ส้นเท้าแตกเกิดจากอะไร
1. ผิวแห้ง
สาเหตุที่ทำให้ส้นเท้าของเราแตกนั้น สาเหตุหนึ่งก็มาจากการที่ผิวมีความแห้งกร้าน ขาดการดูแล ยิ่งในช่วงหน้าหนาวที่อากาศค่อนข้างเย็น จะทำให้ผิวแห้งและลอกเป็นขุยได้ง่ายกว่าปกติ นอกจากนี้การทำงานหรือการใช้ชีวิตประจำวันอาจจะต้องเจอกับลมและแสงแดด ซึ่งทำร้ายผิวบริเวณส้นเท้าให้แห้งกร้านและค่อยๆ ลุกลามกลายเป็นส้นเท้าแตก
2. อากาศหนาว
ในช่วงฤดูหนาวนั้นสภาพอากาศจะเย็นและมีลมอ่อนๆ ส่งผลให้ผิวแห้งได้ง่ายกว่าปกติ หากไม่ทาครีมเพื่อบำรุงผิว ผิวก็จะแตกลอกเป็นขุย เช่นเดียวกันกับส้นเท้า ไม่ว่าจะเดินอยู่ที่บ้าน ที่ทำงานซึ่งมีอากาศเย็น ก็จะทำให้ส้นเท้าแห้งและแตก หลายๆ คนจึงมักใส่ถุงเท้าเพื่อป้องกันความหนาว และกันลมที่จะมาทำให้ส้นเท้าแตกได้ รวมไปถึงเลือกใช้ครีมทาส้นเท้าแตก ก็เป็นตัวช่วยที่ใช้ได้เช่นกัน
3. ยืนนาน
การยืนเป็นเวลานานๆ นั้น และการยืนบน รองเท้าส้นสูง จะทิ้งน้ำหนักในร่างกายไปที่ส้นเท้า ซึ่งหากทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จะทำให้ส้นเท้าแตกได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงนักกีฬาที่เท้าได้รับการกระแทกและต้องยืนหรือวิ่งเป็นเวลานานๆ จะทำให้เกิดปัญหาส้นเท้าแตก จึงควรแช่เท้าในน้ำอุ่นก่อนนอนและการทาครีมบำรุงส้นเท้า เพื่อเป็นการป้องกันส้นเท้าแตก
4. ดื่มน้ำไม่เพียงพอ
น้ำเป็นสิ่งที่ให้ความสดชื่น แก้กระหาย และยังให้ความชุ่มชื่นต่อร่างกาย หากดื่มน้ำไม่เพียงพอ จะทำให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ไม่เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นระบบประสาทและสมอง ระบบขับถ่าย ผิวหมองคล่ำ และยังทำให้ผิวแห้ง เมื่อผิวแห้งกร้านจึงแตกลอกได้ง่าย และนี่เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ส้นเท้าของเราแตกนั่นเอง จึงจำเป็นจะต้องบำรุงส้นเท้าด้วยครีมทาส้นเท้าแตกเป็นประจำ
5. สัมผัสกับน้ำนานเกินไป
การแช่เท้าในน้ำหรือการที่เท้าสัมผัสน้ำนานเกินไปนั้น จะทำให้ผิวบริเวณส้นเท้าถูกกัดกร่อนจากน้ำ ทำให้ผิวบริเวณนั้นบางลง เมื่อผิวบอบบางหากเดินหรือยืนนานๆ จะทำให้ส้นเท้าแตกง่ายขึ้น และเมื่อผิวส่วนส้นเท้าบอบบางเมื่อต้องเจออากาศหนาวก็จะแห้งได้ง่าย รวมไปถึงการเดินไปในที่ต่างๆ ที่มีทั้งแดด ฝุ่นและลมก็จะทำให้ส้นเท้าแตก
6. อายุมากขึ้น
เนื่องจากอายุเพิ่มขึ้นทำให้ร่างกายอ่อนแอและบอบบางลง คอลลาเจน ผิวลดน้อยลง เกราะป้องกันต่างๆ ในร่างกายก็จะลดลง และนี่เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ส้นเท้าแตกได้ง่ายขึ้น เพียงเพราะอากาศเปลี่ยนก็ส้นเท้าแตก เดินหรือยืนทำงานก็ส้นเท้าแตก ดังนั้นเมื่ออายุที่เพิ่มมากขึ้นเราจึงต้องใส่ใจสุขภาพร่างกายมากกว่าเดิม
7. โรคอ้วน
การที่มีน้ำหนักตัวที่มากขึ้น หรือบางคนอาจจะเป็นโรคอ้วน ซึ่งร่างกายจะขยายใหญ่ แต่ส่วนขาและเท้าจะขยายได้ไม่มากนัก เมื่อยืนหรือเดินเพราะน้ำหนักตัวที่มาก จะทิ้งลงมาที่ส้นเท้าทำให้ส้นเท้าแตก ซึ่งนอกจากจะเกิดปัญหาส้นเท้าแตกแล้ว ยังสามารถเกิดโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ขึ้นได้ เช่น หากอ้วนแล้วเดินหรือยืนนานๆ จะทำให้เจ็บบริเวณเท้า หรืออาจทีผลต่อกระดูกได้ เป็นต้น
ครีมทาส้นเท้าแตก คืออะไร
ครีมบำรุงส้นเท้าแตก เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดปัญหาส้นเท้าแตก ช่วยบำรุงผิวบริเวณส้นเท้า ให้มีความชุ่มชื่น ไม่แตกลอกง่าย ลดความหยาบ แห้งกร้าน และทำให้ส้นเท้าเรียบเนียนขึ้น ซึ่งหากส้นเท้าที่แตกอยู่แล้วนั้นจะช่วยในการเร่งผลัดเซลล์ผิวบริเวณส้นเท้าที่ลอกออกให้สร้างเซลล์ผิวใหม่ที่เมื่อทาครีมบำรุงแล้วจะให้ความนุ่มชุ่มชื่น ดูสวยสุขภาพดี
ส่วนผสมที่อยู่ในครีมทาส้นเท้าแตกนั้น ส่วนมากจะเน้นไปในเรื่องการให้ความชุ่มชื้น เช่น Pheohydrane, Saccharide Isomerate และสารสกัดต่างๆ จากธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยให้ความชุ่มชื้น เก็บรักษาความชุ่มชื้นได้นาน บำรุงอย่างล้ำลึก ซึมซับเข้าสู่ผิวได้เร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ เพราะเราต้องใช้เท้าเดิน เมื่อเท้าเหนียวอาจจะเดินไม่สะดวก
กลิ่นของครีมบำรุงส้นเท้าแตกนั้นยังให้ความหอมละมุน ให้ความรู้สึกสดชื่น ไม่เหม็นหรือสร้างกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ในขณะที่ทา ซึ่งส่วนมากจะมีสารสกัดจากธรรมชาติ เช่น สมุนไพร ดอกไม้ หรืออาจจะมีกลิ่นคลายน้ำหอม เป็นต้น ทำให้รู้สึกหอมทุกครั้งที่ทา คล้ายกับครีมทาบำรุงผิวกายที่ใช้อยู่เป็นประจำ แต่มีการบำรุงที่ล้ำลึกกว่า
การทาครีมบำรุงส้นเท้าแตกจะช่วยบำรุงส้นเท้าที่แห้งแตก ลอกเป็นขุย ให้ฟื้นฟูสภาพผิวบริเวณนั้น ค่อยๆดีขึ้น เพียงทา 3-5 วันแรก ก็จะเห็นผลว่าส้นเท้าค่อยๆ เรียบเนียนขึ้น ไม่เป็นรอยแข็ง รอยแตกค่อยๆ ตื้นขึ้น และส้นเท้าจะกลับมาเรียบเนียน นุ่มยิ่งขึ้น และทำให้ส้นเท้ากลับมาขาวขึ้นอย่างเป็นธรรม ช่วยให้คุณมีความมั่นใจยิ่งขึ้น
ครีมทาส้นเท้าแตก ที่ดีเป็นอย่างไร
1. มีสวนผสมที่ให้ความชุ่มชื้น
ควรเลือกครีมบำรุงส้นเท้าแตกที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ช่วยให้ความชุ่มชื้น ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิว สามารถฟื้นบำรุงสภาพผิวที่แตก แห้งกร้าน ลอกเป็นขุย ให้กลับมาเนียนนุ่มอีกครั้ง ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่แข็ง แห้งแตก ให้หลุดลอก และผลัดเซลล์ผิวใหม่ให้แข็งแรง สุขภาพดีจากการทาครีมบำรุงส้นเท้า
2. ซึมซาบเร็ว
ครีมทาส้นเท้าแตกที่ดีควรซึมซาบเข้าสู่ส้นเท้าเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ติดบริเวณส้นเท้า เพราะหากเนื้อครีมเหนียว ไม่ซึมซาบเข้าส้นเท้า ในขณะที่เดินนั้น เนื้อครีมอาจจะติดที่รองเท้าหรือติดพื้นเป็นรอย อาจจะทำให้พื้นเป็นคราบมัน และอาจลื่นจนเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ดังนั้นจึงควรอ่านคุณสมบัติและประสิทธิภาพของครีมบำรุงส้นเท้าแตกก่อนเลือกซื้อ
3. ไม่ระคายเคือง
เนื่องจากส้นเท้าที่แตกนั้นอาจจะเป็นบริเวณที่ผิวบอบบาง เพราะเกิดจากการแห้งกร้าน ลอกเป็นขุย มีผื่น ครีมบำรุงส้นเท้าแตกจึงต้องมีส่วนผสมที่อ่อนโยนต่อผิว เมื่อทาแล้วจะได้ไม่รู้สึกระคายเคือง ไม่แสบร้อน เพื่อรักษาสภาพผิวบริเวณส้นเท้า ให้กลับมาเรียบเนียน นุ่มชุ่มชื้น และดูขาวสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติจนลืมไปเลยว่าเคยส้นเท้าแตกมาก่อน
4. กลิ่นหอม
ครีมทาบำรุงเท้าแตก ปัจจุบันมีการปรับปรุงสูตรส่วนผสมต่างๆ ทำให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น และที่สำคัญคือมีการพัฒนาให้มีกลิ่นหอมต่างๆ ให้ได้เลือกซื้อตามความชอบของแต่ละคน โดยส่วนผสมนั้นจะไม่ระคายเคืองต่อผิวบริเวณส้นเท้า เนื่องจากเป็นสารสกัดที่ผลิตมาจากธรรมชาติจึงทำให้ห้อละมุนและอ่อนโยนต่อผิว
วิธีแก้ส้นเท้าแตกร่วมกับการใช้ครีมทาส้นเท้าแตก
1. ดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอ
การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวันเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อร่างกาย เพราะน้ำเป็นสิ่งที่ให้ความชุ่มชื้นต่อร่างกาย ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่ง ช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ดี และที่สำคัญช่วยให้ส้นเท้าไม่แห้งแตกง่ายด้วย ดังนั้นในหนึ่งวันจึงควรดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้ว เพื่อที่ร่างกายจะได้สดชื่น และทำให้ระบบในร่างกายทำงานได้ดียิ่งขึ้น
2. ไม่ควรอาบน้ำอุ่น หรือร้อนจัดจนเกินไป
การอาบน้ำอุ่นเป็นประจำ หรือการอาบน้ำที่ร้อนจนเกินไปนั้นจะทำให้ผิวกาย ผิวหน้า รวมไปถึงบริเวณส้นเท้า แห้งกร้าน ลอกง่าย และทำให้แห้งแตกได้ง่ายขึ้น จึงควรปรับวิธีการอาบน้ำ ให้อาบน้ำที่ไม่ร้อนหรืออุ่นแค่พอประมาณ หรือหากอาบน้ำปกติได้จะถือเป็นการดี เพราะจะทำให้ผิวได้รับความชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน และดูสุขภาพดี
3. เปลี่ยนมาใช้รองเท้าที่รองรับแรงกระแทก และนุ่มขึ้น
การเลือกรองเท้าเป็นเรื่องที่สำคัญเพราะในแต่ละวันคุณอาจมีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำที่ต้องเดินหรือยืนเป็นเวลานาน ดังนั้นการเลือกซื้อรองเท้าที่นุ่มใส่สบาย ไม่ว่าจะเป็น รองเท้าสลิปออนผู้หญิง , รองเท้าแตะสุขภาพ , รองเท้าสกอลล์ , รองเท้าเพื่อสุขภาพ เป็นต้น ซัพพอร์ตเท้าได้ดี รองรับแรงกระแทกต่างๆ จากการเดินหรือวิ่ง จะช่วยถนอมเท้าและส้นเท้า ให้ไม่เกิดการปวดเมื่อย อาการบาดเจ็บต่างๆ จากการเดินนานๆ
4. ทาครีมบำรุงส้นเท้าแตก
การทาครีมบำรุงส้นเท้าแตกเป็นประจำสม่ำเสมอนั้นจะช่วยให้ส้นเท้าดูขาวเรียบเนียน ดูเนียนนุ่มน่ามอง ทำให้คุณดูสวยสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งคุณสมบัติของครีมทาส้นเท้าแตกจะช่วยให้ส้นเท้าชุ่มชื้น ช่วยขัดส้นเท้าให้เรียบเนียน ไม่แพ้การใช้ ที่ขัดส้นเท้า กันเลย ช่วยผลัดเนื้อที่แตกลอกเป็นรอยแข็งๆ ออก เพื่อผลัดเซลล์ผิวบริเวณส้นเท้าใหม่ให้ส้นเท้าดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติ
5. สครับเท้าเป็นประจำ
การสครับเท้าเป็นประจำหรือการใช้ เครื่องนวดเท้า นั้น จะเป็นการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพและลอกเป็นขุย ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดคราบ หรือรอยดำที่ส้นเท้า ดังนั้นจึงควรสครับเท้าเป็นประจำ จะทำให้เซลล์ผิวเก่าหลุดออก และสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่แข็งแรง เรียบเนียนนุ่ม และขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวทำให้ไม่แห้งและแตกง่าย
6. สวมถุงเท้านอน
การสวมถุงเท้านอนจะเป็นการสร้างความอบอุ่นให้กับเท้า ซึ่งบางคนเปิดแอร์ เปิดพัดลมเวลานอน ทำให้อากาศเย็น และมีลมพัดตลอดเวลา จึงส่งผลให้ส้นเท้าแห้งแตกง่ายขึ้นกว่าเดิม การสวมถุงเท้าจะเป็นอีกวิธีหนึ่งซึ่งช่วยปกป้องให้ส้นเท้าไม่แห้งกร้าน ลอกเป็นขุย และแตกเป็นรอย เป็นแผลทำให้ต้องรักษา ซึ่งถุงเท้าจะช่วยกันลมและอากาศที่เย็นได้ดี
7. ใส่รองเท้าเดินในบ้าน
การใส่รองเท้าสำหรับเดินในบ้านนั้น จะช่วยลดแรงกระแทกในการเดินระหว่างพื้นบ้านกับส้นเท้า ซึ่งพื้นบ้านจะมีความแข็งและเย็น จึงทำให้ส้นเท้าที่ไปสัมผัสนั้นแห้งแตก และลอกได้ง่าย ควรเลือกรองเท้าเดินในบ้านที่พื้นนุ่ม รองับการเดินได้ดี ใส่สบาย สามารถใส่เดินในบ้าน ใส่ยืนทำอาหารได้อย่างสบาย ไม่เมื่อยเท้า
วิธีเลือกซื้อครีมทาส้นเท้าแตก
1. ส่วนผสมของครีมบำรุงส้นเท้าแตก
เมื่อจะเลือกซื้อครีมบำรุงส้นเท้าแตกให้อ่านส่วนผสมต่างๆ ที่ใช้ในการผลิต ควรเลือกซื้อครีมทาส้นเท้าที่ระบุส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นแก้ส้นเท้า ช่วยกักเก็บวามชุ่มชื้นได้นาน ช่วยบำรุงให้ผิวชุ่มชื่น ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่แห้งกร้านให้หมดไป และช่วยในการฟื้นบำรุงสภาพผิวที่แห้งกร้าน และแตกลอกจนมีรอยลึก ให้กลับมาเนียนนุ่มได้อีกครั้ง
2. ไม่เหนียวและเหนอะหนะจนเกินไป
เนื้อครีมของครีมบำรุงส้นเท้าแตกควรซึมซาบเข้าสู่ผิวเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ จนสร้างความรำคาญให้กับคุณ เพราะเท้าเป็นสิ่งที่ต้องเดินหรือยืนเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ หากครีมที่ทาเหนียวเหนอะหนะจนไม่สามารถเดินได้ จะทำให้ต้องเสียเวลารอจนแห้ง หรือหากทาขึ้นที่นอนก็อาจจะเปื้อนได้ จึงควรเลือกครีมที่ซึมซาบเร็วไม่เกาะจนเหนียวเกินไป
3. เลือกเนื้อครีมที่เหมาะสม
ครีมทาส้นเท้าแตกมีเนื้อครีมที่หลากหลาย ดังนั้นต้องดูก่อนว่าชอบและเหมาะกับเนื้อครีมแบบใด เช่นหากอากาศเย็นหรือหนาว ก็เลือกเนื้อครีมที่เข้มข้น เหนียวเล็กน้อย เพราะอากาศที่แห้งจะทำให้ครีมแห้งเร็ว หรือหากสภาพอากาศที่ร้อนควรเลือกครีมที่บางเบา ซึมซาบได้เร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ และไหลเยิ้มเนื่องจากอากาศที่ร้อน เป็นต้น
4. เลือกซื้อตามสภาพเท้า
การเลือกซื้อครีมบำรุงส้นเท้าแตก ต้องคำนึงถึงสภาพเท้าและปัญหาที่พบเจออยู่ด้วย เช่น หากส้นเท้าแตกมากจนเป็นรอยลึก แห้งกร้านจนเลือดออก ให้ซื้อครีมทาส้นเท้าที่เข้มข้น สามารถฟื้นฟูได้อย่างเร่งด่วน และผลิตจากธรรมชาติไม่เป็นอันตรายต่อผิวที่แห้งแตกจนบอบบาง เป็นต้น เนื่องจากครีมบำรุงส้นเท้าแตกมีหลายแบรนด์และมีคุณสมบัติที่ต่างกัน
5. ซึมเร็วไม่ไหลเยิ้ม
การเลือกซื้อครีมทาส้นเท้านั้นควรเลือกเนื้อครีมที่ซึมซาบเร็ว เพราะเมื่อทาครีมทาส้นเท้าแตกแล้ว คุณสามารถเดินหรือทำกิจกรรมต่างๆ ได้โดยที่ไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ หรือครีมไหลเยิ้มที่ส้นเท้าจนทำให้เปื้อนพื้น เปื้อนรองเท้า หรือที่นอน หากเนื้อครีมซึมซาบเร็วแล้วจะทำให้คุณไม่ต้องเสียเวลารอให้รีมแห้ง
6. เลือกที่มีกลิ่นหอม
ควรเลือกครีมทาส้นเท้าที่มีกลิ่นหอม เพราะจะทำให้ชื่นชอบการทาครีมทาส้นเท้ามากขึ้น เมื่อทาแล้วจะได้สัมผัสถึงการทาครีมบำรุงผิวกาย ที่หอมสดชื่น มีกลิ่นให้เลือกตามความชอบมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นดอกไม้ กลิ่นสมุนไพร และกลิ่นหอมต่างๆ เมื่อทาแล้วจะได้ความรู้สึกหอมสดชื่น มีความละมุน และไม่ส่งกลิ่นเหม็นให้รบกวนใจด้วย
รักษา ส้นเท้าแตก ให้เนียนนุ่ม
สรุป
การดูแลร่างกายให้สะอาดน่ามองเป็นสิ่งที่สะดุดตาสำหรับผู้ที่พบเห็น ส้นเท้าเป็นส่วนที่เราใช้งานในทุกๆ วัน ซึ่งบางครั้งอาจถูกละเลยและไม่ได้รับการดูแลเลย การสครับส้นเท้า การดื่มน้ำ และการทาครีมทาส้นเท้าแตก จะช่วยให้สุขภาพส้นเท้าของคุณดูดีขึ้น ทำให้ส้นเท้าเรียบเนียน ไม่แตกเป็นรอยและเป็นแผล ช่วยให้ส้นเท้าขาวเนียนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และมีกลิ่นหอมติดทนอีกด้วย
ควบคุมและดูแลการผลิตคอนเท้นส์ ชื่นชอบที่จะนำเสนอคอนเท้นส์ที่ดีๆ มีประโยชน์ให้กับท่านผู้อ่าน
ครีมทาส้นเท้าแตก Ellgy
-เหมาะสำหรับทาส้นเท้าที่แห้ง แตก เป็นขุย
-ช่วยคงความชุ่มชื้นของส้นเท้าได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน
ครีมทาส้นเท้าแตก Polka
-เหมาะสำหรับส้นเท้าที่แห้งกร้าน แตกเป็นร่องลึก
-ป้องกันการสูญเสียน้ำและดูดซับน้ำไว้ใต้ผิวเป็นเวลานาน
ครีมทาส้นเท้าแตก หมอมวลชน
-เนื้อครีมไม่เหนียวเหนาะหนะ ไม่ระคายเคืองผิว
-ช่วยฟื้นบำรุงผิวที่แตก แห้งกร้าน ไม่มีสารกัดกร่อนผิว
ครีมทาส้นเท้าแตก Finale
-เนื้อครีมบางเบากลิ่นหอม ช่วยกลบกลิ่นไม่พึงประสงค์
-ช่วยกำจัดเซลล์ผิวเก่าอย่างอ่อนโยน น่าสัมผัสมากยิ่งขึ้น
ครีมทาส้นเท้าแตก Yoko
-ช่วยลดความหยาบกร้านของส้นเท้า
-ช่วยคืนความชุ่มชื่นอ่อนนุ่มเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ
ครีมทาส้นเท้าแตก Giffarine
-ช่วยลดเลือนรอยดำ ลดจุดสัมผัสกร้าน
-ช่วยบำรุงผิวส้นเท้า ตาตุ่ม หัวเข่า ข้อศอก
ครีมทาส้นเท้าแตก Fuluko
-เนื้อครีมเข้มข้น กลิ่นหอม ดูดซึมเร็ว
-ช่วยซ่อมแซมผิวแห้งหยาบกร้าน แก้ไขปัญหาเท้าทุกชนิด
ครีมทาส้นเท้าแตก Mistine
-เนื้อครีมที่เข้มข้น อุดมด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ
-ช่วยบำรุงผิวและเท้าที่แห้งแตกเป็นขุยให้กลับเนียนเรียบ
ครีมทาส้นเท้าแตก Heel Spa
-เนื้อครีมนุ่มเบา ซึมซับเร็ว กลิ่นหอมอ่อนๆ
-ช่วยสมานรอยแตกของส้นเท้า ให้เท้าเนียนนุ่มชุ่มชื่น
ครีมทาส้นเท้าแตก Himalaya
-ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและต้านการอักเสบ
-ช่วยให้เท้าอบอุ่นและป้องกันไม่ให้ผิวหนังแตก