ในการดูแลร่างกายของคนเราให้แข็งแรงอยู่เสมอไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด เพียงแค่เราใส่ใจในการเลือกอาหารเสริมอย่างพิถีพิถันในการบำรุงร่างกาย ตัวอย่างการเลือกทาน เช่น กระชายขาวสกัด , วิตามินดี , วิตามินบีรวม , วิตามินบำรุงสายตา , คอลลาเจน , คอลลาเจนแบบเม็ด , ยาบำรุงเลือด หรือจะเป็น Royal Jelly , นมผึ้ง หรือการเสริมโปรตีนในผู้สูงอายุอย่างการกิน เอนชัวร์ ที่หลาย ๆ คนนิยมเพื่อการบำรุงสุขภาพองค์รวมให้แข็งแรงอย่างยั่งยืน
โสมเกาหลี คืออะไร
โสมเกาหลี หรือโสมคน หยิ่งเซียม มีต้นกำเนิดที่ประเทศเกาหลี นำมาใช้แพร่หลายในประเทศจีน โดยแพทย์แผนจีนกล่าวไว้ว่า มีรสหวานอมขมเล็กน้อย ออกฤทธิ์ตามเส้นลมปราณของปอดและม้าม เป็นกลุ่มสมุนไพรบำรุงกำลัง ช่วยแก้ไขเรื่องระบบย่อยอาหาร บำรุงปอด แก้เบื่ออาหาร ช่วยแก้อาการหอบ บำรุงหัวใจ บำรุงไต บรรเทาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
มีชื่อสามัญว่า Ginseng, Panax, Korean Ginseng, Asian Ginseng. รวมถึงสมุนไพร ยังมีชื่อเรียกอีกว่า โสมจีน โสมคน โสมสวน โสมป่า หยิ่งเซียม หรือ เหยินเซิน เป็นต้น
ต้นกำเนิดของโสมเกาหลี
มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีนตอนเหนือในประเทศเกาหลี เป็นต้นที่มีขนาด 60-80 เซนติเมตร ลำต้นมีลักษณะกลมและตั้งตรง มีรากเก็บอาการลักษณะพองโต แยกเป็นง่าม เรานิยมเก็บรากมาใช้เป็นยาเมื่อโสมอายุ 4-6 ปีในช่วงฤดูหนาว
รากโสมเกาหลี – ตัวรากมีขนาดอ้วนและใหญ่ มีลักษณะอวบแตกเป็นแขนง 2 อัน ลักษณะคล้ายกับขาคน ทำให้ถูกเรียกว่า โสมคน โดยรากแก่ยาวประมาณ 8-20 เซนติเมตร คำว่า Ginseng เป็นภาษาจีนที่แปลว่า man-root หมายถึงรากไม้ที่มีลักษณะคล้ายคน มีหัวแขนและขา เปลือกรากเป็นสีเหลือง มีเนื้อนิ่ม เนื้อในรากเป็นสีขาว การเก็บรากโสมจะต้องเก็บในเดือนกุมภาพันธ์ก่อนการออกดอก ซึ่งเป็นช่วงที่โสมมีสารสำคัญอยู่มาก แล้วจะต้องทำให้แห้งโดยเร็วเพื่อป้องกันมิให้เอนไซม์ในรากโสมออกมาทำลาย Saponin.
ดอกโสมเกาหลี – เป็นช่อสีขาวที่ยอดต้นมีก้านดอกยาวชูออกมาจากยอด ก้านช่อดอกยาวประมาณ 30 เซนติเมตร ช่อหนึ่งมีดอกย่อยประมาณ 4-40 ดอก ดอกย่อยมีขนาดเล็ก มีสีเหลืองอ่อนอมสีเขียว กลีบดอกมีลักษณะเป็นรูปไข่ ส่วนกลีบเลี้ยงดอกเป็นสีเขียว มี 5 กลีบหุ้มอยู่ ก้านดอกย่อยยาว 5 มิลลิเมตร ใจกลางดอกมีเกสรเพศผู้ 5 อัน ส่วนเกสรเพศเมีย 1 อันแบบสั้น โดยออกดอกในเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน
ใบโสมเกาหลี – เป็นใบประกอบคล้ายรูปฝ่ามือ ลักษณะของใบเหมือนต้นนิ้วมือพระนารายณ์ มีขนาดบางกว่า โดยจะมีใบย่อยประมาณ 3-5 ใบ ออกเรียงตัวเป็นวงรอบลำต้น ออกเรียงตัวเป็นวงรอบลำต้น โสมมีอายุประมาณ 2-5 ปี มีใบย่อยประมาณ 5 ใบ ลักษณะใบย่อยเป็นรูปกลมรีปลายใบแหลม ใบหยักเป็นฟันเลื่อย มีขนาดกว้าง 2-6.5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 4-15 เซนติเมตร เส้นหน้าใบมีขนปกคลุมเล็กน้อย ส่วนหลังใบไม่มีขน ใบจะเพิ่มขึ้นปีละ 1 ใบ
ชนิดของโสมเกาหลี
รากโสมเป็นพืชที่ควบคุมของรัฐบาลเกาหลี เรานิยมนำมาใช้ทำเป็นโสมแดง โสมขาว ซึ่งรัฐบาลเกาหลีห้ามนำพันธุ์ออกนอกประเทศ แต่ในไทยเคยพบว่าเกิดได้ตามธรรมชาติเพียงแห่งเดียว ชนิดของโสมเกาหลีแบ่งออกเป็น
1.โสมขาว White Ginseng
การนำรากโสมที่ล้างสะอาดแล้ว มาตากแดดหรืออบให้แห้งทันที
2.โสมแดง Red Ginseng
การนำรากโสมที่ตัดเฉพาะส่วนมาล้างให้สะอาด ทำเป็นโสมที่ผ่านกรรมวิธีการอบ และฆ่าเชื้ออย่างถูกต้อง โดยการนำมาอบด้วยไอน้ำ 120-130 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 2-4 ชั่วโมงจนเป็นสีน้ำตาลแดง จากนั้นนำไปอบแห้งจะได้เป็นสีน้ำตาลแดงใส โดยในนั้นจะมีสารสำคัญที่ออกฤทธิ์เพิ่มอีก 4 ชนิด
โสมเกาหลีมีกี่ประเภท
1.รากโสม
จะเป็นรากที่บรรจุใส่กล่องเหล็กมีประมาณ 15 ตัว นิยมนำมาต้มโดยใส่ประมาณ 1-2 รากต่อน้ำ 3 แก้ว แล้วเคี่ยวด้วยไฟอ่อนประมาณ 2 ชั่วโมง ระวังอยาให้ตัวโสมใหม่พอโสมอ่อนตัวลง ก็สามารถนำมาใช้ประกอบอาหารได้
2.รากโสมผสมน้ำผึ้ง
รากโสมผสมน้ำผึ้งบรรจุในพลาสติก นำใส่กล่องเหล็ก วิธีใช้คือนำรากโสมมาหั่นบาง ๆ ประมาณ 2 มิลลิเมตร แล้วเคี่ยวทานได้ พยายามเคี้ยวทานอย่างสม่ำเสมอ สามารถนำมาใช้เป็นเครื่องดื่มได้
3.โสมที่เป็นไซรับ หรือคล้ายน้ำผึ้ง
โสมจะถูกนำมาบรรจุใส่ขวดแก้ว วิธีใช้คือใช้ช้อนตักโสมสกัดเพียง 1 ช้อนใส่ลงในน้ำร้อน 1 ถ้วยผสมน้ำผึ้งบริสุทธิ์ คนให้เข้ากันแล้วดื่มทาน ดื่มวันละประมาณ 2-3 ครั้ง ก็ช่วยบำรุงร่างกายได้อย่างดี
4.โสมผงเกาหลี
มีลักษณะเป็นสีขาว ที่ถูกบรรจุในขวดพลาสติกทึบ ใส่ในกล่องไม้อีกครั้ง วิธีใช้คือตักโสมผง 1 ช้อนลงในน้ำร้อนแล้วใส่น้ำตาลเพื่อปรับรสชาติให้นำทาน จะได้เครื่องดื่มที่ท่านชอบ สามารถทานได้วันละ 2-3 ครั้ง โสมผงยังใช้เป็นยาบำรุงผิวพรรณได้ด้วย เพียงหั่นแตงกวานำมาชับในส่วนผสมให้มาด ๆ พอกไว้ที่หน้าประมาณ 15-20 นาที ก็จะได้ผิวหน้าที่สดชื่นได้แล้ว
5.เม็ดโสม
โสมเม็ดถูกบรรจุในขวด ใส่กล่องกระดาษแข็งอีกครั้ง โสมสำหรับท่านที่ไม่ค่อยมีเวลา สามารถนำมาทานได้ทันที
สรรพคุณของโสมเกาหลี ประโยชน์
1.มีประโยชน์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง
ช่วยบำรุงประสาทและสมอง การเรียนรู้ เสริมความจำ แก้ความจำเสื่อม ลดภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุ ผ่อนคลายความเครียด เนื่องจากในโสมเกาหลีมีคุณสมบัติช่วยปรับสภาพร่างกายและจิตใจ โดยเร่งขบวนการเผาผลาญอาหารต่าง ๆ เพื่อปลดปล่อยพลังงานเพื่อต่อต้านความเครียด มีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง กระชุ่มกระชวย กระปรี้กระเปร่า สมองปลอดโปร่ง
2.ช่วยในการบำรุงร่างกาย
เป็นเหมือนยาบำรุงกำลังทำให้ร่างกายแข็งแรง ช่วยแก้อาการเหนื่อยหอบ อ่อนเพลียไม่มีเรี่ยวแรง กล้ามเนื้อมีความสามารถดีขึ้น เหมาะกับเป็นยาบำรุงกำลังในหมู่นักกีฬา
3.ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งบางชนิด
โดยทำหน้าที่เป็นสารต้านสารก่อมะเร็ง เป็นสารต้านพิษจากสภาวะแวดล้อม ในโสมจะช่วยยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง โสมยังช่วยยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งให้ทำหน้าที่ตามปกติ และช่วยชะลอพัฒนาการของโรคเอดส์ ป้องกันการกลายพันธุ์ของเซลล์ปกติไปเป็นเซลล์มะเร็งหรือเนื้องอก บริเวณกระเพาะอาหารและรังไข่
4.เป็นยาช่วยชะลอความแก่
ทำให้อายุยืนยาว ในการเผาผลาญไขมันเพื่อให้ร่างกายเกิดพลังงาน โดยอนุมูลอิสระที่สลายตัวจากออกซิเจนจะเป็นตัวทำลายเนื้อเยื่อของอวัยวะต่าง ๆ ให้เสื่อมสลายลง เป็นสาเหตุของความแก่ โดยโสมจะช่วยทำให้เนื้อเยื่อเสื่อมช้าลง และในโสมยังช่วยปรับสภาพร่างกายและจิตใจให้มีความทนทานต่อความกดดัน ช่วยลดขบวนการของความแก่ชราลงได้
5.ช่วยลดโรคเบาหวาน
ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดในคนไข้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง โสมจะช่วยทำให้ต่อมในตับอ่อนหลั่งอินซูลินออกมาควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น ช่วยป้องกันการเกิดอาการมึนชาตามนิ้วมือและการเกิดแผลเน่าเปื่อย
6.ช่วยลดความดันโลหิตสูง
โสมเกาหลีทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น เพราะมี Ginsenoside Rg1 ในขณะที่โสมอเมริกันจะทำให้ความดันโลหิตลดลง
7.ช่วยลดไขมันในการเผาผลาญไขมันให้เป็นพลังงาน
มีฤทธิ์ลดไขมันในเลือด การทานรากโสมในขนาดวันละ 2.5 กรัมเป็นเวลา 3 เดือน จะมีปริมาณของคอเลสเตอรอลในเลือดลดลง
วิธีเลือกซื้อ โสมเกาหลี
1.เลือกจากขนิดของโสมเกาหลี
- โสมขาว – เป็นโสมขาวที่มีคุณค่าทางโภชนาการ กรรมวิธีน้อยกว่าโสมชนิดอื่น ทำให้มีราคาถูก โสมขาวเป็นการนำโสมสดอายุ 4-6 ปีมาล้างทำความสะอาด แล้วนำไปอบแห้งและตากแดดจนได้รากสีขาว มีฤทธิ์เย็น มีความโดดเด่นด้วยลักษณะที่คล้ายกับตัวคน จึงเรียกกันว่า โสมคน มีสรรพคุณช่วยปรับสมดุล ฟื้นฟูระบบการทำงาน ให้อวัยวะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับคนทั่วไป โดยเฉพาะผู้ที่มีความดันโลหิตสูง
- โสมแดง – เป็นโสมที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยสารสำคัญที่ออกฤทธิ์เพิ่มขึ้นอีก 4 ชนิด มีคุณค่าทางโภชนาการที่เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันได้ดี มีราคาแพงกว่าโสมแบบอื่น ๆ โสมแดงก็หมายถึงโสมขาวที่นำไปอบฆ่าเชื้อ ด้วยกรรมวิธีการอบไอน้ำ 120-130 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 2-4 ชั่วโมงจนรากเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดง ซึ่งการเลือกทานโสมแดงที่มีอายุราก 6 ปีจะทำให้ได้ประโยชน์ที่มากขึ้น
- โสมตังกุยจับ – อุดมไปด้วยสารสำคัญเช่น ไลกับติไล กรดฟรูลิก โพลินแซ็กคาไรด์ ช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน ให้เป็นปกติ ช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนเซโรโทนิน ลดอาการร้อนวูบวาบในวัยทองได้
2.เลือกตามประเภทหรือรูปแบบ
- รูปแบบแคปซูลสกัด – เป็นการนำมาแปรรูปใส่แคปซูลโดยตรง มีให้เลือกหลายราคา ตามแต่คุณภาพของผลิตภัณฑ์ โสมแบบแคปซูลสามารถดูดซึมร่างกายได้อย่างรวดเร็ว ที่สำคัญก่อนเลือกซื้อแบบแคปซูลควรตรวจสอบเลขทะเบียน อย.ตลอดจนบรรจุภัณฑ์และปริมาณของสารสำคัญบนฉลากด้วยเสมอ
- รูปแบบแผ่น – แบบแผ่นจะนำไปใช้แปรรูปด้วยวิธีการต้ม หรือทำตำรับยา ประกอบอาหาร สามารถทานได้ในหลายรูปแบบ ควรเลือกซื้อโสมเกาหลีที่ได้มาตรฐานและมั่นใจว่าเป็นโสมจริง เพราะการกินโสมของปลอมอาจส่งผลต่อร่างกายได้นั่นเอง
3.เลือกโสมเกาหลีที่ให้ประโยชน์จากสมุนไพรเต็มที่
ควรเลือกที่มีให้ประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะเลือกจากส่วนผสมของสมุนไพรอย่างเห็ดหลินจือแดง ที่มีคุณค่าสารอาหารสูง ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน บำรุงร่างกายอย่างดี รวมถึงมีซิงค์ที่ช่วยในเรื่องของการส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น เพราะขึ้นชื่อว่าสมุนไพรยังไงก็ดีต่อสุขภาพร่างกายของเรา ดังนั้นการเลือกกินอาหารอะไรสักอย่างควรเลือกที่มาจากสมุนไพรจะเป็นประโยชน์ที่ดีต่อร่างกายเสมอ
วิธีกินโสมเกาหลี
สมุนไพรบำรุงร่างกายแต่ละชนิด จะมีข้อแนะนำในการรับประทานกำกับไว้ในตัวยาและสารอาหารบางอย่าง ร่างกายสามารถดูดซึมได้จำกัด เรามาดูถึงวิธีการกินโสมเกาหลีกัน
โสมเกาหลีมีส่วนผสมหลักที่มีทั้งแบบแคปซูล อาหารเสริม ชา กาแฟ เครื่องดื่มขวดพร้อมดื่ม บางคนอาจซื้อเป็นรากโสมเพื่อมาตุ๋น จากรูปแบบที่กล่าวมาสามารถเลือกทานโสมในรูปแบบใดก้ได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการทานร่วมกับเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และหลีกเลี่ยงการทานธาตุเหล็กในช่วงที่ทาน
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการกินโสมเกาหลี
เราสามารถทานโสมเกาหลีได้ทุกเวลา ไม่ทำให้กระเพาะอาหารระคายเคืองเหมือนยาบางชนิด ถ้าต้องการให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้เต็มที่ และส่งผลดีต่อร่างกาย ควรทานในช่วงที่ท้องว่าง เช่นก่อนรับประทานอาหารเช้า ช่วงระหว่างมื้ออาหาร ช่วงก่อนเข้านอน
ส่วนปริมาณโสมเกาหลีที่ควรทานอย่างเหมาะสม
สมุนไพรจีนต่างมีปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการทานในแต่ละวัน ในโสมเกาหลีเองก็มีปริมาณที่ควรได้รับในแต่ละวัน สำหรับผู้ใหญ่ปริมาณที่เหมาะสมคือ 2 กรัมต่อวัน ควรเริ่มทานในปริมาณน้อย ๆ ก่อน แล้วค่อยเพิ่มจนได้ปริมาณที่เพียงพอ
ข้อควรระวังในการกินโสมเกาหลี
- ควรระมัดระวังในการใช้กับผู้ป่วยที่เป็นความดันโลหิตสูง เบาหวาน ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด
- ผู้ที่มีไข้ตัวร้อน ห้ามรับประทานโสม นอกจากนี้โสมยังถูกห้ามใช้ในเด็กทารก เด็กเล็ก หญิงที่อยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตร และมีข้อมูลสตรีที่รับประทานโสมในขณะตั้งครรภ์เมื่อคลอดลูกอาจมีขนมากรวมถึงผู้ที่ตับอักเสบ พบเอนไซม์ของตับสูง หรือตับอักเสบจนตัวเหลือง ก็ไม่ควรทานโสม
- ห้ามกินโสมพร้อมกับวิตามินซี เพราะภายหลังการทานโสม ฤทธิ์ของโสมจะอยู่ได้นาน 1-2 เดือน ควรทาน 1 เดือน แล้วรออีก 2 เดือน ก่อนรับประทานใหม่อีกครั้ง
- ยาที่ไม่ควรรับประทานกับโสมเกาหลี ได้แก่ยาลดน้ำตาลในเลือด เพราะโสมมีฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือด การทานโสมสำหรับผู้ป่วยเบาหวานควรปรึกษาแพทย์ก่อนในการใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือดทำให้มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
- ควรหลีกเลี่ยงอาหารบางอย่าง โดยอย่ากินร่วมกัน โดยอาหารหมายถึง ผลไม้ที่มีความเป็นกรดสูง หรือน้ำผลไม้ที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่นน้ำมะนาว น้ำส้มคัน จะต้องกินหลังกินโสมไปแล้วอย่างน้อย 3 ชั่วโมง
- การใช้โสมเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ ซึมเศร้า ท้องเดิน เจ็บคัดเต้านม ผื่นคัน มีอาการบวม สวนผู้ที่ทานโสมเป็นเวลานานและทานในปริมาณที่มาก อาจเกิดกลุ่มอาการความดันโลหิตสูง มีอาการนอนไม่หลับ ท้องร่วง มีผื่น
- โสมเป็นของร้อน มีฤทธิ์อุ่น บางคนกินโสมแล้วเกิดอาการหงุดหงิด
สุขภาพดีวิถีจีน โสมเกาหลี
สรุป
ดังนั้นแล้ว การมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการกินโสมเกาหลีอย่างถูกวิธี จะช่วยดูแลสุขภาพองค์รวมให้แข็งแรงอย่างดี เพราะประโยชน์เค้าดีต่อระบบประสาทส่วนกลาง ช่วยในการบำรุงร่างกาย
ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งบางชนิด ยาช่วยชะลอความแก่ ลดโรคเบาหวาน ลดความดันโลหิตสูง ลดไขมันในการเผาผลาญไขมันให้เป็นพลังงาน ประโยชน์มากมายที่สมควรค่าแก่การกินโสมกาหลีเป็นประจำ ที่สำคัญควรเลือกกินโสมเกาหลีของแท้เท่านั้น ซึ่งปัจจุบันตามท้องตลาดมีทั้งแบบเม็ด แบบสด แบบซอง แบบผง แบบแผ่น แบบแคปซูล เพื่อประโยชน์องค์รวมคือบำรุงร่างกายเพื่อสุขภาพที่ดีได้ตลอดไป
อ้างอิง
Korean Ginseng – Uses, Side Effects, and More : WebMD Medical Team
เจ้าของร้านขายยาโดยเภสัชกรชั้นนำหลายสาขา ขายดีจ่ายยาแล้วคนไข้หายจนเป็นที่ยอมรับ การศึกษาปริญญาตรีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโทจากประเทศออสเตรเลีย มีความรู้ และประสบการณ์เกี่ยวกับ สุขภาพ อาหารเสริม ตลอดจนอุปกรณ์ทางการแพทย์ ประสบการณ์ยาวนานมากกว่า 10 ปี
โสมเกาหลี Giffarine
-ช่วยปรับสมดุลของร่างกาย ป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด
-ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันและการทำงานของระบบสมอง
โสมเกาหลี Biocap
-ช่วยลดระดับความดันหรือน้ำตาลในเลือด
-ช่วยบำรุงสุขภาพ บำรุงสมองและความจำ
โสมเกาหลี Ava
-ช่วยปรับสมดุลให้กับร่างกาย ทานง่าย ไม่เกิดการร้อนใน
-เหมาะกับผู้เริ่มทานเพราะผสมใบแปะก๊วยและเห็ดหลินจือ
โสมเกาหลี Mega We Care
-โสมเกาหลีสกัดเข้มข้นกับวิตามินเกลือแร่ 20 ชนิด
-เสริมสมรรถภาพทางร่างกาย บำรุงกำลัง กระปรี่กระเปร่า
โสมเกาหลี Piping Rock
-ช่วยบำรุงกำลัง บำรุงหัวใจ และลดความเคลียด
-ช่วยให้หลับสบาย เนื่องจากช่วยกระตุ้นสารเซโรโทนิน
โสมเกาหลี G2X
-สารสกัดเข้มข้นมีส่วนผสมของวิตามินบี6และแร่ธาตุ
-รูปแบบซอฟต์เจลช่วยให่ร่างกายดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว
โสมเกาหลี Ilhwa
-ผลิตจากรากโสมเกาหลี เกรด A อายุ 6 ปี
-ช่วยในการฟื้นตัวหลังอาการบาดเจ็บ เก็บรักษาได้นาน 4 ปี
โสมเกาหลี Hi-Balanz(ไฮบาลานซ์)
-ช่วยบำรุงหัวใจ ลดอุดตันของหลอดเลือด
-ช่วยป้องกันการเกิดพิษต่อตับอันเกิดจากคลอโรฟอร์ม
โสมเกาหลี Paulena
-ช่วยบรรเทาอาการอักเสบของเอ็นและข้อต่างไของร่างกาย
-ป้องกันการหย่อนสมรรถภาพทางเพศให้กลับมาแข็งแรง
โสมเกาหลี THP
-ช่วยแก้หัวใจเต้นผิดปกติหรือหายใจผิดปกติ
-ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงในกระดูกและรักษาโรคเบาหวาน