ขนมปังปี๊บ คือ
คือ ขนมในรูปแบบต่างๆ ที่ไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นขนมปังกรอบเท่านั้น สามารถเรียกกันได้ตั้งแต่ ขนมปังปี๊บ, ขนมปี๊บ หรือาขนมใส่ปี๊บ มีส่วนผสมพื้นฐานมาจากแป้งสาลี, แป้งชนิดอื่นๆ, ยีสต์, ผงฟู และรสชาติกลิ่นสีอื่นๆ ร่วมด้วย เพื่อให้เกิดรสชาติหอม, หวาน และเค็ม จะมีการนำมาใส่ไว้ในบรรจุภัณฑ์ที่เรียกกันว่า ปี๊บ
ส่วนใหญ่จะเน้นขนมที่มีเนื้อสัมผัสที่กรอบ มีรสชาติเค็มและหวาน และเป็นขนมที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่นิยมกินกันเล่นๆ ได้ตลอด โดยเฉพาะช่วงเทศกาลต่างๆ สามารถนำมาใช้ในการจับฉลากของขวัญได้ และนิยมซื้อให้เป็นของขวัญตามเทศกาลต่างๆ ขนมที่มีคนนิยมกินกัน อย่างเช่น เวเฟอร์สติ๊ก ที่มีทั้งรสชาติและรูปแบบเหมือนโอโจ้, ข้าวเกรียบตาข่าย, ขนม abc, แคร็กเกอร์, ขาไก่, ทองม้วน, ชีสเชคไส้สับปะรด หรือที่เรามักจะเรียกกันว่า ชีสเชคสับปะรดนั่นเอง
ประวัติที่มาของขนมปังปี๊บ
ขนมปี๊บ เป็นคำที่เรามักจะเรียกกันแบบสั้นๆ ง่ายๆ ในความหมายของขนมกรอบ ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ขนมปังกรอบ หรือแคร็กเกอร์เท่านั้น แต่เป็นขนมกินเล่นทุกรูปแบบ ที่มีความกรุบกรอบ และนิยมนำมาใส่ในปี๊บ ซึ่งในช่วงเริ่มแรกนั้นมีการรับเอาวัฒนธรรมขนมประเภทนี้ มาจากยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ผ่านทางทหารที่เข้ามาตั้งฐานทัพในประเทศไทย
ซึ่งหากเรามองกันตั้งแต่จุดเริ่มต้น ของการริเริ่มบรรจุภัณฑ์ปี๊บหรือรูปแบบกระป๋อง ที่มีวัสดุมากจากแบบเดียวกันคือ เป็นแผ่นเหล็กเคลือบดีบุก ที่ริเริ่มมาจากประเทศอังกฤษ ในปี คศ.1810 โดยนักประดิษฐ์ที่ชื่อ ปีเตอร์ ดูรัน ได้เริ่มต้นคิดค้นรูปแบบกระป๋อง ที่ทำมาจากวัสดุแรกเริ่มคือ เนื้อโลหะ โดยพัฒนาจากขวดแก้วในการเก็บถนอมอาหาร
รวมถึงการพัฒนาจากบรรจุภัณฑ์รูปแบบกระป๋อง มาเป็นกล่องใส่ขนมปังในลำดับต่อมา ที่มีลักษณะรูปทรงราบแนวนอน จากนั้นรูปทรงก็เปลี่ยนมาเรื่อยๆ จนถึงการออกแบบกล่องใส่ขนมปังกรอบในรูปแบบทรงสูง เนื้อวัสดุที่เป็นโลหะ หรือแผ่นเหล็กเคลือบดีบุก แต่มีการเคลือบสีภายนอก ให้เกิดความน่าดึงดูด และน่าสนใจมากขึ้น และยังเป็นการป้องกันสนิมที่จะขึ้นภายนอกกระป๋อง, ปี๊บ หรือกล่องขนมปังกรอบอีกด้วย
โดยที่ส่วนประกอบหลักของขนมปี๊บประเภทนี้ก็คือ แป้งสาลี และในไทยสมัยนั้นก็ยังไม่ได้เป็นที่นิยมในการนำมาใช้ทำขนม หรืออาหาร เพราะมีราคาค่อนข้างแพง วัตถุดิบที่เป็นแป้งสาลี จำเป็นต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ และในยุคสมัยของกรุงศรีอยุธยา ขนมปังกรอบในแบบชาวตะวันตกนี้ จะมีกินกันเฉพาะในส่วนของเจ้าขุนมูลนายเท่านั้น
จนถึงหลังจากจบสิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว มีสงครามเวียดนามเข้ามา และมีทหารต่างชาติเข้ามาในไทยอีกครั้ง จึงได้เริ่มมีการตั้งโรงงานผลิตแป้งสาลีขึ้นเป็นเรื่องเป็นราว และค่อยๆ เกิดร้านทำเบเกอรี่หรือขนมอบในรูปแบบทางตะวันตกขึ้นมา จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของขนมปังกรอบในรูปแบบต่างๆ นำมาใส่ในปี๊บที่กลายเป็นชื่อเรียกกันว่าขนมปังปี๊บ
ประเภทของบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ใส่ขนม
เราอาจจะแปลกใจว่า มาถึงในยุคปัจจุบันแล้ว ที่มีทั้งบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ใส่ทั้งรูปแบบขนมปังกรอบ หรือขนมปี๊บ ที่เป็นทั้งกล่องโลหะ และเป็นปี๊บ แต่ทำไมเรายังคงเรียกกันว่ากระป๋องกันอยู่ เพราะเป็นการเรียกอิงจุดเริ่มต้นของบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ใส่ขนมปังกรอบตั้งแต่แรกเริ่มนั่นเอง จนมาถึงวันนี้ที่กลายมาเป็นขนมปังปี๊บที่เด็กๆ ชอบกินกัน
ซึ่งขนมปี๊บหลักๆ แล้วมีทั้งรสเค็ม และรสหวาน ไม่ว่าจะเป็นเวเฟอร์สติ๊ก หรือเรามักจะเรียกกันว่า โอโจ้, แคร็กเกอร์, ขาไก่, ทองม้วน, ชีสเชคไส้สับปะรด, ขนม abc, และข้าวเกรียบตาข่าย โดยที่ขนมเหล่านี้นั้น สามารถกินเข้ากันได้ดีทีเดียวกับเครื่องดื่ม และธัญพืชอบกรอบไม่ว่าจะเป็น กาแฟกระป๋อง , กาแฟสำเร็จรูป , กาแฟอาราบิก้า , ชาซีลอน , ซีเรียล , คอนเฟลก , น้ำโซดา , ผงชาไทย , น้ำผึ้งแท้ , น้ำนมข้าว
Fancy Can
เป็นรูปแบบกระป๋องที่มีลักษณะสมชื่อคือ มีรูปแบบทั้งทรงสูงที่เรียกว่ากระป๋อง หรือแบบทรงราบแนวนอนที่เรียกได้อีกแบบว่า กล่องใส่ขนมปังกรอบ วัสดุจะเป็นแผ่นเหล็ก หรือโลหะเคลือบดีบุก มีการออกแบบลวดลาย และสีเพื่อให้น่าดึงดูด และเป็นการกันสนิมไปด้วยอีกทางหนึ่ง เมื่อกินขนมปังกรอบด้านในหมดแล้ว สามารถที่จะนำไปใช้งานใส่อาหารแห้ง หรือสิ่งของอื่นๆ ได้ในรูปแบบรีไซเคิลได้
Food Can
ลักษณะการใช้งานของกระป๋อง หรือรูปแบบปี๊บนี้ก็คือ สามารถใช้ใส่อาหารได้ทุกอย่างที่เป็นของแห้ง แต่มีข้อกำหนดในการควบคุมความสะอาดให้ได้มาตรฐาน และที่สำคัญคือ ต้องไม่มีสารปนเปื้อนของโลหะหนักทุกชนิด โดยเฉพาะสารตะกั่ว บรรจุภัณฑ์ลักษณะนี้จะมีลักษณะเด่นตรงที่ มีหน้าต่างด้านหน้าปี๊บ หรือกระป๋อง เพื่อให้มองเห็นอาหาร หรือขนมที่ใส่ไว้ด้านใน เพื่อเป็นประโยชน์กับผู้ที่เลือกซื้อ ได้เห็นสินค้าก่อนที่จะตัดสินใจ
โดยที่ส่วนใหญ่เราอาจจะเห็นขนมปี๊บในบรรจุภัณฑ์ที่มีขนาดใหญ่ แต่ในส่วนของปี๊บที่มีขนาดเล็กสุดก็ยังมีอยู่ สำหรับเป็นทางเลือกให้กับผู้ที่ต้องการซื้อมากินคนเดียว อย่างเช่น ขนาดปี๊บเล็กสุด หรือเรียกว่าปี๊บไมโคร นั่นเอง ซึ่งความปลอดภัยสำหรับปี๊บที่ผลิตไว้สำหรับการใส่อาหารแห้งโดยเฉพาะนี้ จะต้องมีการใช้วัสดุในการผลิตที่เป็นFood Grade หรือ ใช้สำหรับอาหารเพื่อการบริโภคเท่านั้น
อย่างเช่น น้ำมันที่ใช้เคลือบปี๊บ ก็ต้องได้ใบประกาศสำหรับใช้กับอาหารเท่านั้น โดยขั้นตอนก็จะเป็นเหมือนรูปแบบของ Fancy Can คือเป็นแผ่นโลหะ หรือแผ่นเหล็กเคลือบดีบุก ที่ผ่านการเคลือบและอบจนแห้งแล้ว จึงนำมาตัดให้ได้ตามขนาดของปี๊บที่ต้องการ กระบวนการผลิตส่วนสุดท้ายก็คือ นำเอาแผ่นโลหะทุกด้านของปี๊บมาประกอบรวมกัน พร้อมกับประกอบส่วนหน้าต่างปี๊บเป็นขั้นตอนสุดท้าย
ซึ่งทุกมุมของบรรจุภัณฑ์ที่เรียกว่า ปี๊บนี้จะมีการบีบตัวแผ่นโลหะเก็บเข้ามุมเรียบร้อย เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อผู้ใช้ รวมถึงไม่ให้เป็นอันตรายต่อผู้ที่รับช่วงต่อ ในการจัดเรียงขนมปังลงปี๊บอีกด้วย ส่วนใหญ่แล้วหากเป็นขนมปังปี๊บที่มีขนาดและรูปทรงที่ไม่เล็กจนเกินไป จะมีการจัดเรียงเป็นแถวและเป็นล็อต เพื่อความสวยงาม และเพื่อให้สภาพภายนอกของขนม ไม่เกิดการแตกหักในระหว่างการขนส่ง
ขนมปังปี๊บที่อร่อยๆ เป็นที่นิยม มีอะไรบ้าง
ทองม้วน
ขนมไทยที่รับรองว่า ใครหลายคนต้องติดใจทั้งความหอมกะทิ, ความหวานละมุน และความกรอบในทุกคำที่เคี้ยว มีส่วนประกอบหลักๆ ก็คือ กะทิ, แป้งสาลี, น้ำตาลปี๊บ, ไข่ไก่, น้ำมันพืช และงาดำ ซึ่งในบางสูตรก็อาจมีใส่ผักชีแต่งในเนื้อของทองม้วนร่วมด้วย ที่จะช่วยเพิ่มความหอมได้อย่างมากมายทีเดียว ขนมปี๊บชนิดนี้หลายคนก็จะเรียกกันว่า ทองม้วนกะทิ
ขาไก่
ความโดดเด่นในรสชาติของขนมขาไก่นี้ จะเน้นรสเค็มนำ และมีรสหวานตาม มีความหอมและกรอบควบคู่กัน ทำให้กินได้เรื่อยๆ เพลินๆ แบบลืมตัวกันเลยทีเดียว จริงๆ แล้วรูปแบบของขนมขาไก่จะมีความคล้ายกับขนมปังขาไก่ หรือขนมปังแท่งในแบบตะวันตก หรือที่เรียกกันว่า Breadstick หรือในชื่อเรียกอิตาลีว่า Grissini ซึ่งเป็นรูปแบบขนมปังของทางประเทศอิตาลี ที่มีความยาวกว่า และมีลักษณะเนื้อแท่งที่หนากว่า รูปแบบขาไก่ที่ใส่ในปี๊บนี้
ซึ่งหากเป็นขนมปังขาไก่ในรูปแบบทางตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นในแบบ Breadstick หรือ Grissini ก็ตาม จะมีการโรยงาดำ หรือมีส่วนผสมของเนยแท้อยู่ด้วย แต่สำหรับขนมขาไก่ที่ใส่ในปี๊บนี้ จะมีส่วนผสมหลักอย่างที่เราเกริ่นไว้ตอนแรก ที่เป็นรูปแบบของขนมปังกรอบแรกเริ่มคือ เป็นแป้งสาลี, น้ำตาล, เกลือ, น้ำเปล่า และผงยีสต์ เท่านั้น ที่มีความแตกต่างตรงที่ หากเป็นขาไก่ในรูปแบบขนมปังปี๊บ จะไม่มีไข่ไก่ และเนยสด
แคร็กเกอร์
รูปแบบขนมปังกรอบอีกรูปแบบหนึ่ง ที่มีความคล้ายคลึงกับบิสกิต ที่เป็นคำเรียกในรูปแบบชาวอังกฤษ แต่แคร็กเกอร์นี้จะเน้นเป็นแผ่นขนมปังกรอบ ที่มีรสเค็มออกแนวหอม โดยที่ส่วนใหญ่แล้ว จะนิยมกินร่วมกับเครื่องดื่มไม่ว่าจะเป็น กาแฟ, ชา, หรือเครื่องดื่มสำหรับเด็ก อย่างเช่น นมสด, ช็อกโกแลต หรือโกโก้
รูปแบบที่จะช่วยให้เกิดความอร่อยได้เพิ่มมากขึ้น สำหรับเด็กในการกินร่วมกับนมสดก็คือ การนำเอาแคร็กเกอร์จุ่มในนุ่มสักพัก และกิน จะได้เนื้อแคร็กเกอร์ที่นิ่มลง ให้ได้กลิ่นและรสหอมของนมร่วมด้วยในการกิน ซี่งเราจะเห็นได้ว่า เด็กๆ มีความนิยมกินในรูปแบบนี้ มากเท่าๆ กับรูปแบบขนมปังกรอบที่มีไส้ครีมด้านใน
เวเฟอร์สติ๊ก
รูปทรงเป็นแท่ง มีลวดลายเป็นเกลียวรอบแท่งของขนม ส่วนใหญ่แล้วจะมีการทำเพียงแค่รสช็อกโกแลต และรสสตรอเบอร์รี่ ที่มีลวดลายสีชมพูเป็นเกลียวรอบแท่ง รวมถึงด้านในเวเฟอร์ก็จะมีการสอดไส้ช็อกโกแลต และสตรอเบอร์รี่ร่วมด้วย มีความคล้ายกับขนมที่เรียกยี่ห้อว่า โอโจ้ที่ไม่มีเด็กคนไหนไม่รู้จักอย่างแน่นอน
ขนม abc
หรือใครหลายคนเรียกกันว่า ขนมปัง abc รวมถึงเป็นขนมปังปี๊บที่เด็กๆ หลายคนชื่นชอบ และคุ้นเคยการกินตั้งแต่เด็ก เพราะมีรูปทรงและขนาดที่เล็ก เด็กสามารถนำไปจุ่มในนม หรือหยิบจับได้ง่าย ที่สำคัญคุณพ่อ คุณแม่สามารถใช้ขนมชนิดนี้ เป็นรูปแบบการสอนภาษาอังกฤษให้กับเด็กได้เป็นอย่างดี กริมมิคหรือลูกเล่นในการทำขนมปี๊บชนิดนี้ เป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษนั้น ทำให้เราลุ้นในแต่ละครั้งว่า จะหยิบชิ้นถัดไปเป็นตัวอักษรอะไรกัน
ข้าวเกรียบตาข่าย
มีลักษณะเป็นขนมกรอบที่มีเนื้อกรอบ และบางเบา ดังนั้นการเลือกบรรจุภัณฑ์ที่เป็นปี๊บในการบรรจุใส่ ถือว่าเป็นสิ่งที่นอกเหนือจะถนอมเรื่องของกลิ่น และรสชาติของขนมแล้วนั้น ยังช่วยถนอมสภาพของข้าวเกรียบตาข่ายนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะหากข้าวเกรียบมีการแตกหักไป ก็จะทำให้ไม่น่ากิน หรือเป็นเศษหล่นทั่วในปี๊บ
ชีสเชคไส้สับปะรด
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ขนมปังปี๊บชนิดนี้มีความขายดีได้เทียบเท่ากับ หรือมากกว่า ขนมขาไก่เลยทีเดียว ด้วยความที่มีทั้งรสสัมผัส และเนื้อสัมผัสในหนึ่งคำ ไม่ว่าจะเป็นรสเค็มและหอมจากเนื้อขนมปัง รวมถึงความกรอบ และความหวานแบบมีเนื้อสัมผัสที่แน่นและหนึบของไส้สับปะรดกวนด้วยแล้ว เราหลายคนคงจะมีประสบการณ์ ของการกินในแบบที่หยุดไม่ได้
ที่มาของชื่อเรียก ชีสเชค นั้นทำเอาใครหลายคนมีความแปลกใจว่า ทำไมถึงใช้ชื่อนี้ จริงๆ แล้วเป็นที่มาของชื่อเรียกของขนมปังกรอบ แบบแผ่นบางที่มีกลิ่นชีสยี่ห้อ ชีสเชค หรือCheese Shake นั่นเอง เมื่อนำมาเพิ่มไส้ด้านในเป็นสับปะรดแล้ว จึงใช้ชื่อยี่ห้อของขนมปังกรอบรวมกัน กลายเป็นชื่อเรียกขนมปี๊บนี้ว่า ชีสเชคไส้สับปะรด หรือ ชีสเชคสับปะรด
วิธีเลือกซื้อขนมปังปี๊บ
ชนิด
ชนิดของขนมปี๊บที่เราอาจจะเห็นว่า มีหลากหลายชนิดไม่ว่าจะแบบมีไส้ด้านใน หรือแบบไม่มีไส้ รวมถึงรูปทรงที่หลากหลายตัวเลือก โดยเฉพาะหากเป็นเด็กๆ ที่เราพาไปเลือกซื้อ คงสร้างความตื่นตาตื่นใจให้ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ก็มีชนิดของขนมปี๊บที่มีคนนิยมซื้อกินกันมาก ทั้งความกรอบ, รสชาติเค็มแบบหอมๆ หรือไส้หวานที่มีรสชาติกินคู่กับเนื้อขนมปังกรอบด้านนอกเข้ากันได้อย่างลงตัวทีเดียว
- ขนมทองม้วน
- ขนมขาไก่
- แคร็กเกอร์
- เวเฟอร์สติ๊ก
- ชีสเชคไส้สับปะรด
- ขนม abc
- ข้าวเกรียบตาข่าย
บรรจุภัณฑ์
เราควรเลือกพิจารณาบรรจุภัณฑ์ ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ โดยเน้นดูความสมบูรณ์ของถังปี๊บ ว่ามีส่วนใดส่วนหนี่งที่บี้ หรือบุบหรือไม่ รวมถึงข้อสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเลยคือ ฝาปี๊บที่ปิดสนิทหรือไม่ในขณะที่ซื้อ และมีสนิมรอบนอกปี๊บหรือไม่ ทั้งนี้เพื่อให้เราได้ขนมที่มีความสมบูรณ์, สดใหม่ และมีความปลอดภัย
รสชาติ
หากเราพูดถึงขนมคงไม่มีใคร ที่จะไม่คิดถึงรสชาติที่มีหลากหลาย และความหอมที่เป็นเอกลักษณ์สำหรับขนมปี๊บแต่ละชนิดอย่างแน่นอน อย่างเช่น การพิจารณาตัดสินใจเลือกระหว่าง เวเฟอร์สติ๊กรสช็อกโกแลต หรือเวเฟอร์สติ๊กรสสตรอเบอร์รี่ หรืออาจจะมีขนมปี๊บอีกหลายชนิด ที่หลายคนชื่นชอบ อย่างเช่น ขนมปังกรอบไส้ครีมวานิลลา, ขนมปังกรอบไส้ครีมทุเรียน หรือขนมปังกรอบสอดไส้เนยถั่ว
ขนมปี๊บ ความทรงจำในวัยเด็ก
สรุป
ขนมกรุบกรอบที่มีเสน่ห์ ไม่ใช่เพียงแค่หน้าตา และความสวยงามของสีสันภายนอกเท่านั้น แต่ขนมปังปี๊บยังเป็นขนมที่กินได้อร่อยทั้งความกรอบภายนอก กับรสชาติที่หลากหลาย และชนิดของขนมปี๊บที่มีให้เลือกได้แบบไม่รู้จักเบื่อเลยทีเดียว มีทั้งขนมขาไก่, เวเฟอร์สติ๊ก, ทองม้วน, ข้าวเกรียบตาข่าย, ชีสเชคไส้สับปะรด, แคร็กเกอร์ และอีกหลากหลายชนิด ที่เด็กๆ และผู้ใหญ่ก็ชื่นชอบ สามารถซื้อเก็บไว้กินที่บ้าน หรือซื้อเป็นของฝากก็เหมาะสมทุกเทศกาล
ควบคุมและดูแลการผลิตคอนเท้นส์ ชื่นชอบที่จะนำเสนอคอนเท้นส์ที่ดีๆ มีประโยชน์ให้กับท่านผู้อ่าน
ขนมปังปี๊บ VFOODS
-ได้รับการรองรับมาตราฐานสินค้า อย. / GMP
-สามารถเก็บรักษาสินค้าได้นานถึง 12 เดือน
ขนมปังปี๊บ เพนนีโอ
-ขนาดพกพาสะดวก ปริมาณสุทธิ 430 กรัม
-รสชาติเข้มข้น มีให้เลือกรสชาติถึง 5 รส
ขนมปังปี๊บ M&K
-น้ำหนักสินค้าปริมาณสุทธิ 1,200 กรัม
-รสชาติเข้มข้น กรอบ เคี้ยวสนุก
ขนมปังปี๊บ S.K.
-สามารถเก็บรักษาสินค้าได้นานถึง 12 เดือน
-น้ำหนักสินค้าปริมาณสุทธิ 4 กิโลกรัม
ขนมปังปี๊บ นกอินทรีคู่
-น้ำหนักสินค้าปริมาณสุทธิ 1.2 กิโลกรัม
-สามารถเก็บรักษาสินค้าได้นานถึง 12 เดือน
ขนมปังปี๊บ ปาปัง
-สามารถเก็บรักษาสินค้าได้นานถึง 6 เดือน
-น้ำหนักสินค้าปริมาณสุทธิ 350 กรัม
ขนมปังปี๊บ ไวโอเล็ต
-สามารถเก็บรักษาสินค้าได้นานถึง 12 เดือน
-น้ำหนักสินค้าปริมาณสุทธิ 1.5 กิโลกรัม
ขนมปังปี๊บ ดอกบัวคู่
-น้ำหนักสินค้าปริมาณสุทะฺ 1300 – 1500 กรัม
-สามารถเก็บรักษาสินค้าได้นานถึง 6 เดือน
ขนมปังปี๊บ KPF
-น้ำหนักสินค้าปริมาณสุทธิ 1200 กรัม
-สามารถเก็บรักษาสินค้าได้นานถึง 12 เดือน
ขนมปังปี๊บ กิเลน
-เคี้ยวง่าย แบ่งทานสะดวก ไม่ยุ่งยาก
-น้ำหนักสินค้าปริมาณสุทธิ 500 กรัม