดปัญหาท่ออุดตันจากท่อน้ำทิ้ง อ่างล้างหน้า โถส้วมได้
2.แปรงขัดพื้นด้ามยาว
แปรงขัดพื้นจำเป็นอย่างยิ่งในการทำความสะอาดห้องน้ำ เพราะจะช่วยให้คุณเบาแรงในการขัดพื้น ไม่ต้องก้ม ๆ เงย ๆ ไปถูพื้น ด้วยขนแปรงที่มีลักษณะพิเศษ ทำให้การขัดภื้นสะอาดได้อย่างรวดเร็ว ช่วยประหยัดแรงและเวลาในการขัดพื้นได้ดี
3.แปรงขัดสุขภัณฑ์
ทุกบ้านส่วนใหญ่จะต้องมีแปรงขัดสุขภัณฑ์กัน เพื่อขจัดคราบสกปรก เชื้อรา และสิ่งสกปรกที่ไม่พึงประสงค์ เปรอะเปื้อนบริเวณสุขภัณฑ์ของเรา แปรงขัดสุขภัณฑ์จึงมีความจำเป็นมาก เป็นไอเท็มขาดไม่ได้เลย
4.ผ้าเช็ดอเนกประสงค์
ขึ้นชื่อว่าเป็นผ้าอเนกประสงค์ ก็คือสามารถเช็ดถูทำความสะอาดได้ทุกจุด ไม่ว่าจะเช็ดอ่างล้างหน้า เช็ดเคาน์เตอร์ เช็ดกระจก ก็สามารถทำได้อย่างอเนกประสงค์
5.น้ำยาล้างห้องน้ำ
น้ำยาทำความสะอาดที่ประกอบไปด้วย กรด สารลดแรงตึงผิว สำหรับทำความสะอาด และขจัดคราบฝังแน่น คราบเหลือง คราบหนัก คราบหินปูน และสิ่งสกปรกในห้องน้ำ
6.ถุงมือยาง
การล้างห้องน้ำจะต้องเจอกับสารเคมีของน้ำยาล้างห้องน้ำ ดังนั้นเวลาจะล้างห้องน้ำ ต้องสวมใส่ถุงมือยางทุกครั้งเพื่อป้องกันสารเคมีกัดมือ ยิ่งบางคนผิวบอบบาง ผิวแพ้ง่าย ก็อาจทำให้ปวดแสบปวดร้อนได้
น้ำยาล้างห้องน้ำ คืออะไร
น้ำยาทำความสะอาดที่ประกอบไปด้วย กรด สารลดแรงตึงผิว สำหรับทำความสะอาด และขจัดคราบสิ่งสกปรกบนในห้องน้ำ เนื่องจากพื้นห้องน้ำส่วนใหญ่ก่อสร้างขึ้นจากปูนซีเมนต์ และมักปูพื้นด้วยกระเบื้อง กระเบื้องยาง ซึ่งวัสดุเหล่านี้ หากสัมผัสกับน้ำเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดคราบสกปรกเกิดขึ้น ซึ่งถ้าปล่อยทิ้งไว้ไม่ทำความสะอาดเป็นเวลานาน จะทำความสะอาดยากมาก
น้ำยาล้างห้องน้ำมีกี่ชนิด
มีทั้งชนิดเข้มข้น และเจือจาง มีคุณสมบัติการใช้งานที่เกิดประโยชน์ ซึ่งข้อที่ต้องระวังคือ แม้จะเป็นน้ำยาล้างห้องน้ำเหมือนกัน แต่หากเป็นคนละชนิดกัน ไม่ควรนำมาผสมหรือใช้งานร่วมกัน เพราะจะเกิดผลเสียทำให้เกิดพิษได้
1.น้ำยาล้างห้องน้ำชนิดเข้มข้น
เป็นชนิดที่มีกรดไฮโดรคลอริกในปริมาณ 15-22% ซึ่งก่อนใช้งานให้ผสมน้ำในอัตรา 1 ต่อ 1ก่อนแล้วค่อยเทราดทำความสะอาดลงบนพื้น ชักโครก หรือ อุปกรณ์ต่าง ๆ แล้วปล่อยให้กัดกร่อนทำความสะอาด ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วค่อยทำความสะอาด และล้างออกด้วยน้ำสะอาด
2.น้ำยาล้างห้องน้ำชนิดเจือจาง
เป็นชนิดที่มีกรดไฮโดรคลอริกในปริมาณน้อยกว่า 15% ซึ่งก่อนใช้งานให้ผสมน้ำในอัตรา 1 ต่อ 0.5 แล้วค่อยเทราดทำความสะอาดลงบนพื้นผิว ชักโครก Cotto ปล่อยให้น้ำยาล้างห้องน้ำกัดกร่อน ทำความสะอาด ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วค่อยทำความสะอาด ขัดถูด้วยแปรง แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
น้ำยาล้างห้องน้ำมีสารอะไรบ้าง
ส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยสารเคมีที่มีส่วนผสมของกรดสารทำความสะอาด สารเคมีอีกหลายอย่าง แต่เมื่อดูที่ข้างฉลากผลิตภัณฑ์จะพบส่วนประกอบของสารเคมีดังนี้
1.โซเดียมลอริลอีเธอร์ซัลเฟต Sodium Lauryl Ether Sulphate
เป็นสารลดแรงตึงผิวที่พบได้ในยาสระผม ยาสีฟัน ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดต่าง ๆ รวมถึง น้ำยาล้างห้องน้ำ ที่เป็นสารเคมีมีปฏิกิริยาเร่งให้เกิดฟอง ทำให้พื้นลื่น และลดแรงตึงของผิว ส่งผลให้คราบสกปรกที่เกาะอยู่บนพื้นผิวหลุดออกได้ง่าย
2.โซเดียมไฮโปคลอไรด์ Sodium Hypochlorite
หรือคลอรีนน้ำ เป็นสารออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรค กำจัดเชื้อรา และแบคทีเรียชนิดต่าง ๆ พบในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เช่น น้ำยาฟอกขาว น้ำยาล้างห้องน้ำ โซเดียมไฮโปคลอไรด์มีกลิ่นค่อนข้างรุนแรง และมีฤทธิ์กัดกร่อนฆ่าเชื้อโรคได้ในตัว
3.กรดไฮโดรคลอริก Hydrochloric Acid
กรดที่ออกฤทธิ์ ทำปฏิกิริยากัดกร่อนโลหะ ขจัดคราบฝังแน่น คราบเหลือง คราบหนัก คราบหินปูน คราบสบู่ คราบเชื้อรา คราบรอยเปื้อน บนยาแนวกระเบื้องให้หลุดร่อนออกมา โดยกรดไฮโดรคลอริกมีการกัดกร่อนที่รุนแรง ทำให้ขจัดคราบสกปรกฝังแน่นได้รวดเร็ว
กรดไฮโดรคลอริก มีคุณสมบัติอย่างไร
ในน้ำยาล้างห้องน้ำทุกชนิดมีส่วนประกอบหลักที่สำคัญคือ กรดไฮโดรคลอริก Hydrochloric Acid
1.มีฤทธิ์กัดกร่อนโลหะ
2.หากเปิดทิ้งไว้ขณะการใช้งาน จะเกิดไอระเหยของก๊าซไฮโดรเจนคลอไรด์
3.ทำปฏิกิริยากับโลหะ หรือ สารเคมีอื่น เกิดก๊าซไฮโดรเจนคลอไรด์ที่มีฤทธิ์ระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ
ประโยชน์ของการทำความสะอาดห้องน้ำ
1.ได้กำจัดแหล่งสะสมเชื้อโรค
การทำความสะอาดห้องน้ำ รวมถึงแผ่นกันลื่น จะช่วยกำจัดแหล่งสะสมเชื้อโรค ขจัดคราบฝังแน่น คราบเหลือง คราบหนัก คราบหินปูน คราบแบคทีเรีย เชื้อรา ฝุ่นละออง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมาได้
2.ได้ออกกำลังกาย
การล้างห้องน้ำเป็นอีกวิธีของการออกกำลังกายอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะถูบ้าน กวาดบ้าน ปัดกวาดเช็ดถู ล้างโถชักโครก รดน้ำต้นไม้ ปลูกต้นไม้ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ทำให้เราได้ออกกำลังกายไปในตัว นอกจากทำให้บ้านเรือนสะอาดแล้ว ยังทำให้บ้านน่าอยู่ขึ้นมาได้อีก
3.เป็นการคลายความเครียด
การทำความสะอาด ดูแลความเรียบร้อยในบ้าน เป็นอีกวิธีที่ช่วยคลายเครียดให้กับเราได้ ได้ออกแรง ได้ออกเหงื่อ ก็ได้ระบายความเครียดไปในตัว นอกจากนี้ยังทำให้บ้านสะอาดได้อีกด้วย
วิธีใช้น้ำยาล้างห้องน้ำ
ก่อนใช้น้ำยาล้างห้องน้ำ ควรที่จะอ่านฉลากข้างผลิตภัณฑ์ก่อนใช้เสมอ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุและอาการผิดปกติจากการใช้ได้
- อ่านวิธีใช้และปฏิบัติตามทุกอย่าง เนื่องจากผลิตภัณฑ์แต่ละยี่ห้อใช้สารเคมีความเข้มข้นที่ต่างกัน รวมถึงวิธีปฐมพยาบาลที่แตกต่างกัน ดังนั้นสิ่งสำคัญคืออ่านและปฏิบัติตามฉลากผลิตภัณฑ์ จะช่วยให้คุณใช้ได้อย่างถูกวิธี
- สวมอุปกรณ์ป้องกันกับสารเคมีเสมอ เช่น ถุงมือยาง รองเท้าบูทกันน้ำ แว่นตา หน้ากากอนามัยหรือแมส
- เปิดประตู หน้าต่าง เปิด เครื่องฟอกอากาศ หรือ พัดลมดูดอากาศ ทุกครั้งระหว่างและหลังล้างห้องน้ำเพื่อให้อากาศถ่ายเท ลดการสูดดมสารเคมีที่อาจทำให้เวียนหัวหรือหมดสติได้
- ห้ามผสมน้ำยาล้างห้องน้ำกับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดชนิดอื่น โดยเฉพาะสารฟอกขาว เพราะอาจทำให้เกิดแก๊สพิษได้
- ทำความสะอาดอุปกรณ์ป้องกันและอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังจากสัมผัสสารเคมีทุกครั้ง
- เมื่อใช้เสร็จแล้ว ให้ปิดบรรจุภัณฑ์ให้สนิททุกครั้ง และเก็บในที่เหมาะสม ห่งาจากแสง ความร้อน เก็บให้พ้นจากเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไฮเตอร์ต่างกันยังไงกับน้ำยาล้างห้องน้ำ
น้ำยาล้างห้องน้ำ คือ น้ำยาที่มีส่วนผสมของสารเคมีกรดไฮโดรคลอริกในปริมาณ 15-22% ซึ่งก่อนใช้งานให้ผสมน้ำในอัตรา 1 ต่อ 1ก่อนแล้วค่อยเทราดทำความสะอาดลงบนพื้น ชักโครก หรือ อุปกรณ์ต่าง ๆ
ไฮเตอร์ คือ น้ำยาซักผ้าขาวที่ใช้กับเสื้อผ้าให้ขาวสะอาด ขจัดคราบฝังแน่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพียงแค่แช่ผ้าในน้ำที่ผสมไฮเตอร์ ผ้าขาวจะกลับมาสะอาดเหมือนใหม่
ไฮเตอร์คืออะไร
ไฮเตอร์ หรือน้ำยาซักผ้าขาวที่วางขายตามท้องตลาดมานาน โดยจะใช้ร่วมกับผงซักฟอก ซึ่งสรรพคุณของไฮเตอร์คือ ช่วยทำความสะอาดผ้าขาว ให้ขาวสะอาด ช่วยขจัดคราบฝังแน่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพียงแค่แช่ผ้าในน้ำที่ผสมไฮเตอร์ ผ้าขาวจะกลับมาสะอาดเหมือนใหม่ นอกจากนี้ยังช่วยลดปัญหากลิ่นอับในเสื้อผ้า โดยเฉพาะฤดูฝนเสื้อผ้ามักจะเกิดกลิ่นอับได้ง่าย การแช่ผ้าในไฮเตอร์สัก 15 นาทีแล้วนำไปซักตามปกติ จะช่วยลดกลิ่นอับในเสื้อผ้าหอมสดชื้นขึ้นได้รวมถึงช่วยฆ่าเชื้อโรคที่ฝังแน่นในเสื้อผ้าได้อีกด้วย
วิธีเลือกซื้อน้ำยาล้างห้องน้ำ
1.เลือกน้ำยาห้องน้ำให้ถูกประเภท
น้ำยาล้างห้องน้ำมีหลายประเภท ดังนั้นควรเลือกซื้อให้เหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อทำให้ห้องน้ำได้รับความสะอาดอย่างถูกวิธี
- น้ำยาล้างห้องน้ำชนิดเป็นกรด – พบเห็นได้ทั่วไปมีแบบฤทธิ์ที่เป็นกรด มีกลิ่นค่อนข้างชัดเจน เมื่อเทลงไปบนพื้นแล้ว จะมีลักษณะฟู สามารถขจัดคราบสิ่งสกปรกได้อย่างหมดจด ไม่ว่าจะคราบสบู่ แชมพูที่เกาะตามผนัง ซึ่งน้ำยาประเภทนี้สามารถทำความสะอาดได้สนิท
- น้ำยาล้างห้องน้ำที่เป็นเบส – มีลักษณะคล้ายแชมพู โดยจะให้กลิ่นที่หอม ไม่รุนแรงเท่าชนิดที่เป็นกรด ใช้ทำความสะอาดได้ทุกวัน มีฤทธิ์ที่กัดกรอ่นไม่ค่อยรุนแรง เหมาะสำหรับห้องน้ำที่ไม่มีคราบฝังแน่น
2.เลือกน้ำยาล้างห้องน้ำที่มีมาตรฐาน
ควรมีการรับรองมาตรฐาน เพื่อมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์มีความหลอดภัยต่อทั้งวัสดุภายในห้องน้ำ สุขภาพของผู้ใช้งาน แนะนำให้เลือกซื้อที่มีเครื่องหมาย อย. แบบ วอส. หรือเลขทะเบียนวัตถุอันตรายที่ทางสาธารณสุขรับรองว่ามีความปลอดภัย
ข้อควรระวังในการใช้น้ำยาล้างห้องน้ำ
1.ขณะใช้ควรเปิดประตูหรือหน้าต่างออกให้หมด ให้อากาศถ่ายเทกลิ่นและไอระเหยออกไป
2.ขณะใช้ควรสวมถุงมือยาง รองเท้าบูท แว่นตากันสารเคมี และสวมผ้าปิดจมูกด้วยทุกครั้ง
3.ให้ใช้ร่วมกับแปรงขัดพื้นทุกครั้ง จะช่วยกำจัดคราบสกปรกได้ง่ายขึ้น
4.ควรใช้แปรงทองเหลืองในการทำความสะอาดพื้นห้องน้ำ ไม่ควรใช้แปรงพลาสติกอาจทำให้ผุกร่อนง่าย
5.ก่อนใช้ควรผสมน้ำด้วย เพื่อลดความเข้มข้นของกรดไฮโดรคลอริก
6.อย่าให้สัมผัสกับเสื้อผ้า เพราะจะทำให้ผ้าเปื่อย และขาดได้ง่าย
7.ห้ามผสมน้ำยาล้างห้องน้ำ กับสารฟอกขาว
8.ให้เก็บในที่มิดชิด หลังการใช้ต้องปิดฝาให้สนิท
9.ให้เก็บในที่ร่ม ไม่ควรเก็บใกล้กับแหล่งความร้อนหรือโดนแสงแดด
10.ห้ามใช้บรรจุภัณฑ์ที่ใช้หมดแล้ว ไปบรรจุน้ำสำหรับการอุปโภคบริโภคเด็ดขาด
สัญลักษณ์ รหัสแสดงอันตรายของสารเคมีบนฉลากน้ำยาล้างห้องน้ำ
เนื่องจากการทำความสะอาดห้องน้ำมือไม้เราอาจต้องเจอกับสารเคมีอยู่บ้างไม่มากก็น้อย ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยในการเผลอมือไปโดนสารเคมี ควรต้องรู้จักและทำความเข้าใจกับสารเคมีเป็นความรู้ไว้บ้างเพื่อการใช้งานน้ำยาล้างห้องน้ำได้อย่างปลอดภัย
สัญลักษณ์แสดงเครื่องหมายอันตราย Safety Signs ซึ่งเป็นสัญลักษณะที่ทั่วทั้งโลกต่างใช้เป็นเครื่องมือสากลที่เข้าใจตรงกันคือ ระบบ NFPA (The National Fire Protection Association) ของสหรัฐอเมริกา
โดยระบบ NFPA จะแสดงสัญลักษณ์อันตรายเป็นรูปเพชร โดยใช้รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสวางตามแนวทะแยง ในกรอบสี่เหลี่ยมใหญ่ แบ่งออกเป็นสี่เหลี่ยมขนาดเท่ากัน 4 ช่อง แต่ละช่องกำกับไว้ด้วยสีที่ต่างกัน 4 สี
- ช่องสีแดง จะแสดงระดับอันตรายจากไฟ Flammability
- ช่องสีน้ำเงิน แสดงระดับอันตรายต่อสุขภาพ Health
- ช่องสีเหลือง แสดงความไวต่อปฏิกริยาของสารเคมี Reactivity
- ช่องสีขาว แสดงคุณสมบัติพิเศษของสารเคมี
- ใช้ตัวเลข 0-4 แสดงถึงระดับอันตรายจากน้อยไปหามาก
อันตรายจากการใช้น้ำยาล้างห้องน้ำ วิธีแก้ไขกรณีเกิดอุบัติเหตุ เข้าตา กัดมือ
เนื่องจากแต่ละยี่ห้อจะใช้สารเคมีแตกต่างกัน กลุ่มที่พบได้บ่อยเป็นกลุ่มแอมโมเนีย คลอรีน กรดไฮโดรคลอริก เพราะสารเคมีมีฤทธิ์กัดกร่อย ช่วยกำจัดคราบฝังลึกได้ดี ดังนั้นหากเผลอไปสัมผัสก็อาจเกิดความผิดปกติได้เช่น
1.อาการทางเดินหายใจ
น้ำยาล้างห้องน้ำมีสารเคมีที่สามารถระเหยปะปนในอากาศได้ ดังนั้นการสูดดมกลิ่น อาจส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ทั้งโพรงจมูก คอ ปอด ได้ หรือเกิดอาการแสบจมูก แสบคอ น้ำมูกไหล หรือกลิ่นอาจทำให้เวียนหัวได้ด้วย
2.อาการทางผิวหนัง
หากสัมผัสโดยตรงจะเกิดการระคายเคือง แห้งกร้าน คัน ผิวลอก เกิดผื่นแดง หากสัมผัสกับสารที่มีความเข้มข้นสูง อาจทำให้เกิดอการทางผิวหนังที่รุนแรงได้ เช่น แผลพุพอง เกิดตุ่มน้ำ แผลเป็น
ดังนั้น ก่อนล้างห้องน้ำควรสวมถุงมือยางที่ทนทานต่อสารเคมี หากสัมผัสกับน้ำยาล้างห้องน้ำ ควรรีบทำความสะอาดผิวด้วยน้ำสบู่ทันที ทาโลชันเพื่อป้องกันผิวแห้ง ไม่ควรถูผิวหนังเพราะจะทำให้ระคายเคืองยิ่งขึ้น
3.อาการทางเดินอาหาร
กรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่ดี กินน้ำยาล้างห้องน้ำเข้าไป ก็จะเกิดอาการแสบร้อนอย่างรุนแรงบริเวณริมฝีปาก ช่องปาก คอ ลำไส้ ปวดท้องอย่างรุนแรง คลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัว หายใจไม่ออก หมดสติ และเสียชีวิตได้
4.อาการบริเวณดวงตา
การล้างห้องน้ำให้ปลอดภัยกับบริเวณดวงตา แน่นอนคุณต้องสวมแว่นตาเพื่อกันไม่ให้น้ำยาล้างห้องน้ำกระเด็นเข้าสู่ดวงตา แต่สารเคมีสามารถระเหยปนเปื้อนในอากาศและลอยเข้าสู่ด่วงตาได้ ซึ่งในน้ำนั้นอาจมีทั้งเชื้อดรค สารเคมี ส่งผลให้เกิดอาการระคายเคือง แสบร้อน คันตา ตาแดง ผิวหนัง เปลือกตาอักเสบได้
ดังนั้น หากกระเด็นเข้าสู่ดวงตา ควรรีบล้างตาด้วยน้ำสะอาดต่อเนื่องกัน 5-10 นาที และหลีกเลี่ยงการขยี้ตา เพราะจะทำให้ดวงตาระคายเคืองและอักเสบมากขึ้น
วิธีทำความสะอาดห้องน้ำ
สรุป
เป็นอย่างไรกันบ้าง กับเรื่องราวของน้ำยาล้างห้องน้ำที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อย เวลาจะเลือกใช้ต้องเลือกให้ถูกประเภทกับการใช้งาน เลือกที่มีการรับรองมาตรฐาน และสิ่งสำคัญเวลาล้างห้องน้ำควรสวมถุงมือยาง รองเท้า แว่นตา แมสด้วยเพื่อความปลอดภัยไม่ให้สัมผัสกับสารเคมีที่เป็นสารพิษด้วยทุกครั้ง
ควบคุมและดูแลการผลิตคอนเท้นส์ ชื่นชอบที่จะนำเสนอคอนเท้นส์ที่ดีๆ มีประโยชน์ให้กับท่านผู้อ่าน
น้ำยาล้างห้องน้ำ Vim
-ช่วยขจัดคราบสกปรก คราบสบู่ แลคราบไคล
-น้ำหนักสุทธิของสินค้า 3.5 ลิตร
น้ำยาล้างห้องน้ำ Vixol
-สามารถขจัดคราบสิ่งสกปรกได้มากถึง 12 คราบ
-สามารถเลือกสินค้าได้ถึง 2 กลิ่น ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย 99.9 %
น้ำยาล้างห้องน้ำ Duck Pro
-เหมาะสำหรับพื้นผิวห้องน้ำหลายประเภท
-สามารถขจัดคราบหนักได้มากถึง 9 คราบ
น้ำยาล้างห้องน้ำ Pinto
-น้ำหนักสุทธิของสินค้า 600 มิลลิลิตร
-สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราได้
น้ำยาล้างห้องน้ำ 3M
-สูตรขจัดคราบหนัก กลิ่นวอเตอร์ลู
-ไม่มีสารก่อมะเร็ง และ ไม่ทำลายพื้นผิว
น้ำยาล้างห้องน้ำ Magiclean
-ขนาดกะทัดรัด รูปทรงจับถนัดมือ ใช้งานง่าย
-หัวฉีดระบบพิเศษ สามารถปรับระดับได้ถึง 3 แบบ
น้ำยาล้างห้องน้ำ Mr Muscle
-หัวฉีดระบบพิเศษ สามารถปรับระดับได้ถึง 2 แบบ
-สามารถใช้ได้กับพื้นผิวห้องน้ำ และเคาน์เตอร์ห้องน้ำ
น้ำยาล้างห้องน้ำ DAIWA
-เหมาะสำหรับทำความสะอาดพื้นห้องน้ำ
-สามารถขจัดคราบสกปรกออกได้ง่าย ไม่เปลืองแรง
น้ำยาล้างห้องน้ำ Harpic
-เหมาะสำหรับทำความสะอาดโถสุขภัณฑ์ให้สะอาด
-สามารถขจัดคราบติดแน่นได้หมดจด ใช้ง่าย ไม่ยุ่งยาก
น้ำยาล้างห้องน้ำ Biomate
-กลิ่นไม่ฉุน ไม่แสบจมูก ไม่กัดยาแนว
-ฟองเยอะ ขัดคราบง่าย ไม่เปลืองแรง