ไมโครเวฟ คืออะไร
คือ เครื่องที่ใช้ในการอุ่นอาหารเป็นหลัก ที่ในปัจจุบันนี้มีการแบ่งตัวเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนี้ เป็นรูปแบบการประกอบอาหารได้เป็น 2 แบบคือ
แบบอุ่นอาหารได้อย่างเดียว
เป็นการปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกมา เพื่อเป็นการส่งความร้อนไปถึงตัวอาหารที่นำเข้าไปในตัวเครื่อง ดังนั้นสิ่งที่จะได้คือ อุณหภูมิความร้อนในตัวอาหาร ที่ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบทั้ง การตั้งค่าความร้อน และระยะเวลาที่เราตั้ง ซึ่งหากเป็นเครื่องในรูปแบบนี้นั้น เราสามารถที่จะอุ่นน้ำร้อนเพื่อชงขิงผงดื่มได้ในช่วงที่ฝนตก หรือในช่วงอากาศหนาว
แบบอุ่นอาหารและการย่าง ทอด อบ นึ่ง ลวก
ความแตกต่างที่จะเห็นได้จากเครื่องที่ใช้ในการอุ่นอาหารได้อย่างเดียวคือ การมีแมกนีตรอนเข้ามา เพื่อใช้ในการปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า โดยที่เราจะสังเกตได้ง่ายๆ คือด้านบนภายในตัวเครื่องจะมีขดลวด และตัวพัดลมเพื่อเป็นการกระจายความร้อนให้ทั่วผิวของอาหาร โดยเน้นเพื่อให้ผิวภายนอกอาหารเกิดความ แห้ง และกรอบ อย่างเช่นอาหารย่าง หรือทอด
ในกรณีที่ต้องการประกอบอาหาร ที่ไม่ได้เน้นให้ผิวภายนอกมีความแห้ง หรือกรอบ อย่างเช่น อาหารนึ่ง หรือลวกนั้น มีความจำเป็นที่จะต้องใช้น้ำเป็นตัวกลาง ในการทำให้เนื้อของอาหารสุก และคงความชุ่มฉ่ำภายใน
แต่สำหรับในการใช้งานจริงๆ นั้นอาจไม่ได้ยากมาก เพราะการเน้นความง่าย ที่ในวันนี้แต่ละยี่ห้อมีการระบุเป็นภาพสัญลักษณ์ การประกอบอาหารในแต่ละประเภท โดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องลงรายละเอียดในเรื่องของการตั้งเวลา หรือความร้อนอีกเลย
หลักการทำงานไมโครเวฟ
การทำงานของภายในตัวเครื่อง จะเน้นไปที่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นหัวใจหลัก ซึ่งหากเป็นเครื่องที่มีคุณสมบัติในการปิ้ง ย่าง หรือทอดนั้น จะมีแมกนีตรอนที่ส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านี้ ไปยังอาหารที่เราใส่เข้าไปในตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่ยังไม่สุก หรือปรุงสุกแล้ว เพียงแค่ต้องการอุ่นให้ร้อนเท่านั้นก็ตาม
การทำงานของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านี้ จะเป็นการกระจายเข้าสู่ตัวอาหาร และทำให้ตัวอาหารมีการสั่นจนเกิดเป็นความร้อน หรือทำให้อาหารสุกเท่ากัน หรือสำหรับการย่างนั้น อาจจะต้องมีการกลับบนล่าง
เพื่อให้อาหารที่อยู่ด้านล่าง ได้รับความร้อนให้ผิวด้านนอกเกรียม และแห้ง กรอบ สิ่งหนึ่งที่เป็นจุดดึงดูดให้มีผู้ใช้งานในเครื่องใช้ไฟฟ้านี้มากก็คือ การทำให้อาหารสุกเร็ว เพื่อเป็นการถนอมอาหารภายใน และยังเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกประเภทหนึ่ง ที่ช่วยในเรื่องการประหยัดไฟร่วมด้วย
ความแตกต่างระหว่างเตาอบ กับ ไมโครเวฟ
หากเรามองแบบผิวเผิน เราจะรู้สึกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้ง 2 แบบนี้มีการใช้งานในแบบเดียวกัน คือ สามารถประกอบอาหารให้สุกได้ และยังเน้นในเรื่องของการ ปิ้ง และย่าง ให้เนื้อของอาหารภายนอกมีความเกรียม แห้ง และน่ากิน แต่ในความจริงแล้ว มีส่วนที่แตกต่างกันอยู่บ้างคือ
เตาอบ
จะเป็นการทำงานผ่านไฟฟ้าโดยตรง ดังนั้นการกำหนดอุณหภูมิความร้อน และการตั้งเวลา จะเป็นค่าหลักที่เป็นตัวกำหนดสี เนื้อสัมผัส และคุณภาพของเนื้อในของอาหารได้ตรงตามที่เราตั้งค่าไว้ หรือหากเป็นการอุ่นอาหารที่เป็นการอบ ย่าง ทอดอีกรอบนั้น ก็ยังคงความนุ่มที่ผิวภายนอกของอาหารได้อยู่ อย่างเช่น ขาหมูเยอรมัน ครัวซอง หรือแม้แต่อาหารปิ้งย่างทั่วไปก็ตาม ความอร่อยจะได้เหมือนกับตอนที่ย่างเสร็จใหม่ๆ
ไมโครเวฟ
ด้วยความที่การทำงานของตัวเครื่องเป็นการปล่อยแม่เหล็กไฟฟ้า ดังนั้นถึงแม้จะเป็นรูปแบบการใช้งานผ่านไฟฟ้าก็ตาม แต่การทำความร้อน หรือการทำให้อาหารสุกภายใน จะเป็นการดูดเอาความชื้นจากตัวอาหารไปจนหมด
สิ่งที่เราจะเห็นความแตกต่างได้ชัดเจนเลยคือ ความกระด้างที่เนื้อผิวด้านนอกของอาหาร ถึงแม้ว่าอาหารชนิดนั้นจะมีความกรอบ แห้ง เกรียมก็ตาม แต่จะไม่มีความนุ่มที่เนื้ออาหารด้านนอก
วิธีใช้ไมโครเวฟ
1.ก่อนอื่นเราควรหา โต๊ะวางของ ที่สามารถรับน้ำหนักของตัวเครื่องได้ และไม่เล็กจนเกินไป มีพื้นที่เหลือด้านข้าง และด้านหลังเล็กน้อย และไม่ควรห่างจาก โต๊ะกินข้าว มากนัก จากนั้นเสียบปลั๊กตัวเครื่องให้เรียบร้อย
หากเป็นเครื่องอุ่นอาหารอย่างเดียว เพียงแค่ปรับค่าความร้อน และระยะเวลาที่ใช้ในการอุ่นอาหาร ในกรณีหากไม่แน่ใจในความร้อนแต่ละระดับ รวมถึงเวลาในการตั้งค่า สามารถเริ่มตั้งค่าในจำนวนที่น้อยไปก่อน
2.ในกรณีที่เป็นเครื่องที่มีฟังค์ชั่นในการ ทอด ปิ้ง ย่าง นึ่ง ลวก นั้น ส่วนใหญ่ตัวเครื่องที่ผลิตออกมาทุกยี่ห้อ จะมีการระบุให้รู้ว่าอาหารในแต่ละการปรุง อย่างเช่น การทอด หรือย่างนั้น กดที่ปุ่มสัญลักษณ์ของชนิดการปรุงเพียงเท่านั้น ที่ช่วยให้ผู้ใช้มีความสะดวก และง่ายสำหรับการใช้งาน
3.สิ่งที่เน้นคือ หากเราเลือกเป็นการประกอบอาหารในรูปแบบการย่าง หรือทอด ที่เน้นความอร่อยอยู่ที่ผิวด้านนอกให้แห้ง กรอบนั้น ผู้ใช้อาจจะต้องมีการกดฟังค์ชั่นการทอด หรือย่างอีกรอบ เพื่อพลิกชิ้นอาหารกลับด้านกัน
4.หลังการใช้งานควรที่จะถอดปลั๊กตัวเครื่องออกทุกครั้ง เพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดจากไฟฟ้า หรือไฟฟ้าลัดวงจรจากการเสียบรางปลั๊กได้
ไมโครเวฟใช้ทำอาหารอะไรได้บ้าง
หากเราเลือกชนิดของเครื่องเป็นแบบแมกนีตรอน หรือเครื่องที่สามารถประกอบอาหารได้ นอกจากการอุ่นอาหารแล้วนั้น เราสามารถที่จะทำเมนูอาหารได้ทั้ง เมนูนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นไข่ตุ๋น ปลากะพงนึ่งมะนาว เมนูทอด อย่างเช่น หมูทอดกระเทียม ชะอมทอดไข่ หรือในเมนูปิ้งย่าง ก็สามารถทำเป็นหมูปิ้งนมสด และไก่ย่างบางตาลได้
แต่หากต้องการให้มีการใช้เวลาที่เร็วขึ้น มีความกรอบของตัวอาหารที่มาก ควรที่จะหั่น สไลด์ให้บาง หรือสับเนื้อสัตว์ให้เป็นชิ้นเล็ก ไม่ควรย่างทั้งตัวซึ่งในรูปแบบของตัวเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทนี้แล้ว ความร้อนจะไม่เท่ากับเตาอบไฟฟ้า
การเลือกซื้อไมโครเวฟ
1.ขนาดของตัวเครื่อง
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพื้นที่ในส่วนการทำครัว หรือห้องครัวของแต่ละบ้าน โดยปกติแล้วจะมีขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 45x25x33 เซนติเมตร หรืออาจจะมีบวกลบได้ตามการออกแบบรูปทรงตัวเครื่อง ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่น และยี่ห้อ
2.กำลังไฟ
หากเป็นการใช้งานในแบบทั่วไปเพื่ออุ่นอาหารเพียงอย่างเดียวนั้น การเลือกซื้อที่กำลังไฟ 700 วัตต์ก็เพียงพอต่อการใช้งาน แต่หากเป็นความต้องการที่จะประกอบอาหาร ที่หลากหลายมากขึ้นแล้วละก็ ควรที่จะเลือกกำลังไฟที่มากขึ้นเป็น 800 วัตต์ เพื่อที่จะสามารถย่าง หรือทอดอาหารได้ร่วมด้วย
3.ประเภทของอาหาร
ก่อนที่จะพิจารณาซื้อนั้น เราควรรู้ก่อนว่าเราจะใช้เครื่องนี้ สำหรับการทำอาหารประเภทใดบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วผู้ซื้อจะเน้นการซื้อที่เผื่อ และครอบคลุมการใช้งานไว้ก่อน ด้วยการเลือกซื้อเครื่องในแบบแมกนีตรอน ที่สามารถทำอาหารได้หลากหลายชนิด
วิธีทำความสะอาดไมโครเวฟ
1.นำเอาน้ำส้มสายชู และน้ำสะอาดในอัตรา 1:1 ส่วน หรือหากเป็นเบกกิ้งโซดา สามารถใช้อัตราส่วน 2 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำสะอาด 1 แก้ว คนให้เข้ากันจนเบกกิ้งโซดาละลาย และนำเอาฟองน้ำชุบเช็ดภายในเครื่องไมโครเวฟให้รอบ โดยเฉพาะขดลวดด้านบน ที่จะมีคราบน้ำมันติดมากเป็นพิเศษ
2.หากใครที่ชอบสายธรรมชาติ สามารถนำเอามะนาว 1 ลูกบีบน้ำผสมในน้ำสะอาด เน้นอย่าเจือจางจนเกินไป รวมถึงการใส่เปลือกมะนาวลงไปด้วยในภาชนะแก้ว หรือที่สามารถใช้ร่วมกับเครื่องได้
จากนั้นตั้งเวลา 3 นาที เพื่อให้กลิ่นของน้ำมะนาว และเปลือกมะนาวกระจายออกมา เพื่อเป็นการกำจัดกลิ่นภายในตัวเครื่อง จากนั้นนำฟองน้ำชุบเช็ดด้านในตัวเครื่อง
3.อันดับสุดท้ายควรมีการนำผ้าสะอาด เพื่อทำการเช็ดแห้ง เพื่อให้ด้านในเครื่องไม่มีความมันจากอาหารหลงเหลืออยู่
ปัญหาที่เกิดกับไมโครเวฟ และวิธีแก้ไข
ไมโครเวฟไม่ร้อน
ปัญหานี้อาจจะถือว่าเป็นปัญหาที่มักเจอได้ง่ายๆ กับผู้ที่ใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้านี้ เป็นระยะเวลานาน ซึ่งอายุเครื่องส่วนใหญ่ที่มักจะเจอปัญหานี้ มักจะมีการใช้งานที่เกิน 7 ปีขึ้นไป หรือแม้แต่ผู้ที่เพิ่งถอยเครื่องใหม่แกะกล่อง ก็สามารถเจอกับปัญหาที่ไม่น่าเจอในแบบนี้ได้ ดังนั้นเราจึงควรรู้คร่าวๆ ก่อนว่า ปัญหานี้มักจะเกิดจากอะไรได้บ้าง
1.หากเป็นในส่วนที่เราได้บอกไปข้างต้นว่า มีการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เกิน 7 ปีไปแล้ว ปัญหานี้ก็น่าจะเกิดขึ้นเพราะ ตัวอุปกรณ์ภายในตัวเครื่องที่เสื่อมไปตามอายุการใช้งาน ซึ่งในการนำไปซ่อมนั้น
อาจจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าการซื้อใหม่ ตรงนี้เราอาจจะต้องประเมินดูราคาตัวใหม่ก่อนว่าคุ้มกันหรือไม่ แต่ส่วนใหญ่แล้วหากเสีย และมีการใช้งานตามระยะเวลาที่บอกไป การเลือกพิจารณาซื้อไมโครเวฟเครื่องใหม่ จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
2.ในส่วนของตัวเครื่องอุ่นอาหารชนิดนี้ จะมีฟังค์ชั่นที่ช่วยในการละลายน้ำแข็ง ที่เป็นทั้งเนื้อสัตว์ หรืออาหารที่ปรุงสุกแล้ว ทั้งตัวเครื่องที่เป็นแบบอุ่นอาหารอย่างเดียว และเครื่องที่เป็นแมกนีตรอน
ในการประกอบอาหารประเภท ปิ้ง ย่าง ลวก นึ่ง ซึ่งระบบการละลายน้ำแข็งนั้น จะเป็นการปล่อยความร้อนไม่มาก เพื่อช่วยในการถนอมเนื้อภายนอกของอาหาร
ซึ่งหากเป็นอาหารสด ก็จะช่วยให้เนื้อภายในยังคงความชุ่มฉ่ำอยู่ หรือหากเป็นอาหารที่ปรุงสุกแล้ว ก็จะช่วยให้เนื้อภายนอก ไม่แข็ง แห้ง หรือกระด้าง ดังนั้นจึงอาจเป็นไปได้ที่เราใช้งานระบบนี้แล้ว ลืมที่จะปรับค่ามาที่การอุ่นอาหาร ที่ให้ความร้อนจัด
เพียงแค่กลับไปเช็คระดับการตั้งค่าความร้อน หรือ volume ให้แน่ใจเสียก่อนว่า ได้มีการตั้งค่าไปที่การอุ่นอาหารแล้วหรือยัง
3.โดยส่วนใหญ่แล้วที่เรามักจะทำกัน ในการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทนี้ และด้วยความจำกัดของปลั๊กไฟ การใช้รางปลั๊กพ่วง ที่เน้นการใช้งานาของเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายตัว ในบริเวณที่ใกล้ๆ กัน
อาจเป็นไปได้ทั้งตัวปลั๊กเสียบพ่วงที่เสื่อมคุณภาพ หรือมีตัวเสียบที่หลวม ไม่เหมาะกับหัวปลั๊กของเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นๆ ก็จะทำให้เกิดไฟไม่เข้าเครื่อง
สิ่งที่เราไม่ควรมองข้ามเลยคือ รางปลั๊กไฟ ที่ควรเน้นคุณภาพและเมื่อมีสภาพการใช้งานไม่สมบูรณ์แล้ว ควรมีความจำเป็นที่จะเปลี่ยนตัวใหม่มาแทน เพราะอาจเกิดไฟฟ้าลัดวงจร และนำไปสู่เพลิงไหม้ได้
ไมโครเวฟมีเสียงดังในเวลาใช้งาน
ข้อที่เราควรสังเกตก็คือ การเกิดเสียงดังนั้น เกิดขึ้นในเวลาใด หากเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ทำการอุ่นอาหาร นั่นเป็นเสียงการทำงานของแมกนีตรอน ที่ในขณะไมโครเวฟทำงานนั้น เปลี่ยนเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
ซึ่งตัวแมกนีตรอนนี้จะมีอยู่เฉพาะในเครื่องที่มีคุณสมบัติในการ ย่าง อบ หรือทอดเท่านั้น เพื่อให้เนื้อในของอาหารนั้นมีความแห้ง กรอบ ที่ผิวด้านนอก อย่างเช่น การทอดหอมเจียว เมนูหมูทอดน้ำปลา หรือเมนูลวก นึ่ง อย่างเช่น ไข่ตุ๋น และการหุงข้าวภายในเครื่องไมโครเวฟ ซึ่งในวันนี้ก็ได้มีตัวหม้อข้าว ที่ใช้หุงข้าวสำหรับเครื่องไฟฟ้าชนิดนี้โดยเฉพาะ
สำหรับเสียงดังที่เกิดในการใช้งานเครื่องนั้น หากเป็นในกรณีที่เปิดเครื่องเพื่อทำอาหาร และมีการสแตนบายเครื่อง หรือยังค้างค่าตั้งเวลาไว้อยู่ และมีการเปิดเครื่องออกก่อน ซึงโดยปกติแล้ว เครื่องต้องหยุดทำงานจากการเปิด
แต่หากเรายังได้ยินเสียงดัง ที่เหมือนกับเสียงของพัดลมดังอยู่ นั่นอาจเป็นสัญญาณบอกถึง อาการเสียภายในตัวเครื่อง แนะนำว่าให้นำไปเข้าศูนย์ให้บริการ และไม่ควรเป็นอย่างยิ่งในการใช้งานต่อไป ซึ่งอาจเป็นอันตรายทั้งต่อผู้ใช้งาน และที่อยู่อาศัยร่วมด้วย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับไมโครเวฟ Q-A
ในความง่ายสำหรับการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทนี้ ที่เราคิดว่าเพียงแค่การเสียบกับรางปลั๊กไฟเพียงเท่านั้น เราก็สามารถที่จะทำมาม่าเกาหลีที่อินเทรนด์อยู่ในตอนนี้ ในแบบที่ไม่ต้องพึ่งฝีมือในการทำอาหารอะไรเลย
แต่สำหรับการใช้งานในความเป็นจริงแล้ว มีรายละเอียดหลายอย่างทีเดียว ที่เราในฐานะผู้ใช้งาน และเป็นผู้ที่ต้องบริโภคอาหารจานนั้น จำเป็นที่จะต้องรู้ และศึกษาให้แน่ชัดก่อนที่จะพิจารณาเลือกซื้อ
ไมโครเวฟกินไฟกี่วัตต์
โดยปกติแล้วสำหรับเครื่องที่ใช้อุ่นอาหารประเภทนี้ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของการอุ่นอาหารเพียงอย่างเดียว หรือมีฟังค์ชั่นในการปิ้ง ย่างเข้ามาด้วย ซึ่งสามารถทดแทนเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง เครื่องปิ้งขนมปัง หรือ เตาอบไฟฟ้า ได้ จะกินไฟอยู่ที่ 100-1,000 วัตต์เพียงเท่านั้น
ซึ่งหากนำมาคำนวณเป็นค่าไฟต่อการใช้ในแบบเต็มชั่วโมง เท่ากับ 40 บาทต่อชั่วโมง หรือสำหรับในการใช้งานจริงนั้น ที่เราไม่ได้มีการใช้เครื่องอุ่นอาหารตลอดเวลา ค่าไฟจะอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 5 บาทต่อชั่วโมงเท่านั้น
ซึ่งในการกินไฟนั้นก็ขึ้นอยู่กับ ค่าประหยัดไฟของเครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่น และยี่ห้อนั้นๆ ร่วมด้วย อย่างเช่นเป็นสินค้าที่ประหยัดไฟเบอร์ 5 รวมถึงการใช้งานของตัวเราเอง ในการตั้งเวลา และอุณหภูมิในการอุ่นอาหาร ที่ต้องให้เหมาะสมกับลักษณะของอาหารนั้นๆ
โดยที่ในปัจจุบันนี้ในแต่ละยี่ห้อ ก็มีการระบุทั้งเป็นคู่มือ และรูปภาพที่เป็นสัญลักษณ์ร่วมด้วย ว่าอาหารในแต่ละประเภทควรใช้เวลาในการอุ่นเท่าไหร่
ไมโครเวฟใช้กี่วัตต์ดี
หากเราไปยืนดูในชั้นวางขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งคำถามต้นๆ สำหรับผู้ที่กำลังเลือกซื้อไมโครเวฟ เพื่อใช้งานก็คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนี้ควรเลือกใช้ไฟกี่วัตต์ดี ที่จะประหยัดไฟ โดยส่วนใหญ่แล้วเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนี้ จะมีการกำหนดกำลังไฟอยู่แค่ที่ 700-800 วัตต์เพียงเท่านั้น
ซึ่งหากเป็นในกรณีที่เราต้องการเพียงแค่ การใช้งานอุ่นอาหารปกติทั่วไป การเลือกอยู่ที่ 700 วัตต์ก็เพียงพอ และครอบคลุมต่อการใช้งาน อย่างเช่นการนำอาหารสดจาก ตู้แช่แข็ง มาละลายในตัวเครื่อง
แต่หากเราต้องการที่จะมีฟังค์ชั่นในการทำอาหารเพิ่มมากขึ้น หรือมีการใช้งานได้เหมือนกับ เตาอบไฟฟ้า อย่างเช่น การอบ นึ่ง ย่าง หรือทอดก็ตาม ควรที่จะเลือกคุณสมบัติของเครื่องที่เพิ่มกำลังไฟมากขึ้นเป็น 800 วัตต์
ไม่ว่าจะเป็นอาหารอย่าง ไก่ย่าง กระเทียมเจียว หรือไก่อบซอสมะเขือเทศ ก็สามารถทำได้ง่ายๆ และใช้เวลาในการทำอาหารไม่นาน เพียงแต่ในบริเวณที่ทำอาหารนั้น ต้องมีการติด พัดลมติดผนัง หรือ เครื่องฟอกอากาศ เพื่อช่วยให้กลิ่นอาหารไม่อบอวลภายในห้อง
ภาชนะที่สามารถนำเข้าไมโครเวฟได้
เราคงจะมองเห็นในข้อดีที่หลากหลาย ของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทนี้ ที่อำนวยทั้งความสะดวกสบาย และช่วยให้ชีวิตประจำวันของเราง่ายขึ้น อย่างน้อยๆ การซื้ออาหารปรุงเสร็จมา ไม่ว่าจะเป็นกับข้าวถุง หรือข้าวราดแกง เรายังสามารถที่จะอุ่นร้อน เพื่อฆ่าเชื้อโรค และความร้อนก็ช่วยให้รสชาติอาหารมีความอร่อยมากขึ้น
แต่สำหรับเครื่องใช้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า หรืออุปกรณ์การใช้งาน มักจะมีข้อดีและข้อเสีย ดังนั้นในส่วนของไมโครเวฟก็เช่นกัน ในข้อจำกัดที่เราต้องเน้นการขีดเส้นใต้โดยเฉพาะเลยว่า ภาชนะบางอย่างห้ามใช้ร่วมกับตัวเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทนี้ ดังนั้นเรามาดูกันว่ามีภาชนะอะไรกันบ้าง ที่ห้ามใช้ในการอุ่นอาหาร
1.พลาสติก
หลายคนคงตั้งคำถามกันว่าจริงๆ แล้วพลาสติกเป็นสิ่งที่ต้องห้ามอันดับแรกๆ เลย สำหรับการนำเข้าไปใช้ในเครื่องไฟฟ้านี้ แต่ในวันนี้เราจะเห็นได้ว่า มีการนำเอาบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากพลาสติก ที่ใช้ใส่อาหาร ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบกล่องข้าว
หรือ ถุงบรรจุแบบสุญญากาศ ที่มีการเน้นว่า สามารถใช้ร่วมกับไมโครเวฟได้ ซึ่งเป็นส่วนประกอบของพลาสติก PP หรือโพลิโพรพิลีน ที่มีความเหนียว ทนทาน และยืดหยุ่นได้ดี ดังนั้นจึงทนต่อความร้อนในการอุ่นอาหารได้เป็นอย่างดี
2.แก้ว
ภาชนะที่ผลิตมาจากแก้ว ไม่ว่าจะเป็นแก้วน้ำ หรือ จาน ชาม ก็ตามสามารถที่จะนำมาใช้ร่วมกับตัวเครื่องได้ แต่ในการใช้จริงนั้น เราควรที่จะสังเกตถึงความหนา และความบางของภาชนะที่ทำจากแก้วนั้นด้วยว่า มีความหนามากพอกับความร้อนที่เราใช้อุ่นอาหารหรือไม่
อย่างเช่น แก้วน้ำที่มีการทำลวดลาย และลงสี มีความบางของเนื้อแก้ว ก็ไม่ควรที่จะนำเข้าไปอุ่น แต่หากเป็นชามที่มีความหนาของเนื้อแก้ว ไม่มีการพ่นลาย หรือลวดลายบนภาชนะ จึงสามารถที่จะนำไปอุ่นอาหารได้อย่างปลอดภัย ทั้งกับตัวอาหารเอง และผู้ที่กินอาหารด้วย
3.เซรามิก และกระเบื้อง
ภาชนะที่มีคนนิยมนำมาใช้คู่กับเครื่องไมโครเวฟก็คือ ภาชนะที่เป็นเซรามิก และกระเบื้อง และถือว่าในปัจจุบันนี้ มีการวางขายมากขึ้นตามความนิยม ในการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทนี้ ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นๆ เลยคือ ความสามารถในการทนความร้อนได้สูง
มีความหนาของตัวภาชนะ ไม่มีสารพิษตกค้างลงในอาหารเมื่อโดนความร้อนสูง และไม่ส่งผลเสียต่อคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของตัวเครื่องอีกด้วย
แต่มีข้อที่เราควรต้องระวังเล็กน้อยคือ การเลือกและเน้นที่ลักษณะภาชนะที่ไม่ควรมีลวดลาย ไม่ว่าจะเป็นการลงสี รูปวาด หรือแม้กระทั่งขอบของภาชนะ โดยเฉพาะสีทอง และเงิน ที่จะส่งผลเสียต่อคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าภายในอีกทั้งในลวดลาย
หรือสีที่ลงบนตัวภาชนะนั้น หากมีกระบวนการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐานดีพอ อาจส่งผลเสียต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นสีจากภาชนะที่ปะปนไปกับตัวอาหาร ซึ่งเมื่อบริโภคไปนานๆ อาจกลายเป็นสารก่อมะเร็งได้
เคล็ดลับการทำความสะอาดเตาไมโครเวฟ
สรุป
ข้อมูลข้างต้นคงจะทำให้เราได้รู้ถึงคุณสมบัติ การใช้งานโดยหลักๆ ของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทนี้กันแล้ว และไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมไมโครเวฟถึงมีผู้เลือกใช้งานเป็นจำนวนมาก เพราะด้วยความสามารถในการประกอบอาหารได้หลากหลายชนิด
ราคาที่ถูกกว่าเตาอบไฟฟ้า อีกทั้งยังมีระยะเวลาในการปรุงอาหารที่เร็ว ง่าย และสะดวกในการใช้งาน แต่ทั้งนี้นั้นก็ยังมีข้อเสียบางอย่าง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้งาน และความเหมาะสมกับพื้นที่ของสถานที่อยู่อาศัยร่วมด้วย
เชพขวัญ ขวัญเรือน ผู้ชำนาญการด้านการทำอาหารและเครื่องครัว ประสบการณ์ด้านการทำอาหารมากกว่า 20 ปี เคยอยู่ร้านอาหารชื่อดังหลายแห่ง มีความรู้และเชี่ยวชาญ เป็นนักเขียนและวิจารณ์รีวิวอาหาร และแนะนำเครื่องใช้ในครัวเรือน
ไมโครเวฟ ELECTROLUX รุ่น EMM20K18GW
-ปรับความร้อนได้ 5 ระดับ พร้อมโปรแกรมละลายอาหารแช่แข็ง
-ทำความสะอาดง่าย และจับถนัดมือ
-ผลิตจากวัสุดแข็งแรงทนทาน
ไมโครเวฟ Samsung MS23K3513AW/ST WHITE
-มีคุณสมบัติทนทาน ทำความสะอาดง่าย ป้องกันรอยขีดข่วน
ไมโครเวฟ SHARP รุ่น R-2200F-S
-ดีไซน์สวยงามทันสมัย
-ใช้งานง่าย ด้วยระบบลูกบิด
-ขนาดความจุ 20ลิตร
-ระดับความร้อน 5 ระดับ
ไมโครเวฟ TOSHIBA รุ่น MWP-MM20P
-ขนาดความจุ 20 ลิตร
-กำลังไฟ 700 วัตต์ ร้อนไว รับประกัน 1 ปี
-ปรับความร้อนได้ 5 ระดับ
-ผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพ ทนทาน
พร้อมรับประกันนานถึง 1 ปี
-รับประกันแมกนิตรอน 5 ปี
ไมโครเวฟ Panasonic รุ่น NN-SM23JMTPE
-ความจุ 20 ลิตร
ดีไซน์ทันสมัยใช้งานด้วยระบบลูกบิดหมุน
-มีระบบละลายอาหารแช่แข็ง
ไมโครเวฟ Midea รุ่น MMO-20J91
-กำลังไฟสูงสุด 700 วัตต์
-กระจายความร้อนได้ 360 องศา
-ปรับกำลังไฟได้มากถึง 5 ระดับ
ไมโครเวฟ Alectric รุ่น MO-M2
-ฟังก์ชันไมโครเวฟ 5 ระดับ
-ทำงานด้วยการกดปุ่ม และระบบลูกปิด
-ประตูเป็นประตูกระจกนิรภัย
-เพิ่มความปลอดภัยด้วยระบบ Child Safety Lock
ไมโครเวฟ BEKO รุ่น MOC20100W
-ความจุมากถึง 20 ลิตร
-ใช้กำลังไฟฟ้า 700 วัตต์
-ปรับความร้อนได้ถึง 5 ระดับ
ไมโครเวฟ Haier รุ่น HMW-M2001W
-ขนาด 20 ลิตร
-ดีไซน์สวยงามทันสมัย
-มาพร้อมประตูกระจกนิรภัยที่ทนต่อแรงกระแทก
-ใช้งานง่ายด้วยระบบการตั้งค่าแบบลูกบิด
ไมโครเวฟ FOTILE รุ่น HW25800K-03BG
-ความจุ 25 ลิตร
-ปรับความร้อนได้ 5
-สามารถละลายน้ำแข็งได้