ใช้ดี 10 เครื่องดูดความชื้น ยี่ห้อไหนดี 2024 ช่วยลดความชื้น ราคาถูก

เครื่องดูดความชื้น ยี่ห้อไหนดี
อารัมภบท ความชื้นสัมพัทธ์ในบ้านเรามีค่าเฉลี่ยที่ 80 เปอร์เซ็นต์ต่อปี เรียกได้ว่าเป็นค่าที่สูงมาก จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เกิดเชื่อราได้มากขึ้น และเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้ต่าง ๆ ตามมาได้

เครื่องดูดความชื้นในบ้านอาคาร โรงงานอุตสาหกรรม ห้องปิดที่ไม่มีอากาศถ่ายเท ไม่ค่อยได้รับแสง เพื่อทำให้อากาศสามารถถ่ายเทได้สะดวก ลดการเกิดเชื้อราในสินค้าได้ รวมถึงป้องกันการเกิดสนิมกับเครื่องจักร และป้องกันเชื้อโรคได้อย่างดี

สารบัญ

นอกจาก เครื่องฟอกอากาศ แล้ว ในบ้านเราก็ยังมีเครื่องดูดความชื้น หรือ เครื่องลดความชื้น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มาแรง ยิ่งในหน้าฝนแบบนี้ หรือยิ่งช่วงมีความชื้นภายในบ้านของเรา ที่เป็นต้นเหตุของการเกิดเชื้อราตามเพดาน บนเฟอร์นิเจอร์ ผนังบ้าน และของใช้ต่าง ๆ แถมทำให้เสื้อผ้าของเราไม่แห้งด้วย

ความชื้นคืออะไร

เป็นคำใช้เรียกปริมาณ ไอน้ำในอากาศ อากาศชื้นเป็นสารผสมระหว่างไอน้ำกับองค์ประกอบอื่นของอากาศ ความชื้นในแง่ของปริมาฯน้ำในสารผสมนี้เรียกว่า ความชื้นสัมบูรณ์

แต่การใช้ในประจำวัน คำว่า ความชื้น หมายถึง ความชื้นสัมพัทธ์ มากกว่า จะแสดงเป็นร้อยละในการพยากรณ์อากาศและในเครื่องวัดความชื้นอากาศครัวเรือน เรียกเช่นนี้เพราะเป็นการวัดความชื้นสัมบูรณ์เทียบกับค่าสูงสุด ความชื้นจำเพาะ

ซึ่งเป็นอัตราส่วนของปริมาณไอน้ำในสารผสมกับปริมาณอากาศทั้งหมด ซึ่งปริมาณไอน้ำในสารผสมสามารถวัดได้โดยมวลต่อปริมาตรหรือเป็นความดันย่อยขึ้นอยู่กับการใช้

เครื่องดูดความชื้นคืออะไร

เครื่องดูดความชื้นคืออะไร

คือ เครื่องลดความชื้น หรือ เครื่องดูดความชื้น จะมีลักษณะการทำงานที่คล้ายกับเครื่องปรับอากาศ ซึ่งจะช่วยในการลดความชื้น และ ดูดความชื้นจากแผงคอยล์เย็น ทำหน้าที่ให้ความชื้นในอากาศและกลายเป็นหยดน้ำ ปล่อยอากาศร้อนหรืออากาศแห้งเข้ามาแทนที่ ซึ่งความชื้นนั้นจะมาอยู่ในรูปแบบของหยดน้ำและถูกระบายน้ำทิ้ง

ส่วนประกอบหลัก ๆ ของเครื่องดูดความชื้นมีอะไรบ้าง

ในเครื่องดูดความชื้น Dehumidifier จะมีอุปกรณ์ที่หลากหลายมาก โดยภายในเครื่องจะมีส่วนประกอบหลัก ๆ ดังนี้

  • เซ็นเซอร์ อุณหภูมิ – ทำหน้าที่ที่จะคอยวัดค่าอุณหภูมิ
  • เซ็นเซอร์ ความชื้น – ทำหน้าที่จะคอยวัดค่าความชื้น
  • มอเตอร์พัดลม – ทำหน้าที่คอยระบายความร้อนจากตัวเครื่องที่จะออกมาแทนที่ความชื้น
  • เมนบอร์ดควบคุม – จะอยู่ในตัวควบคุม ทำหน้าที่คอยควบคุมการทำงานทั้งหมด

เครื่องดูดความชื้นมีกี่ประเภท

1.เครื่องดูดความชื้นแบบไฮบริด

เป็นเครื่องดูดความชื้นที่สามารถฟอกอากาศและเพิ่มอุณหภูมิในห้องได้ สามารถใช้เครื่องดูดความชื้นประเภทนี้ได้กับทุกห้องของคุณ แต่มักจะมีราคาแพง โดยทั่วไปสามารถดูดความชื้นในห้องขนาดกลางได้ดี ไม่ได้มีไว้เพื่อดูดความชื้นทั่วทั้งบ้าน

2.เครื่องดูดความชื้นแบบเซมิคอนดักเตอร์

เครื่องดูดความชื้นในอากาศประเภทนี้ จะสามารถใช้งานได้ง่าย มีขนาดค่อนข้างเล็ก ปราศจากเสียงรบกวนเวลาเปิดใช้งาน ช่วยให้คุณสะดวกเหมาะกับพื้นที่ขนาดเล็ก เช่น ห้องนอน นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในห้องนอนเด็กเล็กได้ เครื่องใช้งานได้ดีแม้ในพื้นที่แคบ แต่ก็มีข้อด้อยของเครื่องดูดความชื้นขนาดเล็กคือ หากคุณวางเครื่องผิดพื้นที่ หรือ วางในห้องที่ใหญ่ ก็จะไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าที่ควร

3.เครื่องดูดความชื้นแบบคอมเพรสเซอร์

คอมเพรสเซอร์ของเครื่องดูดความชื้น จะทำงานในลักษณะเดียวกับตู้เย็นในบ้านคุณ ด้วยกลไกการทำงานคือใช้อากาศร้อนและดูดความชื้นเข้าเครื่องทำให้อากาศเย็นลง มีข้อเสียคือเครื่องดูดความชื้นแบบคอมเพรสเซอร์นั้นจะมีขนาดใหญ่กว่าแบบประเภทอื่น ๆ

เนื่องจากมีเสียงการทำงานของคอมเพรสเซอร์และพัดลมดัง คล้ายกับเครื่องปรับอากาศ ด้วยเครื่องลดความชื้นคอมเพรสเซอร์จะสั่งงานพัดลม หรือ พัดลมแอร์ที่ดึงอากาศผ่านคอยล์เย็นทำให้ความชื้นกลั่นตัว เกิดหยดน้ำ จากนั้นหยดน้ำจะไหลเข้าสู่ถังซึ่งต้องเททิ้ง

หลักการทำงานของเครื่องดูดความชื้น

การทำงานของเครื่องดูดความชื้น

คือ มีลักษณะการทำงานคล้ายกับเครื่องปรับอากาศ ช่วยในการดูดความชื้นจากอากาศผ่านแผงคอยล์เย็น ซึ่งทำหน้าที่ให้ความชื้นในอากาศกลายเป็นหยดน้ำ และปล่อยอากาศร้อน หรือ อากาศแห้งเข้าแทนที่ ซึ่งความชื้นที่อยู่ในรูปแบบของหยดน้ำจะถูกปล่อยทิ้งไปตามท่อน้ำทิ้ง

วิธีใช้งานเพื่อลดความชื้นในห้อง

1.ต้องมีช่องระบายอากาศภายในห้อง

ทำให้ห้องทุกห้องภายในบ้านมีช่องระบายอากาศ ด้วยการติดตั้งหน้าต่างและคอยเปิดให้โอกาศได้ระบายออกอย่างเต็มที่ หากมี ฉากกั้นห้อง ให้นำออกให้หมดจะช่วยให้ลดปัญหาบ้านอับชื้น ลดการสะสมของเชื้อโรค ที่สำคัญทำให้บ้านไม่มีกลิ่นอับชื้น หมดปัญหาบ้านร้อนไปได้เลย

2.ติดตั้งพัดลมระบายอากาศ

การติดตั้ง พัดลมดูดอากาศ เพื่อระบายอากาศในห้องที่มีความอับชื้นสูง เช่นห้องน้ำ ที่มี เครื่องทำน้ำอุ่น ห้องครัว ช่วยลดปัญหาความอับชื้นภารในบ้านได้อย่างดีเมื่อเราจะอาบน้ำ หรือควรเปิด พัดลมเล็ก ช่วยระบายอากาศ เมื่ออาบน้ำเสร็จให้เปิดทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาทีเพื่อไล่ความชื้นออกจากห้องน้ำ ที่เป็นสาเหตุให้เกิดเชื้อราในห้องน้ำที่มีความชื้นสูง

3.ให้วางต้นไม้ภายในห้องให้ถูกที่

ต้นไม้จะช่วยสร้างบรรยากาศให้ภายในห้องดูร่มรื่น น่าอยู่ ต้นไม้เหล่านี้จะชอบคาบน้ำออกมา ดังนั้นเราควรวาง กระถางต้นไม้ ที่ที่แดดส่องถึง เพราะต้นไม้นอกจากช่วยฟอกอากาศแล้ว ยังช่วยลดดูดซับกลิ่นอับชื้นได้ด้วย

4.นำสารดูดความชื้นมาตั้งในห้อง

ปัจจุบันมีสารดูดความชื้นที่ผลิตขึ้นจากธรรมชาติ หรือ พวกซิลิก้าเจล หลากหลายยี่ห้อ หรือแม้แต่ น้ำมันหอมระเหย เราแนะนำให้ใช้สารดูดความชื้นที่ผลิตจากสารธรรมชาติมากกว่า มีประสิทธิภาพดีกว่า ปลอดภัยต่อร่างกายของเรา

5.งดการอาบน้ำอุ่น

การอาบน้ำอุ่นโดย เครื่องทำน้ำอุ่น จะทำให้เกิดปริมาณไอน้ำเป็นจำนวนมาก ถ้าเป็นไปได้ควรงดการอาบน้ำอุ่น ถ้าไม่จำเป็นหรือปรับอุณหภูมิน้ำให้ต่ำลง เพื่อลดความชื้นสะสมที่เกิดจากในไอน้ำที่สะสมในห้องน้ำ

6.ติดตั้งเครื่องดูดความชื้น

หากต้องการความสะดวกที่สุด การเลือกซื้อเครื่องดูดความชื้นคือการแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว โดยเครื่องดูดความชื้นมีให้เลือกหลายขนาดตั้งแต่วางในพื้นบ้าน จนถึงขนาดใหญ่ที่คู่คล้ายตู้ขนาดย่อม เหมาะกับการใช้ภายในอาคารหรือห้องขนาดใหญ่

โดยการเลือกให้เหมาะสมก็ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานได้เต็มที่ ความชื้นในห้องจะถูกปรับให้อยู่ในระดับที่พอดี ช่วยลดกลิ่นอับและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคและเชื้อราได้อีกด้วย

7.ใช้ผนังที่ทนต่อเชื้อรา

ปัญหาผนังบ้านสีพอง หลุดร่วง เป็นเชื้อรา ทั้งในห้องน้ำ ห้องที่มีความชื้น พบมากในบ้านที่ไม่ใช้ผนังชนิดทนชื้นทนราทำให้น้ำหรือความชื้นแทรกซึมเข้าไปสะสมในบริเวณผนัง หรือนอกจากปัญหาอับชื้น การมีเชื้อราจะทำให้ผนังบ้านสกปรก และยังส่งผลให้บ้านดูทรุดโทรมลงอีกเรื่อย ๆ

ปัจจัยที่ความชื้นสัมพัทธ์สูง อาจก่อให้เกิดปัญหาอะไรบ้าง

1.อาหารเน่าเสีย

ความชื้นในอากาศสูง อาจส่งผลให้อาหารเน่าเสียได้ เพราะไอน้ำในอากาศทำให้เชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโตได้ ยิ่งความชื้นภายในห้องสูงเท่าไหร่ อาหารก็มีโอกาสเน่าเสียง่ายยิ่งขึ้น

2.เกิดเชื้อราและกลิ่นอับ

สาเหตุของการเกิดเชื้อราและกลิ่นอับคือ ความชื้น ซึ่งเมื่อเกิดความชื้นอาจลามไปทำลายโครงสร้างของบ้านได้ ทั้งเฟอร์นิเจอร์ สินค้า ข้าวของเครื่องใช้ได้เช่นกัน

3.เกิดสนิม

ความชื้น คือตัวร้ายที่ทำให้เครื่องมือ อุปกรณ์ที่เป็นเหล็กเกิดสนิมได้ รวมถึงสายฉนวนกันความร้อนในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หากความชื้นเข้าไปทำลายเนื้อวัสดุอาจนำไปสู่เหตุไฟฟ้าลัดวงจรได้

4.เกิดปัญหาด้านสุขภาพ

ความชื้นทำให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพได้ เช่น ทำให้เรารู้สึกไม่สบายตัว หรือ อาจทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้

5.เฟอร์นิเจอร์บวม

ความชื้น อาจทำให้เฟอร์นิเจอร์บวมได้ หากมีความชื้นสูง นอกจากบวมแล้วยังเปราะง่าย ไม่แข็งแรง ไม่ทนทาน

ประโยชน์ของเครื่องดูดความชื้น

  • เครื่องดูดความชื้น จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากความชื้นทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักขึ้น
  • ปกป้องการเกิดสนิมในเครื่องจักร อุปกรณ์ เครื่องมือที่เป็นเหล็ก
  • ป้องกันเฟอร์นิเจอร์บวม และ ป้องกันไม่ให้เฟอร์นิเจอร์เสื่อมสภาพเร็ว
  • ช่วยลดการเกิดเชื้อรา และลดการเกิดเชื้อโรคในเสื้อผ้า ลดการคัน ระคายเคือง ลดกลิ่นอับได้
  • ช่วยลดการเกิดโรคภูมิแพ้ หรือ ลดภาวะภูมิแพ้กำเริบ เชื้อโรค เชื้อรา เชื้อแบคทีเรียน้อยลง

การเลือกซื้อเครื่องดูดความชื้น

การซื้อเครื่องดูดความชื้น

1.เลือกเครื่องดูดความชื้นให้ตรงกับความต้องการ

โดยเลือกขนาดเครื่องดูดความชื้น โดยพิจารณาจากพื้นที่ห้องเป็นตารางฟุต ว่าจะต้องใช้เครื่องดูดความชื้นขนาดใด ก็จะขึ้นอยู่กับความกว้างของห้องที่จะติดตั้ง โดยให้เลือกห้องหลักที่จะติดตั้งเครื่องดูดความชื้น จากนั้นวัดพื้นที่ห้องเป็นตารางฟุต และเอาไปอ้างอิงเลือกเครื่องดูดความชื้นในขนาดที่เหมาะสม

2.ความจุต้องเหมาะสม

ลำดับต่อมาคือการคำนึงถึงระดับความชื้นภายในห้องนั้น โดยวัดเป็นปริมาณ pints (1 pint ประมาณ 0.5 ลิตร) ของน้ำที่ได้จากบรรยากาศในห้องภายใน 24 ชั่วโมง ผลที่ได้จะเป็นตัวกำหนดว่าห้องนั้นมีความชื้นเท่าไหร่

  • ตัวอย่างห้องขนาด 500 ตารางฟุต หรือ ประมาณ 45 ตรม. มีสภาพอากาศที่อับชื้น อากาศชื้นแฉะ ก็จะต้องใช้เครื่องดูดความชื้นขนาดประมาณ 40-45 pints หรือประมาณ 19-21 ลิตร
  • เครื่องดูดความชื้นสามารถจุน้ำได้ถึง 44 pints ประมาณ 20 ลิตร ด้วยกันใน 24 ชั่วโมง ในห้องกว้างได้มากถึง 2500 ตารางฟุต หรือ ประมาณ 230 ตรม..

3.ใช้เครื่องดูดความชื้นขนาดใหญ่ สำหรับห้องกว่างหรือเป็นห้องใต้ดิน

สำหรับความชื้นที่ใหญ่ ก็จะดูดความชื้นในห้องได้รวดเร็วทันใจกว่า และยังไม่ต้องเทน้ำในเครื่องทิ้งบ่อย ๆ ด้วย แต่ก็แน่นอนยิ่งเครื่องใหญ่ ราคาก็ยิ่งแพง แถมกินไปตามมา

4.ให้ใช้เครื่องดูดความชื้นแบบพิเศษสำหรับพื้นที่เฉพาะ

การติดตั้งเครื่องดูดความชื้นในห้องขนาดพิเศษ เช่นห้องสปา สระว่ายน้ำ โกดังสินค้า ก็ต้องเลือกเครื่องดูดความชื้นสำหรับสถานที่นั้นโดยเฉพาะ

5.เลือกจากคุณสมบัติที่ต้องการ

เครื่องดูดความชื้นในปัจจุบันนี้ จะมีหลากหลายฟังก์ชัน และ Setting ให้เลือกสรร เครื่องยิ่งแพงยิ่งมีหลายตัวเลือกในการใช้งาน แต่ฟีเจอร์หรือฟังก์ชันหลัก ๆ ที่พบบ่อยเช่น

Adjustable Humidistat

เป็นฟีเจอร์สำหรับควบคุมระดับความชื้นในห้อง สามารถตั้ง Humidistat ได้ตามระดับความชื้นสัมพันธ์ที่ต้องการ เมื่อถึงระดับที่ต้องการแล้วเครื่องจะตัดเองโดยอัตโนมัติ

Built-in Hygrometer

เป็นอุปกรณ์ใช้วัดระดับความชื้นในห้อง จะช่วยให้เครื่องดูดความชื้นในห้องมาเป็นน้ำได้แม่นยำที่สุด

Automatic Shut off

เครื่องดูดความชื้นส่วนใหญ่จะตัดอัตโนมัติด้วยตัวเอง เวลาปรับระดับความชื้นในห้องได้ตามต้องการแล้ว หรือ เมื่อถาดใส่น้ำของเครื่องเต็ม

Automatic Defrost

กรณีเครื่องดูดความชื้นทำงานหนักเกินไป น้ำแข็งจะเกาะที่คอยล์ของเครื่อง จะเป็นอันตรายต่อชิ้นส่วนต่าง ๆ ข้างใน กรณีมีตัวเลือก automatic defrost หรือละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ จะช่วยให้พัดลมในเครื่องทำงานละลายน้ำแข็งเอง

6.มีระบบน้ำทิ้งที่เป็นแบบคู่

กรณีที่ไม่ต้องการน้ำทิ้งด้วยตนเอง อยากแนะนำให้เลือกเครื่องดูดความชื้นที่มีการทำงานแบบระบบน้ำทิ้งคู่ จะมีทั้งสามารถต่อท่อปลายน้ำทิ้งเอง หรือ แบบเททิ้งปกติ กรณีซื้อเครื่องไม่สามารถต่อท่อหรือถอดออกเททิ้งเองได้ แนะนำเอาให้ตรวจสอบก่อนว่ามีที่จับเพื่อเทน้ำทิ้งได้สะดวกไหม

7.เลือกให้เหมาะกับห้อง

ตำแหน่งวางที่เหมาะสม

นอกจากเครื่องแล้ว ห้องที่จะนำเครื่องมาวางก็สำคัญ เพราะแต่ละรุ่น แต่ละขนาดจะมีความเหมาะสมต่อการใช้งาน กรณีเครื่องเล็กแต่ห้องใหญ่ก็จะทำงานหนักแบบที่ไม่ได้ประสิทธิภาพ เราแนะนำขนาดห้อง 5-15 ตารางเมตร จะเหมาะกับความจุถุง 0.5-1.5 ลิตรหรือขนาดห้องที่ 20-40 ตารางเมตร ก็จะเหมาะกับความจุถังน้ำ 1.5-3 ลิตร

8.เลือกแบบชาร์จไฟฟ้าได้เพิ่มความสะดวกสบาย

ปัจจุบันมีเครื่องดูดความชื้นแบบไร้สาย เพียงแค่นำไปวางในพื้นที่ที่ต้องการให้ดูดความชื้นก็สามารถทำงานได้เลย โดยหลักการเครื่องจะมีสารที่ชื่อซิลิกกอนไดออกไซด์ หรือ ซิลิกา ดังนั้นเลือกแบบชาร์จไฟก็จะใช้งานได้สะดวกกว่า

วิธีติดตั้งและการดูแลเครื่องดูดความชื้น

  • หลีกเลี่ยงการวางไว้ในที่มีแสงแดดหรืออยู่ใกล้ความร้อน
  • วางให้ห่างจากผนังประมาณ 30 เซนติเมตร
  • ติดตั้งฝั่งตรงข้ามกับเครื่องปรับอากาศ เพื่อให้เครื่องทำงานได้เต็มที่
  • ไม่ควรเคลื่อนย้ายหรือยกขณะเครื่องกำลังทำงาน
  • ถอดปลั๊กไฟทุกครั้งหากต้องการเปลี่ยนหรือทำความสะอาดแทงก์น้ำ
  • เช็ดตัวเครื่องภายนอกด้วยผ้าสะอาดสัปดาห์ละครั้ง
  • ทำความสะอาดแผ่นกรองเดือนละครั้ง และแผงคอยล์เย็นทุก 6 เดือน

เมื่อไหร่ถึงต้องใช้เครื่องดูดความชื้น

1.ใช้เครื่องดูดความชื้นเมื่อห้องมีอากาศชื้นแฉะ

ห้องที่มีอากาศชื้นเกินไปและมีกลิ่นเหม็นอับ แสดงว่ามีระดับความชื้นในอากาศค่อนข้างสูง กรณีนี้ให้เปิดเครื่องดูดความชื้นเพื่อปรับระดับความชื้นสัมพัทธ์ในห้องให้กลับเป็นปกติ แต่ถ้ามือแตะแล้วผนังยังเปียกชื้น หรือ สังเกตุเห็นมีราขึ้น ให้เปิดเครื่องดูดความชื้นเป็นประจำ

ข้อสังเกตุเมื่อคุณต้องเปิดเครื่องดูดความชื้น

**สัญญาณสำคัญบอกว่าคุณจำเป็นต้องใช้เครื่องดูดความชื้นคือ เมื่อหน้าต่างมีคราบไอน้ำจับมองเห็นคราบเชื้อรา หรือ เห็นรอยชื้นตามผนัง หรือ บนเพดาน

**ถ้าห้องนั้นเคยโดนน้ำท่วมมาก่อน หลังน้ำลดแนะนำให้ทำความสะอาดห้องก่อนแล้วเปิดเครื่องดูดความชื้นเรื่อย ๆ เพื่อขจัดความชื้นส่วนเกินในอากาศ

2.ใช้เครื่องดูดความชื้นในหน้าร้อน

ในหน้าร้อน หรือ ช่วงอากาศร้อนชื้น ส่วนใหญ่จะมีอากาศที่ชื้นแฉะจนทำให้ตัวเหนียวเหนอะหนะ แบบนี้ให้เปิดเครื่องดูดความชื้นได้เลย จะช่วยปรับระดับความชื้นสัมพัทธ์ในบ้านให้เหมาะสม

**โดยสามารถใช้เครื่องดูดความชื้นควบคู่ไปกับเครื่องปรับอากาศได้ เพราะจะทำให้แอร์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ทำให้อุณหภูมิในห้องเย็นสบาย แถมยังช่วยประหยัดค่าไฟได้ด้วย

3.ใช้เครื่องดูดความชื้นสำหรับการแก้ปัญหาสุขภาพ

สำหรับคนที่เป็นโรคหอบหืด ภูมิแพ้ หรือ เป็นหวัดคัดจมูก ให้เปิดเครื่องดูดความชื้นจะช่วยได้มาก เพราะจะทำให้หายใจได้สะดวกขึ้น ไซนัสโล่ง บรรเทาอาการเป็นหวัดคัดจมูกได้ดี

**โดยรักษาระดับความชื้นภายในห้องให้อยู่ในช่วง 40%-60% จะช่วยบรรเทาโรคระบบทางเดินหายใจ เพราะมันจะลดจำนวนของเชื้อในอากาศ

4.ใช้เฉพาะเครื่องดูดความชื้นบางประเภทสำหรับอากาศหนาว

เครื่องดูดความชื้นส่วนใหญ่ เช่น แบบใช้คอมเพรสเซอร์ จะทำงานได้ไม่เต็มที่เวลาอุณหภูมิต่ำกว่า 18 องศาเซลเซียส ยิ่งอากาศหนาวเท่าไหร่ น้ำแข็งก็ยิ่งเกาะคอยล์ของเครื่องง่ายขึ้น ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง

**ตัวอย่างเครื่องดูดความชื้นแบบใช้สารดูดความชื้น Desiccant Dehumidifier ก็เหมาะจะใช้เวลาอากาศหนาว แนะนำให้ใช้เครื่องดูดความชื้นที่ทำงานได้ดีเวลาอุณหภูมิต่ำ

5.ตำแหน่งการจัดวางเครื่องดูดความชื้นในห้อง

5.1 ตำแหน่งอากาศรอบเครื่องดูดความชื้นต้องถ่ายเทสะดวก

ปกติเรามักจะตั้งเครื่องดูดความชื้นติดผนัง ถ้าช่องลมอยู่ด้านบน แต่ถ้าไม่มีฟีเจอร์ก็ต้องเว้นที่เผื่อไว้รอบ ๆ เครื่อง ให้อากาศถ่ายเท กรณีนี้ห้ามวางเครื่องดูดความชื้นชิดติดผนัง เพราะยิ่งอากาศถ่ายเทสะดวก เครื่องยิ่งทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ระยะเว้นที่ให้อากาศถ่ายเทรอบเครื่องทุกด้านประมาณ 15-30 ซม.

5.2 ระวังเรื่องสายระบายน้ำ

การระบายน้ำจากเครื่องผ่านสายยาง ต้องให้ท่อต่อลงอ่างล้างจาน หรืออ่างอาบน้ำ อย่าให้เอียงไปทางอื่น หมั่นเช็คสายไม่เขยื้อน แนะน้ำยังไหลลงอ่างได้ดี และระวังอย่าให้สายระบายน้ำอยู่ใกล้ปลั๊กไฟ ป้องกันไฟดูดหรือลัดวงจร

5.3 อย่าวางเครื่องดูดความชื้นบริเวณที่มีฝุ่นเยอะ

ให้ตั้งเครื่องดูดความชื้นห่างจากจุดที่ฝุ่นฟุ้ง หรือสิ่งสกปรกเยอะ

6.ตั้งเครื่องในห้องที่ชื้นที่สุด

ห้องที่มีความชื้นแฉะเป็นประจำ เช่น ห้องน้ำ ห้องซักล้าง ห้องใต้ดิน เป็นห้องที่แนะนำให้ตั้งเครื่องดูดความชื้นไว้

7.ตั้งเครื่องดูดความชื้นในระบบ HVAC

สำหรับเครื่องขนาดใหญ่ จะเน้นเชื่อมต่อกับระบบ HVAC จะมาพร้อมท่อต่อและชุดอุปกรณ์ติดตั้งอื่น ๆ ที่จำเป็น เราแนะนำให้ปรึกษาและใช้บริการที่ร้านที่คุณซื้อเครื่องมาโดยตรง

8.ตั้งเครื่องดูดความชื้น 1 เครื่องต่อ 1 ห้อง

เครื่องดูดความชื้นทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ควรตั้งไว้ 1 เครื่องต่อ 1 ห้อง และปิดหน้าต่างและประตูไว้ หรือจะติดตั้งกึ่งกลางระหว่างสองห้องก็ได้ แต่การทำงานจะลดประสิทธิภาพลง

9.ควรตั้งเครื่องดูดความชื้นกลางห้อง

ส่วนใหญ่เครื่องดูดความชื้นจะเป็นแบบติดผนังหรือแบบตั้งเครื่องดูดความชื้นกลางห้องเลย เพื่อให้เครื่องทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

รีวิวเครื่องลดความชื้น LG PuriCare Dehumidifier

ขอบคุณช่องยูทูป ลองให้

FAQS คำถามที่พบบ่อยของเครื่องดูดความชื้น

เครื่องดูดความชื้นช่วยอะไร

เครื่องดูดความชื้น จะลดระดับความชื้น ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์จากเชื้อราในบ้านของคุณ กำจัดกลิ่นเหม็นอับหรือกลิ่นเหม็นเน่า รวมถึงช่วยลดการระคายเคืองต่อผิวและระบบทางเดินหายใจ ช่วยให้คุณหายใจได้ง่ายขึ้นและรู้สึกสบายใจ

และสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นน้อยกว่าในบ้านของคุณ เสื้อผ้าจะแห้งเร็ว ขนมปังและซีเรียสจะยังคงสดใหม่ โดยไม่ทำให้เก่าและคุณจะไม่พบรอยสนิมหรือการกัดกร่อนในสิ่งต่าง ๆ และที่สำคัญเครื่องดูดความชื้นจะช่วยลดต้านทุนด้นพลังงาน เพราะช่วยให้เครื่องปรับอากาศทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เครื่องดูดความชื้นจำเป็นไหม

เครื่องดูดความชื้นมีความจำเป็นอย่างมาก จะช่วยป้องกันการเกิดเชื้อราและแบคทีเรียที่ผนัง และทำให้เชื้อราที่เกาะอยู่ที่ผนังห้องหรือวอลเปเปอร์ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ต่าง ๆ หลุดลอกออกได้ง่าย สามารถควบคุมความชื้นได้ตั้งแต่ 40-70% ลดความชื้นภายในห้องได้ 40 ลิตรต่อวัน

สรุป

เครื่องดูดความชื้นมีความสำคัญมาก และมีประโยชน์มากกว่าที่หลายคนคิด หากไม่มีเครื่องดูดความชื้นอาจทำให้ส่งผลเสียหลายด้าน หากคุณกำลังมองหาเครื่องดูดความชื้น

ลองอ่านบทความนี้แล้วตัดสินใจเลือกเครื่องดูดความชื้นที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณเพราะเครื่องดูดความชื้นแต่ละประเภทเหมาะกับห้องที่มีขนาดแตกต่างกันไป เลือกฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ เลือกจากแหล่งขายที่เชื่อถือได้ มีการรับประกัน การบริการหลังการขาย จากแบรนด์ชั้นนำด้านเครื่องดูดความชื้นยิ่งดี

เครื่องดูดความชื้น HAFELE

เครื่องดูดความชื้น HAFELE
-สำหรับห้องขนาด 20 ตารางเมตร
-วัสดุทำมาจากพลาสติก ABS น้ำหนักเบา
-แรงดันไฟฟ้า 220 โวลต์ กำลังไฟ 240 วัตต์
-ขนาด กว้าง 228 มม. x ลึก 150 มม. x สูง 373 มม.

เครื่องดูดความชื้น Xiaomi

เครื่องดูดความชื้น Xiaomi
-ขนาด กว้าง 334 มม. x ลึก 220 มม. x สูง 470 มม.
-แรงดันไฟฟ้า 220 โวลต์ กำลังไฟ 240 วัตต์
-สามารถเชื่อมต่อผ่าน App Mi Home
-มีฟังก์ชั่นการใช้งานหลายแบบ
-เสียงเบา ไม่รบกวน

เครื่องดูดความชื้น HANABISHI

เครื่องดูดความชื้น HANABISHI
-แรงดันไฟฟ้า 220 โวลต์ กำลังไฟ 36 วัตต์
-สำหรับห้องขนาด 10 – 20 ตารางเมตร
-ปรับสมดุลอากาศภายในบ้าน ลดแบคทีเรีย
-ขนาด 145 มม. x 178 มม. x 222 มม.
-ความจุน้ำสูงสุด 1 ลิตร

เครื่องดูดความชื้น HOMEMATE

เครื่องดูดความชื้น HOMEMATE
-แรงดันไฟฟ้า 220 – 240 โวลต์ กำลังไฟ 600 วัตต์
-ขนาด กว้าง 33 ซม. x ลึก 23 ซม. x สูง 50.4 ซม.
-มีล้อและหูจับ สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก
-สำหรับห้องขนาด 30 ตารางเมตร
-ความจุน้ำสูงสุด 4 ลิตร

เครื่องดูดความชื้น NEW WIDETECH

เครื่องดูดความชื้น NEW WIDETECH
-แรงดันไฟฟ้า 220 โวลต์ กำลังไฟ 420 วัตต์
-ฟิลเตอร์สามารถถอดล้างทำความสะอาดได้
-ล้อสามารถหมุนได้ 360 องศา
-ตั้งเวลาทำงานได้ 12 ชัวโมง
-ความจุน้ำสูงสุด 7 ลิตร

เครื่องดูดความชื้น Electrolmax

เครื่องดูดความชื้น Electrolmax
-รีโหมดคอนโทรลอัจฉริยะ เสียงรบกวนต่ำ ไม่มีน้ำล้นออก
-แรงดันไฟฟ้า 220 – 240 โวลต์ กำลังไฟ 90 วัตต์
-สำหรับห้องขนาด 30 – 90 ตารางเมตร
-มีหน้าจอ LCD แสดงฟังก์ชั่นการทำงาน

เครื่องดูดความชื้น HYSURE

เครื่องดูดความชื้น HYSURE
-ขนาด กว้าง 146 มม. x 146 มม. x สูง 227 มม.
-แรงดันไฟฟ้า 220 โวลต์ กำลังไฟ 23 วัตต์
-ลดความชื้น ลดแบคทีเรีย เสียงรบกวนต่ำ
-สามารถปรับอุณหภูมิในตัวเองได้อัตโนมัติ

เครื่องดูดความชื้น Deerma รุ่น CS50M

เครื่องดูดความชื้น Deerma รุ่น CS50M
-วัสดุทำมาจากพลาสติก ABS คุณภาพสูง
-ขนาด 7.5 ซม. x 7.5 มม. x 20.6 ซม.
-มีช่องดูดความชื้นรอบเครื่อง 360 องศา
-แรงดันไฟฟ้า 220 โวลต์ กำลังไฟ 20 วัตต์
-ใช้งานได้หลากหลาย เช่น ตู้เสื้อผ้า กล่องเก็บรองเท้า

เครื่องดูดความชื้น Biaowang

เครื่องดูดความชื้น Biaowang
-ขนาด 245 มม. x 130 มม. x 375 มม.
-สำหรับห้องขนาด 21 – 40 ตารางเมตร
-หน้าจอ LCD แสดงฟังก์ชั่นการทำงาน
-มีระบบฟอกอากาศ Photocatalyst
-แรงดันไฟฟ้า 220 โวลต์ กำลังไฟ 90 วัตต์
-ถังน้ำสามารถถอดล้างทำความสะอาดได้

เครื่องดูดความชื้น Bwell รุ่น BDH-30

เครื่องดูดความชื้น Bwell รุ่น BDH-30
-แรงดันไฟฟ้า 220 โวลต์ กำลังไฟ 650 วัตต์
-หน้าจอ Digital มีตัวเลขบอกระดับความชื้น
-ขนาด 280 มม. x 370 มม. x 580 มม.
-สำหรับห้องขนาด 30 – 50 ตารางเมตร
-น้ำหนักของสินค้า 18 กิโลกรัม

Best Choice ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุ้กกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า