10 เจลล้างมือ ยี่ห้อไหนดี 2024 มีกลิ่นหอม มือสะอาด ผิวไม่แห้งตึง

วิธีการป้องกันตัวเองจากโควิด-19

1. สวมหน้ากากอนามัย

ก่อนออกจากบ้านควรสวมหน้ากากอนามัย จะเป็นหน้ากากผ้า แมส หรือ face shield ก็ได้ โดยให้สวมตลอดเวลา โดยเฉพาะเวลาที่อยู่ในสถานที่แออัด ถ้าหากไม่จำเป็นก็ไม่ควรถอดหน้ากากออก เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายได้รับเชื้อโควิด-19 และถ้าจะให้ดีควรพกหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าสำรองไว้ด้วย เพื่อป้องกันการชำรุดหรือเหตุที่ทำให้หน้ากากใช้งานต่อไม่ได้

2. หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด

การอยู่ในสถานที่ที่มีความแออัด หรือเต็มไปด้วยผู้คน จะเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อโควิด-19 มากขึ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวจะต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ การอยู่ในพื้นที่คับแคบและเต็มไปด้วยผู้คนจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ดังนั้นควรจะหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด ไม่ว่าจะเป็นตลาด ร้านอาหาร คาเฟ่ สถานบันเทิง คลับ บาร์ และอื่นๆ

3. ทานอาหารปรุงสุก

การทานอาหารปรุงสุกจะช่วยลดโอกาสที่จะติดเชื้อโควิด-19 ได้ โดยเฉพาะอาหารปรุงสุกใหม่ๆ เสมือนเป็นการฆ่าเชื้อไปในตัว หากทานอาหารดิบหรือกึ่งสุกกึ่งดิบก็จะเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อโควิด-19 มากขึ้น เนื่องจากอาหารที่ไม่ได้ผ่านการปรุงสุกนั้นจะติดเชื้อได้ง่าย ต่างจากอาหารปรุงสุกที่ผ่านความร้อน ซึ่งจะฆ่าเชื้อได้ดีกว่า รวมไปถึงการเลือกทาน กระชายขาวสกัด หรือน้ำกระชาย จะช่วยทำให้ชุ่มคอ ช่วยป้องกันโควิด-19 ได้ดี

4. หมั่นสังเกตอาการ

การสังเกตอาการของตนเองอยู่เป็นประจำก็ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากเช่นเดียวกัน หากรู้สึกว่าร่างกายมีอาการผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นอาการไข้ หวัด ไอ เจ็บคอ หอบเหนื่อย หรืออาการอื่นๆ ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 แนะนำให้ไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจว่าติดเชื้อหรือไม่ หรือถ้าหากไม่สะดวกก็สามารถใช้ชุดตรวจโควิด-19 ตรวจดูได้ หรือซื้อ เครื่องวัดอุณหภูมิ , ปรอทวัดไข้ดิจิตอล , สเปรย์แก้เจ็บคอ มาติดบ้านไว้ก็ได้

5. ล้างมืออย่างสม่ำเสมอ

โควิด-19 ไม่ได้ติดต่อจากคนได้เท่านั้น แต่สามารถติดเชื้อจากการสัมผัสสิ่งของที่มีเชื้อโควิด-19 เกาะอยู่ได้ด้วย แนะนำให้ล้างมืออย่างสม่ำเสมอ อาจใช้น้ำสะอาดหรือ สบู่เหลวล้างมือ , เจลว่านหางจระเข้ มาล้างก็ได้ ในกรณีที่ล้างด้วยสบู่และน้ำสะอาด ควรฟอกสบู่อย่างน้อย 20 วินาที และถ้าหากล้างมือด้วยเจลก็ควรเลือก แอลกอฮอล์ ที่มีความเข้มข้น 70% ขึ้นไป หรืออาจจะพก ถุงมือยาง ใส่ก่อนหยิบจับสิ่งของก็ได้

เจลล้างมือคืออะไร

เจลล้างมือ เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือที่ออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ง่าย ไม่ต้องพึ่งน้ำในการทำความสะอาด ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์และเชื้อโรคต่างๆ ส่วนประกอบสำคัญของน้ำยาล้างมือแบบเจลแต่ละชนิดจะแตกต่างกัน

หากมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ก็จะมีทั้งแบบเอทานอล โพรพานอล ไอโซโพรพานอล และเบนซาลโคเนียมคลอไรด์ อีกทั้งยังมีส่วนผสมอื่นๆ เป็นส่วนประกอบด้วย ส่วนใหญ่จะพบว่าน้ำยาล้างมือแบบเจลจะมีกลิ่นหอมหรือพวกกลีเซอรีนต่างๆ

อย่างไรก็ตามน้ำยาล้างมือแบบเจลนั้นก็ไม่ได้มีเพียงแค่ชนิดเดียว โดยเจลล้างมือชนิดที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ก็มีอยู่เช่นกัน ซึ่งจุดประสงค์ก็ผลิตขึ้นเพื่อใช้ทำความสะอาดมือเช่นเดียวกัน

แต่ทว่าน้ำยาล้างมือแบบเจลที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์นั้นจะได้รับความนิยมมากกว่า เพราะสามารถฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ได้ โดยเฉพาะในปัจจุบันที่เต็มไปด้วยเชื้อโรคต่างๆ มากมาย การล้างมือให้สะอาดอยู่เป็นประจำจึงเป็นเรื่องที่ควรปฏิบัติอย่างมาก เพราะจะช่วยฆ่าเชื้อต่างๆ ได้ดี  

ประโยชน์ของเจลล้างมือ

1. ช่วยทำความสะอาดมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ

น้ำยาล้างมือแบบเจลถูกผลิตมาให้ผู้คนสามารถทำความสะอาดมือได้ง่ายขึ้น ซึ่งสามารถใช้แทนสบู่และน้ำสะอาดได้ โดยเฉพาะในกรณีที่อยู่ในสถานที่ที่ไม่มีอ่างล้างมือและน้ำสะอาด น้ำยาล้างมือแบบเจลจะมีความสำคัญอย่างมาก ซึ่งส่วนผสมของน้ำยาล้างมือแบบเจลหลายยี่ห้อนั้นก็มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดอยู่พอสมควร

2. ล้างมือได้ง่ายและพกพาได้สะดวก

ในปัจจุบันจะเห็นว่าเจลล้างมือถูกออกแบบมาให้ผู้คนสามารถพกพาได้สะดวกมากขึ้น ทำให้การล้างมือเป็นเรื่องที่ง่ายและประหยัดเวลาได้มาก เพราะเพียงแค่บีบเจลและถูวนให้ทั่วมือก็ถือเป็นการทำความสะอาดแล้ว ซึ่งไม่จำเป็นต้องล้างออก และด้วยขนาดที่ไม่ใหญ่มากจึงทำให้พกพาได้อย่างสะดวก

3. ป้องกันและยับยั้งเชื้อโรคต่างๆ ได้

น้ำยาล้างมือแบบเจลที่มีความเข้มข้นของเอทานอลอย่างน้อย 60% จะมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียได้เป็นส่วนใหญ่ และเจลสำหรับล้างมือแบบแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้น 70% ขึ้นไปจะช่วยป้องกันและยับยั้งเชื้อโรคต่างๆ ได้ด้วย ซึ่งมีประสิทธิภาพดีกว่าผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทั่วไป เพราะฉะนั้นเจลสำหรับล้างมือจึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ควรค่าแก่การพกพาอย่างมาก

4. ป้องกันไม่ให้ผิวมือแห้งกร้าน

เจลสำหรับล้างมือหลายยี่ห้อจะมีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว อีกทั้งยังไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองด้วย ซึ่งคุณสมบัตินี้จะทำให้ผิวมือไม่แห้งกร้าน เมื่อใช้แล้วจะรู้สึกถึงความสะอาดและความชุ่มชื้น เพราะเจลสำหรับล้างมือมีสารที่ช่วยมอบความชุ่มชื้นให้แก่ผิวมือผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้

5. ทำความสะอาดมือได้อย่างรวดเร็ว

การใช้เจลสำหรับล้างมือทำความสะอาดนั้นง่ายมากกว่าการล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาดมากพอสมควรใช้เวลาเพียงแค่ 20-30 วินาที/ครั้ง เพราะไม่ได้มีขั้นตอนที่ซับซ้อนอะไร เพียงแค่บีบเจลสำหรับล้างมือและถูวนให้ทั่วมือก็ถือเป็นการทำความสะอาดและขจัดเชื้อโรคแล้ว

วิธีการล้างมือที่ถูกต้อง

• กดเจลล้างมือหรือสบู่ลงบนฝ่ามือ จากนั้นใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างถูฝ่ามือพร้อมๆ กัน โดยให้แบมือแล้วถูฝ่ามือด้านในทั้งสองข้างไปมา และต้องถูฝ่ามือในลักษณะหมุนเป็นวงกลม เพื่อให้สามารถทำความสะอาดส่วนที่เป็นฝ่ามือได้อย่างทั่วถึง
• ขั้นตอนต่อมาให้ใช้ฝ่ามือถูหลังมือและใช้นิ้วถูซอกนิ้ว โดยให้นำมือข้างใดข้างหนึ่งมาวางซ้อนทับอีกข้าง และนิ้วแต่ละนิ้วจะต้องอยู่ระหว่างกัน จากนั้นเริ่มถูขึ้นลงบริเวณด้านหลังมือและซอกนิ้ว โดยให้ทำสลับกันกับอีกข้างจนสะอาด
• ประกบฝ่ามือถูซอกนิ้ว โดยใช้ฝ่ามือของทั้งสองข้างมาประสานกันในลักษณะที่แต่ละนิ้วคั่นกัน จากนั้นทำความสะอาดโดยวิธีการถูขึ้นลง เสร็จแล้วให้ใช้หลังนิ้วมือมาถูฝ่ามือ โดยงอนิ้วมือทั้งสองข้างและเกี่ยวเข้ากับมืออีกข้าง และปลายนิ้วของทั้งสองมือจะต้องสัมผัสกับฝ่ามือของแต่ละข้าง ถูไปมาจนรู้สึกว่ามือมีความสะอาดมากพอ
• ขั้นตอนถัดมาถูนิ้วหัวแม่มือ โดยให้กางนิ้วหัวแม่โป้งก่อน จากนั้นใช้ฝ่ามืออีกข้างหุ้มนิ้วหัวแม่มือไว้ ถูขึ้นลงไปมาจนรู้สึกว่านิ้วทั้งสองข้างสะอาดแล้ว ต่อมาให้ถูปลายนิ้วด้วยฝ่ามือ โดยแบมือข้างหนึ่งและใช้ปลายนิ้วมืออีกข้างมาถูบริเวณฝ่ามือในลักษณะหมุนตามเข็มนาฬิกา ขั้นตอนสุดท้ายให้ถูแบบหมุนทวนเข็มนาฬิกาและสลับข้างทำในแบบเดียวกัน

วิธีการเลือกซื้อเจลล้างมือ

1. เลือกประเภทของเจลสำหรับล้างมือ

เจลสำหรับล้างมือมีทั้งแบบมีแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์ ซึ่งส่วนใหญ่จะนิยมใช้เจลสำหรับล้างมือที่มีแอลกอฮอล์มากกว่า โดยเฉพาะในปัจจุบันมีผู้คนพกพาเจลสำหรับล้างมือแบบเอทิลแอลกอฮอล์ค่อนข้างเยอะ เพราะสามารถฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ได้ อีกทั้งยังทำความสะอาดมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนเจลสำหรับล้างมือแบบไม่มีแอลกอฮอล์นั้นก็สามารถใช้ทำความสะอาดมือได้เช่นกัน แต่ไม่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้

2. เลือกขนาดของเจลสำหรับล้างมือ

ขนาดของเจลสำหรับล้างมือก็เป็นสิ่งที่ควรพิจารณา โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่โลกเต็มไปด้วยเชื้อโรค จึงจำเป็นจะต้องพกพาเจลสำหรับล้างมือไปด้วยทุกที่ หากคุณต้องการเจลสำหรับล้างมือที่เอาไว้ใช้ในบ้านก็อาจเลือกขนาดใหญ่ แต่ถ้าต้องการจะพกพาเจลสำหรับล้างมือไว้ในกระเป๋าเพื่อเดินทางไปข้างนอก แนะนำให้เลือกบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็กที่สามารถพกพาได้ง่าย

3. เลือกเจลล้างมือที่มีกลิ่นหอม

เจลสำหรับล้างมือที่มีกลิ่นหอมมักจะมีส่วนผสมของน้ำหอม ซึ่งจะมีคุณสมบัติช่วยทำความสะอาดและมอบกลิ่นหอมให้ในเวลาเดียวกัน บางกลิ่นก็สามารถทำให้เรารู้สึกสดชื่นขึ้นได้ ดังนั้นหากใครต้องการเจลสำหรับล้างมือที่ใช้แล้วทำให้รู้สึกสดชื่นและสะอาดก็ควรเลือกเจลสำหรับล้างมือที่มีกลิ่นหอมตามความชอบ ทั้งนี้เจลสำหรับล้างมือที่มีกลิ่นหอมก็มักจะมีส่วนผสมของน้ำหอม ซึ่งอาจทำให้บางคนมีอาการแพ้ได้

4. เลือกเจลสำหรับล้างมือที่ใช้แล้วมือไม่แห้ง

สภาพผิวของคนเราแตกต่างกัน สำหรับบางคนอาจมีภาวะผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่ายมากกว่าคนปกติ ซึ่งการล้างมือบ่อยๆ ด้วยเจลสำหรับล้างมือนั้นก็อาจทำให้ผิวแห้งมากกว่าเดิมได้ เพราะฉะนั้นควรเลือกเจลสำหรับล้างมือสูตรที่ใช้แล้วมือไม่แห้ง จะช่วยป้องกันไม่ให้สภาพผิวแพ้ง่ายหรือผิวแห้งได้รับผลกระทบไปมากกว่าเดิม

5. เลือกเจลล้างมือสูตรอ่อนโยน ผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้

การเลือกเจลสำหรับล้างมือสูตรอ่อนโยนจะช่วยลดการระคายเคืองได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่าย การใช้เจลสำหรับล้างมือจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ควรเลือกเจลสำหรับล้างมือที่ปราศจากน้ำหอมหรือส่วนผสมที่เป็นอันตราย สำหรับใครที่ชอบพกพาเจลสำหรับล้างมือแบบเอทิลแอลกอฮอล์ไว้ใช้งานก็ต้องดูให้ดีว่าแอลกอฮอล์จะทำร้ายผิวมือหรือไม่

ข้อควรระวังการใช้เจลล้างมือ

1. การใช้เจลสำหรับล้างมือกับเด็กทารก

เจลสำหรับล้างมือมีคุณสมบัติในการช่วยทำความสะอาดมือ ซึ่งแต่ละชนิดก็จะมีส่วนผสมที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตามไม่แนะนำให้ใช้เจลสำหรับล้างมือกับเด็กทารก เพราะผิวของเด็กทารกเป็นผิวแพ้ง่ายและบอบบางเป็นพิเศษ ซึ่งจะทำให้เกิดการระคายเคืองได้ โดยเฉพาะเจลสำหรับล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ก็ควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด

2. การใช้เจลสำหรับล้างมือในบริเวณที่มีบาดแผล

ในกรณีที่มีบาดแผลบริเวณมือ แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้เจลสำหรับล้างมือทำความสะอาดในบริเวณนั้น เพราะอาจก่อให้เกิดการอักเสบและระคายเคืองมากกว่าเดิม อีกทั้งยังสามารถทำให้รู้สึกแสบและเจ็บปวดได้ หากจะทำความสะอาดมือควรใช้วิธีอื่น หรือเลือกเจลสำหรับล้างมือสูตรอ่อนโยนต่อผิวเป็นพิเศษ

3. การใช้เจลสำหรับล้างมือที่มีแอลกอฮอล์

ในปัจจุบันเจลล้างมือมักจะมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ค่อนข้างมาก เพื่อให้ผู้คนสามารถกำจัดเชื้อโรคต่างๆ ได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น ซึ่งแอลกอฮอล์นั้นเป็นสารไวไฟ นั่นหมายความว่าแอลกอฮอล์สามารถติดไฟได้ง่าย ดังนั้นหากใช้เจลแอลกอฮอล์ในการล้างมือควรจะรอให้แห้งก่อนที่จะใช้มือสัมผัสสิ่งที่อาจก่อให้เกิดเปลวไฟได้

4. การใช้เจลสำหรับล้างมือหลังการทำกิจกรรมต่างๆ

ในกรณีที่ทำกิจกรรมที่ต้องออกแรง ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกีฬา การทำอาหาร การทำสวน หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่มือมีความสกปรกและความชื้นสูง การทำความสะอาดด้วยเจลสำหรับล้างมืออาจไม่เหมาะนัก เพราะมือที่เต็มไปด้วยสิ่งสกปรกหรืออยู่ในสภาพที่มีความชื้นจำเป็นต้องใช้น้ำสะอาดและสบู่ในการล้าง หากใช้เจลสำหรับล้างมืออาจไม่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้

5. ปริมาณของการใช้เจลสำหรับล้างมือ

การใช้เจลสำหรับล้างมือทำความสะอาดมือควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ควรใช้ปริมาณมากหรือน้อยเกินไป หากใช้มากเกินไปก็อาจทำให้ซึมและแห้งได้ยาก และถ้าหากใช้น้อยเกินไปก็อาจทำให้มือไม่สะอาดมากพอ อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายขึ้นด้วย เพราะปริมาณของเจลสำหรับล้างมือที่ใช้ไม่เพียงพอต่อการฆ่าเชื้อ

คำถามที่พบบ่อยสำหรับเจลล้างมือ

1. เช็คเลข อย เจลสำหรับล้างมือยังไง

ขั้นตอนแรกให้เข้าไปที่ Google และค้นหาเว็บไซต์ของ อย. เมื่อเข้าสู่เว็บไซต์ของ อย. แล้ว พิมพ์เลขทะเบียนยาหรือเลขที่จดแจ้งลงในช่องค้นหา จากนั้นกดค้นหาแล้วเลื่อนลงมาด้านล่างก็จะพบข้อมูลของผลิตภัณฑ์ โดยให้สังเกตว่าสถานะยังคงอยู่หรือไม่ และข้อมูลต่างๆ ตรงกับรายละเอียดที่ระบุไว้บนผลิตภัณฑ์หรือเปล่า

2. เจลล้างมือหมดอายุใช้ได้มั้ย

ไม่ว่าจะเป็นเจลสำหรับล้างมือหรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดประเภทใดก็ตามเมื่อหมดอายุแล้วก็ไม่ควรนำมาใช้ ถึงแม้จะเห็นว่ายังมีสภาพดีอยู่ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าผลิตภัณฑ์นั้นจะยังสามารถใช้งานได้ โดยเฉพาะเจลสำหรับล้างมือในรูปแบบแอลกอฮอล์ เมื่อหมดอายุแล้วก็จะส่งผลให้ประสิทธิภาพลดลงตามไปด้วย

3. เจลสำหรับล้างมือไว้ในรถได้มั้ย

จริงๆ แล้วเจลสำหรับล้างมือแบบแอลกอฮอล์นั้นสามารถระเหยในรถได้ แต่จะไม่ติดไฟ นอกเสียจากจะอยู่ใกล้ประกายไฟ และเจลสำหรับล้างมือแบบพกพาส่วนมากก็มีขนาดเล็กด้วย โอกาสที่จะระเบิดหรือเกิดเปลวไฟจึงมีค่อนข้างน้อย อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญไม่แนะนำให้เก็บเจลสำหรับล้างมือหรือเจลแอลกอฮอล์ไว้ในรถ เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อลดลงได้

4. เก็บรักษาเจลสำหรับล้างมืออย่างไร

การเก็บรักษาเจลสำหรับล้างมือให้ยังคงมีประสิทธิภาพและลดโอกาสในการเสื่อมภาพนั้น ผู้ใช้ต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้เจลสำหรับล้างมือโดนแสงแดดหรือความร้อนเพราะจะทำให้เจลสำหรับล้างมืออย่างแอลกอฮอล์เกิดการระเหยได้ ควรเก็บไว้ให้ห่างจากเปลวไฟ รวมถึงห่างจากมือของเด็กๆ ด้วย เพื่อลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุที่ไม่อาจคาดคิดได้

รีวิว เจลล้างมือ

สรุป

การล้างมือบ่อยๆ จะช่วยป้องกันโรคภัยที่จะเข้าสู่ร่างกายของเราได้ แต่ในบางสถานการณ์เราไม่สามารถหาน้ำสะอาดและสบู่มาล้างมือได้ การพกพาเจลล้างมือจึงมีความจำเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่สภาพแวดล้อมนั้นเต็มไปด้วยสิ่งสกปรกและเชื้อโรคต่างๆ การมีเจลสำหรับล้างมือจะช่วยให้การทำความสะอาดมือนั้นง่ายขึ้น ซึ่งเจลสำหรับล้างมือนั้นถูกผลิตออกมาหลายรูปแบบเพื่อตอบสนองการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนั้นผู้ใช้ควรเลือกเจลล้างมือให้เหมาะสมต่อการใช้งานแต่ละประเภทด้วย

อ้างอิง

เจลล้างมือแบบไหนฆ่าเชื้อโรคได้ : โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต

5 วิธี ใช้เจลแอลกอฮอล์อย่างไร? ให้ช่วยป้องกันโควิด-19 : โรงพยาบาลบางปะกอก 3

ดูแลบทความโดย วีระยุทธ

เจ้าของร้านขายยาโดยเภสัชกรชั้นนำหลายสาขา ขายดีจ่ายยาแล้วคนไข้หายจนเป็นที่ยอมรับ การศึกษาปริญญาตรีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโทจากประเทศออสเตรเลีย มีความรู้ และประสบการณ์เกี่ยวกับ สุขภาพ อาหารเสริม ตลอดจนอุปกรณ์ทางการแพทย์ ประสบการณ์ยาวนานมากกว่า 10 ปี

• Facebook
• X
• Line