ระดับความเข้มของกาแฟ
หากคุณไม่ใช่คอกาแฟ ก็อาจมีคำถามขึ้นมาในหัวว่า แล้วการคั่วแต่ละระดับของกาแฟต่างกันอย่างไร ซึ่งคำตอบคือการคั่วแต่ละระดับจะส่งผลต่อรสชาติของกาแฟที่ต่างกันไป แต่ไม่ใช่เพียงระดับการคั่วของเมล็ดกาแฟที่ทำให้แต่ละแก้วมีรสชาติต่างกัน
แต่รสชาติที่ต่างกันยังรวมถึงสายพันธุ์เมล็ดกาแฟที่นำมาใช้ด้วย อย่าง กาแฟขี้ชะมด ที่ถือว่าเป็นการได้ลิ้มรสชาติของสุดยอดกาแฟ ดังนั้นเพื่อให้เราสามารถคงความหอม และสั่งรสชาติกาแฟที่ถูกคอเราได้ เรามาทำความรู้จักกับระดับการคั่วกาแฟกัน
1.เมล็ดกาแฟคั่วอ่อน
เมล็ดกาแฟคั่วอ่อนมักจะมีรสชาติเปรี้ยว High Acidity ทำให้รู้สึกสดชื่น เหมาะกับการชงด้วยวิธีการ drip ดื่มเป็นกาแฟดำเพื่อลิ้มรสความเป็นเอกลักษณ์ของเมล็ดนั้น ๆ อย่างชัดเจน ซึ่งเอกลักษณ์เฉพาะของ เมล็ดกาแฟ นั้นอาจมีความคล้ายกับรสชาติของผลไม้ ซึ่งเราพบเจอได้ในกาแฟจากทวีปแอฟริกาอย่างเอธิโอเปีย หรือเมล็ดกาแฟแถบภาคเหนือของไทย
เมล็ดกาแฟคั่วอ่อนเป็นการคั่วที่เก็บความเป็นธรรมชาติของเมล็ดกาแฟได้สูงสุด เมล็ดกาแฟคั่วอ่อนจะมีสีน้ำตาลอ่อนและมีความแห้งเนื่องจากยังไม่มีน้ำมันออกมาเคลือบผิวเมล็ดกาแฟเหมือนการคั่วเข้ม บางครั้งอาจเห็นเศษเปลือกของกาแฟหลงเหลืออยู่บ้าง
2.เมล็ดกาแฟคั่วกลาง
รสชาติที่ได้จากกาแฟคั่วกลางจะโดดเด่นที่ความสมดุลของรสชาติ เป็นเมล็ดที่มีทั้งความเปรี้ยวและคงความหอม หวานอย่างพอดีกัน ไม่ขมจนเกินไป การคั่วกลางจะคงเอกลักษณ์ของเมล็ดกาแฟนั้น ๆไว้ได้เหมือนการคั่วอ่อน แต่จะเป็นในระดับที่เข้มกว่าการคั่วอ่อนประมาณหนึ่ง
เมล็ดคั่วกลางถือว่าเป็นเมล็ดยอดนิยมสำหรับกาแฟสมัยใหม่ เป็นเมล็ดกาแฟที่คั่วให้มีรสชาติกลาง ๆ มีความหวานและเปรี้ยวในลักษณะพอดีกัน ไม่ขมเกินไปจึงทำให้สามารถนำไปทำได้หลากหลายเมนู เช่น คาปูชิโน่ มอคค่า หรือ ลาเต้ใส่ นมข้นหวาน รวมตัวกันแล้วเทใส่ใน แก้วเยติ ได้กาแฟรสชาติดี เย็นชื่นใจ โดยกาแฟที่ได้จะมีสีน้ำตาลที่เข้มกว่าระดับคั่วอ่อนในระดับหนึ่ง ผิวหน้าของกาแฟจะมีความแห้งน้อยกว่าระดับคั่วอ่อน
3.เมล็ดกาแฟคั่วเข้ม
เมล็ดกาแฟ คั่วเข้มจะมีความหวานและขมมากที่สุด แทบไม่เหลือความเปรี้ยวอยู่ จะมีกลิ่นเข้มออกแนวช็อกโกแลต หรือถั่ว อาจมีกลิ่นควันและมีความเข้มสูง ทำให้กาแฟระดับคั่วเข็มเหมาะสำหรับการทำกาแฟเย็น หรือ กาแฟนม กลิ่นและรสชาติของกาแฟจะชัดไม่โดนรสชาติของนม หรือ น้ำตาลทราย กลบจนเกินไป ซึ่งเมล็ดกาแฟชนิดนี้จะนิยมทำเป็นเอสเพรสโซ่หรืออเมริกาโน่
เมล็ดกาแฟคั่วเข้มถือว่าเป็นระดับการคั่วยอดนิยม ร้านกาแฟทั่วไปมักจะใช้เมล็ดระดับคั่วเข้มกัน จะมีสีน้ำตาลเข้มไล่จนถึงเกือบเป็นสีดำอาจมีความชื้นจากน้ำมันที่เคลือบอยู่รอบ ๆ เมล็ดที่เกิดจากน้ำมันที่คั่วในเวลานาน
กาแฟดริป คืออะไร
ดริปกาแฟ มีชื่อจริง ๆ ว่าการชงแบบ Pour-Over หรือ Filter Brewer คือ กาแฟที่ถูกชงด้วยวิธีการปล่อยให้น้ำไหลผ่านผงกาแฟที่อยู่บนตัวกรอง และ น้ำจะสกัดเอารสชาติไหลตามออกมา โดยน้ำกาแฟที่สกัดได้มีรสชาติที่แตกต่างกัน และคงความหอม รวมถึงขนาดของกาแฟที่บดได้ ทั้งปริมาณน้ำ อุณหภูมิน้ำ รูปแบบ ระยะเวลาในการเทน้ำ ซึ่งลักษณะเด่นของการชงกาแฟดริปคือ กลิ่น Aroma, รสชาติ Taste, เมล็ดกาแฟนั้น ๆ ค่อนข้างชัดกว่าการชงในรูปแบบ Espresso machine นั่นเอง.
อุปกรณ์ดริปกาแฟมีอะไรบ้าง
อุปกรณ์สำหรับดริปกาแฟ เป็นอุปกรณ์ร้านกาแฟที่สำคัญที่ต้องมีไว้และมีให้เลือกหลายแบบ ใช้อุปกรณ์มากมายนับไม่ถ้วน จริงแล้วคุณไม่จำเป็นต้อมมีหมดทุกอุปกรณ์ เพียงแค่เริ่มต้นด้วยอุปกรณ์ 2 เครื่องดริปกาแฟและกระดาษกรองกาแฟ จากนั้นค่อยซื้ออุปกรณ์อื่น ๆ ตามทีหลัง
วันนี้มาดูกันว่าอุปกรณ์พื้นฐานที่จำเป็นต้องมีสำหรับการชง กาแฟดริป มีอะไรบ้าง
1.เครื่องชงกาแฟดริป และเครื่องบดกาแฟดริป
การบดกาแฟ เป็นปัจจัยที่สำคัญที่ส่งผลต่อรสชาติของกาแฟ เพราะการบดเมล็ดกาแฟเป็นขนาดต่าง ๆ จะส่งผลต่อพื้นผิวสัมผัสของกาแฟที่ผ่านน้ำ ทำให้รสชาติที่ออกมาต่างกัน โดยเครื่องบดกาแฟมีทั้งแบบมือหมุนและแบบไฟฟ้า แบบอัตโนมัติ
2.โถดริปกาแฟ
โถดริปกาแฟ หรือโถแก้วเป็นอุปกรณ์ดริปกาแฟที่ถูกวางไว้ด้านล่างของดริปเปอร์ เพื่อรองรับน้ำกาแฟที่จะไหลผ่านดริปเปอร์ลงมา ควรเลือกรูปแบบเหยือกเพื่อให้เทกาแฟใส่แล้วได้ง่ายขึ้น
3.กรวยดริป หรือ ดริปเปอร์
ขึ้นชื่อว่าการดริปกาแฟแล้ว กรวยดริปหรือดริปเปอร์จึงเป็นอุปกรณ์สำคัญในการดริปกาแฟที่ขาดไม่ได้ โดยดริปเปอร์แบ่งเป็น 4 แบบตามลักษณะได้แก่ ทรงถ้วย ทรงกรวย ทรงกรวยตัด และ ทรงโอริกามิ
ซึ่งรูปทรงของดริปเปอร์ส่งผลถึงกระดาษกรองที่ต่างกันไป โดยดริปเปอร์ผลิตจากวัสดุได้หลายประเภท เช่น เซรามิก แก้ว สแตนเลส หรือ เซรามิก ส่งผลถึงการกักเก็บความร้อนที่ส่งผลถึงรสชาตินั่นเอง
4.ที่กรองกาแฟ
กระดาษกรองกาแฟ หรือ กระดาษฟิลเตอร เป็นอุปกรณ์ดริปกาแฟที่ต้องคำนึงถึงความหนาและคุณภาพของกระดาษกรอง มีทั้งแบบฟอกขาวและไม่ฟอกขาว ซึ่งมีลักษณะเป็นกระดาษสีน้ำตาล แตกต่างกันที่กระดาษกรองไม่ฟอกขาวเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า และยังช่วยคงความหอมของกาแฟอีกด้วย ไม่ต้องใช้สารเคมีฟอกสี หากใช้กระดาษสีขาวจึงควรเทน้ำล้างกระดาษก่อนชง
5.ตราชั่ง
หากคุณต้องการผลลัพธ์ที่ดี ตราชั่งมีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะตราชั่งคืออุปกรณ์ที่จำเป็ฯในการดริปกาแฟ คุณสามารถใช้ตราชั่งดิจิทัลสักเครื่องมาชั่งน้ำหนักกาแฟและน้ำ เพราะการที่เรารู้ปริมาณที่แน่นอนในการชงกาแฟจะทำให้คุณทำตามสูตรเดิมได้ หรือปรับเปลี่ยนให้ได้รสชาติที่ตรงความชอบของคุณได้
6.กาดริป
ปัจจัยที่สำคัญคือความสม่ำเสมอ กาดริปจึงถูกออกแบบมาเพื่อรักษาอุณหภูมิน้ำให้คงที่ ทำให้สกัดกาแฟได้อย่งสม่ำเสมอ และการออกแบบส่วนของพวยกาคอที่ยาวและผอมนั้น จะช่วยควบคุมการไหลของน้ำ เพราะกาที่มีพวยกาสั้นนั้นจะทำให้น้ำไหลทะลักมาอย่างรวดเร็วเกิน
7.เทอร์โมมิเตอร์
อุณหภูมิน้ำเป็นปัจจัยสำคัญ โดยอุณหภูมิสำหรับการดริปกาแฟเบื้องต้นอยู่ที่ประมาณ 92-94 องศา สำหรับกาแฟคั่วอ่อนและอุณหภูมิ 85-89 องศา สำหรับกาแฟที่คั่วเข้มมากกว่า ปัจจุบันกาดริปกาแฟส่วนใหญ่มีช่องสำหรับเสียบก้านอุณหภูมิใช้งานได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น
เครื่องชงกาแฟดริป มีกี่แบบ
1.เครื่องชงกาแฟแบบดริป
การดริปกาแฟ คือการใช้น้ำร้อนเดือดจัดต้มกาแฟ หรือเทใส่เหยือกกรองที่ชงกาแฟให้ค่อย ๆ ไหลผ่าน Filter กรองลงมาเป็นหยดน้ำ อุปกรณ์ชงกาแฟแบบนี้เป็นที่นิยม ทำง่าย พกพาสะดวก อัตโนมัติ ใช้พื้นที่ทำไม่มาก สามารถนั่งดริปที่ไหนก็ได้ ชงได้แก้วต่อแก้ว เก็บล้างทำความสะอาดได้ง่ายเพราะมีอุปกรณ์ไม่กี่ชิ้น และกระดาษกรองก็หาซื้อเปลี่ยนได้ง่าย เหมาะสำหรับกาแฟที่คั่วอ่อน ๆ หรือ คั่วกลาง ๆ แล้วนำมาบด
2.เครื่องชงกาแฟแบบดริปพอต หรือ แบบหยด
การชงกาแฟโดยเมล็ดกาแฟคั่วบดจะถูกต้มหรืออยู่ในน้ำร้อนในถ้วยกรองของเครื่องที่มีลักษณะเป็นหม้อ เครื่องชงกาแฟบางเครื่องสามารถอุ่นทำอุณหภูมิในเครื่องได้โดยไม่ต้องต้มน้ำจากภายนอก และน้ำกาแฟจะค่อย ๆ หยดลงมาสู่กระบอกที่เตรียมไว้ด้านล่าง สามารถเทกาแฟได้มากกว่า 1 แก้ว และบางเครื่องทำได้ 10-15 แก้ว ราคาไม่แพง
ชุดดริปกาแฟ ของ เครื่องชงกาแฟดริป
การเลือกชุดดริปกาแฟที่ดีจะต้องพิจารณาหลายส่วน โดยเฉพาะในส่วนของดริปเปอร์ เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยกำหนดรสชาติกาแฟว่าจะออกมาในรูปแบบใด นอกจากเทคนิคในการดริปกาแฟ ถือได้ว่ามีอุปกรณืดีก็ช่วยได้อย่างมาก ซึ่งข้อควรพิจารณาในการซื้อชุดดริปกาแฟมีดังนี้
1.ชุดดริปกาแฟจากวัสดุของดริปเปอร์
สิ่งแรกที่มีความสำคัญในการเลือกชุดดริป ควรคำนึงถึงในการเลือกดริปเปอร์คือวัสดุที่ใช้ผลิต ส่วนใหญ่มักจะถูกผลิตมาจากวัสดุ 4 ชนิดด้วยกันคือ แก้วทนความร้อน พลาสติกทนความร้อน เซรามิก และโลหะ เพราะวัสุดแต่ละชนิดจะทำให้ผลลัพธ์ของกาแฟที่ได้แตกต่างกัน
ฉะนั้นคุณจึงต้องดูตัวเองก่อนว่าชอบดื่มกาแฟรสชาติใด หากชอบดื่มกาแฟรสเข้ม ติดขม หรือต้องการคงความหอมของตัวกาแฟ และดึงเอารสชาติเปรี้ยวออกมาได้ดี คุณควรเลือกดริปเปอร์ที่ผลิตจากดลหะ แต่ถ้าชอบดื่มกาแฟรสละมุน ไม่ติดกลิ่นขมไหม้
แนะนำให้เลือกดริปเปอร์แก้วทนความร้อน หรือเซรามิก เพราะวัสดุประเภทนี้สามารถเก็บความร้อนได้ดี อุณหภูมิน้ำไม่ลดเร็วเกินไปจนกาแฟเสียรสชาติ หรือ หากต้องการความรวดเร็วโดยไม่กังวลในเรื่องของอุณหภูมิน้ำ แนะนำให้เลือกดริปเปอร์พลาสติกทนความร้อน
2.ชุดดริปกาแฟที่มีอุปกรณ์ชงกาแฟแบบครบครัน
การเลือกซื้อชุดดริปกาแฟ ควรเลือกจำนวนของอุปกรณ์ที่จัดมาในชุดด้วยว่าจัดมาให้ครบพร้อมในการดริปกาแฟหรือไม่เพื่อใช้ในการชงกาแฟดริปได้ครบครัน ซึ่งปกติชุดดริปที่พร้อมใช้งานอัตโนมัติควรประกอบไปด้วย ดริปเปอร์, เหยือกกาแฟ, กาดริป, เครื่องบดเมล็ดกาแฟ และ กระดาษรองกาแฟ และถ้าในชุดดริปนั้นมีเครื่องวัดอุณหภูมิ หรือ เครื่องชั่งดิจิตอบมาด้วยจะถือว่าเป็นชุดดริปที่สมบูรณ์มากทีเดียว
3.ชุดดริปกาแฟแบบพกพา สำหรับวันเดินทาง
คอกาแฟดริปที่ใช้ชีวิตกับการเดินทาง บางครั้งการจะพกอุปกรณ์ดริปกาแฟที่มีหลายชิ้นเดินทางไปมาก็ดูจะไม่สะดวกสักเท่าไหร่ แถมยังเสี่ยงต่อการชำรุดเสียหายอีกด้วย แต่ปัจจุบันนี้ก็มีหลายแบรนด์ที่ออกแบบอุปกรณ์ชงกาแฟดริปที่สามารถพกพาได้ง่ายบรรจุในกระเป๋ากันกระแทกอย่างดีให้สามารถพกพาได้สะดวกและปลอดภัย
การใช้เครื่องชงกาแฟดริป ต้องเตรียมอะไรบ้าง
การใช้เครื่องชงกาแฟดริปอาจไม่ใช่ทั้งหมดของความสะดวกสบาย เพราะจะต้องเตรียมการบดเมล็ดกาแฟด้วยเพื่อให้ได้ความสดใหม่ของกาแฟ ซึ่งต้องใช้ เครื่องบดกาแฟ ที่ให้เลือกหลายประเภท ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1.เครื่องบดกาแฟมือหมุน
เครื่องบดกาแฟมือหมุนใช้งานค่อนข้างง่าย ไม่มีความยุ่งยากหรือซับซ้อน มีดีไซน์ที่หรูหราคลาสสิกเบา ๆ ขนาดกำลังดีพกพาได้สะดวก มาพร้อมกับราคาไม่แพง แต่บดได้กาแฟได้น้อยกว่าเครื่องบดไฟฟ้าอัตโนมัติ อีกทั้งยังเลือกระดับความหยาบความละเอียดได้ไม่ดีเท่าที่ควร
2.เครื่องบดกาแฟไฟฟ้า
เครื่องบดกาแฟไฟฟ้าใช้งานได้สะดวกและรวดเร็ว ไม่ต้องออกแรงมาก สามารถเลือกระดับความหยาบของเมล็ดกาแฟได้หลายรูปแบบ แต่มีราคาที่สูงสักหน่อย อีกทั้งยังมีเสียงดังรบกวนขณะที่บดกาแฟด้วย
การเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟดริป
เราทราบกันดีว่าการใช้เครื่องชงกาแฟดริปจะให้ความสะดวกสบายต่อคุณไม่ต้องเสียเวลาชงเอง แต่ก่อนที่คุณจะซื้อเครื่องดริฟกาแฟสักเครื่อง คุณควรอ่านวิธีการเลือกซื้อเครื่องดริปกาแฟในบทความนี้ก่อน ซึ่งเราจะมาแบ่งปันข้อมูลถึงการเลือกซื้ออย่างถูกวิธีมาฝากกัน
1.สามารถชงกาแฟได้ปริมาณเท่าไหร่ต่อแก้ว
เนื่องจากเครื่องชงบางรุ่นก็ออกแบบที่เน้นความสวยงามอย่างเดียว ทำให้เครื่องชงดูสวยงามแต่ชงได้เพียงไม่กี่แก้วเท่านั้น คุณจึงควรศึกษารายละเอียดของสินค้าว่าสามารถชงได้มากน้อยเพียงใด เพราะปริมาณกาแฟที่สามารถชงได้จะสอดคล้องกับขนาดของเครื่องเสมอ
2.ขนาดของเครื่องดริปกาแฟ
หากคุณมีพื้นที่ใช้สอยบนเคาน์เตอร์เล็กน้อย คุณควรพิจารณาขนาดของเครื่องดริปกาแฟเป็นอันดับแรกว่าสอดคล้องกับพื้นที่ที่คุณมีหรือไม่ จึงควรเลือกขนาดให้เหมาะสมกับพื้นที่ที่คุณมี
3.ประเภทตัวกรอง
ตัวกรองที่ดีจะต้องเป็นตัวกรองที่ทำความสะอาดง่ายที่สุด รวมถึงจะต้องกรองได้อย่างละเอียด ไม่ควรมีผงเมล็ดกาแฟหลุดลงไปในน้ำกาแฟที่ดื่ม หากเป็นกระดาษกรองก็จะต้องเป็นแบบคุณภาพดีที่ไม่มีสารเคมีตกค้าง
4.ปรับระดับความเข้มข้นของกาแฟได้
ทุกคนมีความชอบของรสชาติและความเข้มข้นของกาแฟแตกต่างกันไป ดังนั้นหากคุณชอบกาแฟรสอ่อน หรือ ชอบแบบเข้มข้นไปเลย คุณควรตรวจสอบในฟังก์ชันของเครื่องชงดริฟกาแฟก่อนซื้อด้วย
5.ประเภทของโถ หรือ เหยือกเสิร์ฟ
ประเภทของโถ หรือเหยือกเสิร์ฟที่ดีจะต้องเป็นแก้วหรืออาจเป็นโถหุ้มฉนวนสเตนเลสสตีลที่สามารถตั้งบนจานอุ่นได้ และควรมีหูจับที่ตัวเหยือกไว้สำหรับเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ซึ่งต้องเป็นหูจับที่ทนความร้อน
สำหรับเครื่องชงการแฟดริฟส่วนใหญ่จะมีแผ่นความร้อนที่อยู่ใต้โถ หรือ หม้อที่บรรจุกาแฟ เช่น โถหุ้มฉนวน สเตนเลสสตีลที่จะช่วยให้กาแฟอุ่นได้นานกว่า เพื่อได้รสชาติที่กลมกล่อมอยู่เสมอ
6.ความรวดเร็วในการชง
เครื่องชงกาแฟบางเครื่องจะมีกำลังวัตต์สูงมาก หมายความว่าน้ำจะได้รับความร้อนและการสูบผ่านได้เร็วขึ้น .ซึ่งการชงที่รวดเร็วขึ้นอาจส่งผลต่อรสชาติกาแฟได้เช่นกัน
7.ระบบอัตโนมัติ
เครื่องชงกาแฟดริปสามารถเปิดและปิดได้ทุกเมื่อที่ต้องการ หรือ ยังคงสามารถทำให้กาแฟร้อนได้ในช่วงเวลาหนึ่งก่อนที่เครื่องจะปิดการทำงาน
8.ฟังก์ชันพิเศษ
เครื่องชงกาแฟดริปบางเครื่องมีเครื่องบดในตัว หรือ บางรุ่นมีหัวพ่นไอน้ำสำหรับตีฟองนม และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ฟังก์ชันพิเศษนี้จะมาพร้อมกับราคาที่แพงขึ้นมาก แต่ฟังก์ชันพิเศษจะสำคัญหรือไม่ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการกาแฟให้ออกมาในรูปแบบไหนนั่นเอง
9.เครื่องต้องทำความสะอาดง่าย
เชื่อแน่ว่าใคร ๆ ก็อยากได้เครื่องชงกาแฟดริปที่ทำความสะอาดง่าย ๆ ดังนั้นก่อนซื้อเครื่องควรตรวจสอบเกี่ยวกับชุดตัวกรองกาแฟว่าเป็นแบบใช้แล้วทิ้งหรือแบบต้องล้างทำความสะอาด
นอกจากนี้คุณสมบัติที่ดีของเครื่องชงกาแฟดริปจะต้องทำให้คุณสามารถถอดตัวกรองออกมาได้อย่างง่ายดาย ที่สำคัญก่อนซื้อควรตรวจสอบการถอดชิ้นส่วนของเครื่องด้วย และเราขอแนะนำให้คุณทำความสะอาดหม้อกาแฟเป็นประจำ ไม่ให้เกิดเชื้อราในหม้อต้ม เพราะมันส่งผลต่อคุณภาพและรสชาติของกาแฟที่คุณดื่มด้วย
เครื่องชงกาแฟดริปอัตโนมัติ
สรุป
เป็นอย่างไรบ้างกับเรื่องราวของเครื่องชงกาแฟดริป ที่บอกถึงดริปกาแฟคืออะไร ระดับความเข้มข้นของกาแฟ เครื่องดริปมีกี่แบบ รวมถึงวิธีการเลือกเครื่องชงกาแฟดริปที่เราได้นำเสนอมา ถือเป็นความรู้เล็ก ๆน้อย ๆ
สำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องชงกาแฟดริปไว้ที่บ้านสักเครื่องเพื่อที่คุณจะได้มีกาแฟรสชาติที่หอมละมุน ได้ความเข้มข้นของเมล็ดกาแฟที่ดื่มแล้วถึงขั้วหัวใจกันสุด ๆ ไปเลย ที่สำคัญอย่าลืมอ่านบทความนี้เพื่อการตัดสินใจซื้อเครื่องชงกาแฟดริปได้อย่างถูกใจแน่นอน
เชพขวัญ ขวัญเรือน ผู้ชำนาญการด้านการทำอาหารและเครื่องครัว ประสบการณ์ด้านการทำอาหารมากกว่า 20 ปี เคยอยู่ร้านอาหารชื่อดังหลายแห่ง มีความรู้และเชี่ยวชาญ เป็นนักเขียนและวิจารณ์รีวิวอาหาร และแนะนำเครื่องใช้ในครัวเรือน
RUI Cold brew coffee maker ชุดดริปกาแฟ
– ยางซีลฝาทำจาก Silicone
– สามารถใช้ร่วมกับ Dripper และ Ceramic Dripper ทั้งขนาด 01 และ 02
HAFELE เครื่องชงกาแฟดริปอัตโนมัติ
– ขนาดผลิตภัณฑ์ (กว้าง x ลึก x สูง): 205 x 225 x 345 มม
– สั่งการบนสมาร์ทโฟน ผ่านแอพพลิเคชัน
– ถังเก็บน้ำ 1.8 ลิตร
ETZEL เครื่องชงกาแฟดริปแบบมาตรฐาน รุ่น SN259
– ฐานรองโถแก้วช่วยอุ่นให้กาแฟร้อนได้นาน
– มีระบบอุ่นอัตโนมัติหลังจากชงเสร็จ และจะอุ่นจนกว่าจะปิดสวิตซ์
– ถ้วยกรองชนิดถอดเปลี่ยนได้ ถอดล้างและทำความสะอาดง่าย
– เหยือกแก้วทนต่อความร้อน
SKG เครื่องชงกาแฟดริปแบบมีที่บดในตัว รุ่น SK-1204
– โหมดบดกาแฟ 2 แบบ คือ บดหยาบ และ บดละเอียด
– สามารถชงกาแฟได้สูงสุด 4แก้วต่อครั้ง
– ถ้วยกรองสามารถถอดออกมาล้างทำความสะอาดง่าย
Moccamaster Cup-One เครื่องชงกาแฟดริป Filter Coffee Machine
– ตัวเครื่องใช้งานง่าย และมีเสียงเงียบ
– ตัวเครื่องทำมาจากโลหะที่ทนทานและพลาสติกรีไซเคิลที่ปราศจากสาร Phthalate
– เครื่องทำความร้อนได้รวดเร็วภายใน 30 วินาที
ETZEL SN256 เครื่องชงกาแฟดริป
– ขนาดกะทัดรัด ประหยัดพื้นที่ แต่ประสิทธิภาพสูง
– สามารถใช้ได้ทั้งกาแฟคั่วบดและเมล็ดกาแฟ
– โหมดบดกาแฟ 2 แบบ คือ บดหยาบ และ บดละเอียด
– ความจุแทงก์น้ำ 0.6 ลิตร
Braun เครื่องชงกาแฟดริฟ รุ่น KF7120
– สามารถตั้งโปรแกรมชงอัตโนมัติตามเวลาที่ตั้งไว้
– มีโปรแกรมเตือนและล้างตระกรันอัตโนมัติ
– สามารถปรับระดับรสชาติกาแฟได้แบบ กลาง หรือ เข้ม
Oceanrich เครื่องดริปกาแฟอัตโนมัติ
– ขนาดกระทัดรัด พกพาสะดวก
– แก้วชงกาแฟดริป แบบอัตโนมัติ ไม่ต้องใช้กาดริป
– มีมอเตอร์หมุนแทงค์เก็บน้ำเพื่อกระจายน้ำในการดริปอย่างทั่วถึง
– ใช้งานง่าย ทำความสะอาดง่าย
KONKA
– ด้วยตาข่ายสกัดไนลอนถาวร ป้องกันการไหม้ แห้ง
– แผงบอดี้ ABS ตกแต่งสเตนเลส
– ชิ้นส่วนที่ปลอดภัยสำหรับเครื่องล้างจาน เพื่อทำความสะอาดง่าย
– ขนาดสินค้า: 280 x 230 X 292 มม.
HOMEMATE เครื่องชงกาแฟดริป 3-5 ถ้วย HOM-269421
– ฟิลเตอร์กรองแบบถอดได้พร้อมแผ่นกรองตาข่าย
– ฟังก์ชันป้องกันน้ำหยดช่วยให้เทน้ำไม่หกเลอะเทอะขณะต้ม
– โถต้มน้ำล้างด้วยมือ และแผ่นกรองแบบใช้ซ้ำได้