ขี้ผึ้งทาแผล คืออะไร ทำมาจากอะไร
ขี้ผึ้งทาแผล เป็นยาใส่แผลหรือ ยาทาแผลสด ชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเป็นขี้ผึ้ง โดยมีคุณสมบัติที่จะช่วยบรรเทาและเร่งการสมานแผลตามธรรมชาติของบาดแผลนั้นๆ นิยมใช้ทาแผลที่มีชั้นตื้นเล็กน้อย ไม่ว่าจะเป็นแผลสด แผลถลอก และแผลที่เกิดจากรอยขีดข่วน ไปจนถึงแผลไหม้ในระยะแรกและมีขนาดเล็ก นอกจากนี้ยังสามารถใช้บรรเทาอาการอักเสบของผิวหนังที่เกิดจากการแพ้บางสิ่งบางอย่างได้
ขี้ผึ้งรักษาแผล เป็นยาทาแผลในรูปแบบหนึ่งที่สามารถใช้บรรเทาและรักษาแผลได้ง่าย ส่วนมากจะมีคุณสมบัติในการช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสิ่งที่จะส่งผลกระทบต่อแผลโดยตรง โดยเชื้อแบคทีเรียนั้น จะสร้างผลเสียให้กับแผลที่เป็นอยู่สามารถหายได้ช้า
การที่ขี้ผึ้งรักษาแผลมีส่วนประกอบที่ช่วยยับยั้งเชื้อดังกล่าว ก็จะช่วยลดโอกาสการติดเชื้อซ้ำและแผลก็จะหายได้เร็วขึ้นได้ จะเห็นได้ว่าขี้ผึ้งรักษาแผลนั้นก็เป็นยาทาแผลอีกหนึ่งชนิดที่มีประโยชน์อยู่พอสมควร
นอกจากจะสามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรียได้แล้ว ขี้ผึ้งทาแผลยังมีคุณสมบัติที่ช่วยยับยั้งเชื้อรา โปรโตซัว รวมถึงไวรัสอีกด้วย ซึ่งตัวเนื้อขี้ผึ้งนั้นจะสามารถใช้ทาแผลสดได้ง่าย และยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับแผลอีกด้วย ในกรณีที่ใช้ยาทาแผลประเภทอื่น ก็อาจจะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน
โดยส่วนใหญ่ขี้ผึ้งรักษาแผลจะทำมาจากสมุนไพรต่างๆ โดยเฉพาะสมุนไพรจีนที่มีฤทธิ์ในการสมานแผลและช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งจะประกอบไปด้วยพาแน็กซ์ โนโทจินเซ็ง ดรายนาเรียฟอร์จูน และรูบาร์บ เป็นต้น
ขี้ผึ้งรักษาแผลเป็นยาทาแผลชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์มากมาย สามารถใช้ทารักษาบาดแผลต่างๆ ได้ง่ายและสะดวก อย่างไรก็ตามการจะใช้ขี้ผึ้งมารักษาแผลต่างๆ นั้นจะต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมด้วยว่าแผลมีขนาดเล็กใหญ่ หรือมีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน
ถึงแม้ว่าขี้ผึ้งรักษาทาแผลจะออกแบบมาเพื่อใช้ทาแผลก็ตามแต่การจะนำมาใช้นั้นจะต้องรอให้แผลแห้งสนิทก่อน เพื่อลดอาการต่างๆ โดยเฉพาะการติดเชื้อที่จะส่งผลให้แผลหายได้ช้าลง
นอกจากจะต้องเลือกซื้อ แอลกอฮอล์ , แผ่นลดไข้ , ยาทาแผลในปาก , ยาละลายเสมหะ , ยาอมแก้ไอ , เจลล้างมือ เป็นต้นแล้ว ขี้ผึ้งทาแผลก็เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ควรซื้อไว้ติดบ้าน ช่วยรักษาแผลสดหรือสมานแผลสดได้เป็นอย่างดี
อีกทั้งหลังจากการรักษาแผลให้หายสนิทแล้วนั้น แผลเหล่านั้นก็มักจะทิ้งรอยแผลเป็นไว้ให้จดจำ แต่เราสามารถลบรอยแผลเป็นจากบาดแผลต่างๆ ได้ ด้วยการเลือกใช้ ครีมทาแผลเป็น , โลชั่นผิวขาว , ครีมลดรอยแตกลาย และยังมีผลิตภัณฑ์ที่ช่วยบำรุงผิวและลดรอยแผลเป็นอีกหลากหลาย
ประโยชน์ของขี้ผึ้งทาแผล สรรพคุณ
1. ช่วยบรรเทาและสมานแผล
ขี้ผึ้งรักษาแผลเป็นยาทาแผลชนิดหนึ่งที่นิยมใช้ทาเพื่อรักษาแผล เช่น แผลสด แผลถลอก แผลเย็บ แผลผ่าตัด แผลไฟไหม้ และแผลติดเชื้อ เป็นต้น ซึ่งมีคุณสมบัติที่ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด และสมานแผลให้หายได้เร็วขึ้น ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของแผลที่เป็นด้วยว่าต้องใช้ระยะเวลาในการรักษานานแค่ไหน
2. ปกป้องและยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย
ขี้ผึ้งรักษาแผลส่วนใหญ่มักจะมีส่วนประกอบที่มีฤทธิ์ช่วยปกป้องและยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย หรือเรียกอีกอย่างว่าฆ่าเชื้อ ซึ่งจะช่วยให้เชื้อแบคทีเรียและสิ่งสกปรกต่างๆ ไม่สามารถเข้ามาทำลายบาดแผลได้ ในกรณีที่บาดแผลมีการติดเชื้อก็จะส่งผลให้หายช้า เพราะฉะนั้นการที่จะช่วยให้แผลหายได้เร็วขึ้นจึงต้องมีส่วนประกอบที่สามารถฆ่าเชื้อได้
3. ลดอาการคันจากการถูกยุงกัด
นอกจากใช้รักษาแผลได้แล้ว ขี้ผึ้งทาแผลบางชนิดยังสามารถใช้ทาเพื่อลดอาการคันจากการถูกยุงกัดได้ด้วย ซึ่งมีจำนวนคนไม่น้อยที่นิยมใช้ขี้ผึ้งมาทาบริเวณที่ถูกยุงกัด เพราะนอกจากจะช่วยลดหรือบรรเทาอาการคันได้แล้ว ยังช่วยรักษาแผลจากการถูกยุงกัดไปในตัวด้วย
4. รักษาอาการของโรคผิวหนัง
ขี้ผึ้งสามารถใช้ทาแผลหรือรักษาอาการที่เกิดจากโรคผิวหนังได้ ไม่ว่าจะเป็นกลาก เกลื้อน หิด หรือแม้กระทั่งผิวหนังที่มีเชื้อราและเชื้อแบคทีเรีย เนื่องจากว่ามีคุณสมบัติในการช่วยยับยั้งเชื้อดังกล่าวได้ เพราะฉะนั้นการนำขี้ผึ้งรักษาแผลมาใช้ก็จะช่วยบรรเทาอาการที่เป็นอยู่ได้
5. ใช้ทาแผลได้อย่างหลากหลาย
นอกจากแผลสดหรือบาดแผลที่เกิดจากอุบัติเหตุแล้ว แผลประเภทอื่นๆ เช่น แผลผ่าตัด แผลฟกช้ำ แผลพุพอง แผลจากการโดนน้ำร้อนลวก แผลจากการกดทับ หรือแผลที่เกิดจากสาเหตุต่างๆ รวมไปถึงผู้ที่ผ่านการผ่าตัดเสริมจมูกและศัลยกรรมอื่นๆ ก็สามารถใช้ขี้ผึ้งรักษาแผลเพื่อช่วยบรรเทาอาการที่เป็นได้
วิธีการเลือกซื้อขี้ผึ้งทาแผล
1. เลือกให้เหมาะกับลักษณะบาดแผล
บาดแผลมีอยู่ด้วยกันหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นแผลสด แผลถลอก แผลติดเชื้อ แผลเย็บ และแผลศัลยกรรม ซึ่งแผลแต่ละประเภทก็จะมีลักษณะที่แตกต่างกัน หากเป็นบาดแผลขนาดเล็กและไม่รุนแรงมากก็อาจเป็นแผลตื้น แต่ถ้าหากบาดแผลมีขนาดใหญ่และรุนแรงก็อาจเป็นแผลลึกและเลือดออก ดังนั้นควรเลือกซื้อขี้ผึ้งรักษาแผลที่เหมาะกับบาดแผลจะดีที่สุด
2. เลือกซื้อที่มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อ
ขี้ผึ้งทาแผลควรจะมีคุณสมบัติที่สามารถฆ่าเชื้อได้ เพราะแผลที่เป็นใหม่ๆ จะมีโอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ง่าย ซึ่งส่งผลให้แผลดังกล่าวหายได้ยากกว่าเดิม ดังนั้นการจะเลือกซื้อขี้ผึ้งมาใช้รักษาแผล ก็ควรเลือกยาที่มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อ เพราะจะช่วยป้องกันและยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่จะเข้ามาทำลายแผลที่เป็นได้
3. เลือกที่ไม่ก่อให้เกิดความระคายเคือง
ขี้ผึ้งรักษาแผลที่ดีควรจะมีฤทธิ์ที่สามารถฆ่าเชื้อได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ควรก่อให้เกิดความระคายเคืองซึ่งคุณสมบัตินี้ต้องพิจารณาจากส่วนประกอบของขี้ผึ้งเป็นหลักว่ามีส่วนประกอบหรือส่วนผสมใดที่มีฤทธิ์รุนแรงและทำให้ระคายเคืองหรือไม่
4. ขนาดและปริมาณ
ขนาดและปริมาณของขี้ผึ้งรักษาแผลก็เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อเช่นเดียวกัน เพราะขนาดและปริมาณจะเป็นบ่งบอกว่าสามารถใช้งานได้นานมากน้อยแค่ไหน หากไม่สะดวกที่จะต้องซื้อหลายครั้ง ควรเลือกขนาดกลางหรือใหญ่ตามความเหมาะสม หรือในกรณีที่ต้องการจะพกพาติดตัวก็ควรเลือกที่มีขนาดเล็ก
การใช้ขี้ผึ้งทาแผลกับแผล
1. แผลศัลยกรรม ผ่าตัด
ผู้ที่มีแผลศัลยกรรม หากจะใช้ขี้ผึ้งในการรักษาแผลดังกล่าวก็ควรทาแบบบางๆ เพราะแผลที่เกิดจากการผ่าตัด หรือแผลศัลยกรรมต่างๆ นั้นมักจะมีอาการช้ำอยู่ จึงควรใช้ขี้ผึ้งรักษาแผลแบบบางๆ โดยแนะนำให้ทาทั้งเวลาเช้าและเย็น ทาต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอ 1 จนครบ 1 สัปดาห์
2. เสริมจมูก
หลังจากการจากการผ่าตัดเสริมจมูก ควรดูแลแผลอย่างรอบคอบและระมัดระวัง โดยให้ใช้ขี้ผึ้งรักษาแผลทาบางๆ บริเวณแผลที่ทำการผ่าตัดเสริมจมูก ควรทาแบบบางๆ และเบามือมากที่สุด เพื่อลดอาการพกช้ำและสมานแผลให้หายได้เร็วขึ้น แนะนำให้ใช้ขี้ผึ้งรักษาแผลทาในเวลาเช้าและเย็นทุกๆ วันจนครบ 1 สัปดาห์
3. แผลติดเชื้อ
สำหรับแผลติดเชื้อควรจะให้ความสำคัญในเรื่องความสะอาดมากเป็นพิเศษ ขึ้นชื่อว่าเป็นแผลติดเชื้อแล้ว การดูแลจะต้องระมัดระวังไม่ให้มีการติดเชื้อซ้ำ เพราะจะส่งผลให้แผลติดเชื้อและหายได้ช้ามากกว่าเดิม ซึ่งทำให้เสียเวลาในการรักษาพอสมควร ดังนั้นควรทำความสะอาดและใช้ขี้ผึ้งทาแผลทาไปทั่วบริเวณที่เป็นแผล และใช้พลาสเตอร์หรือผ้าพันแผลปิดไว้เพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำ
4. แผลสด แผลถลอก
แผลสด และแผลถลอก เป็นแผลที่สามารถใช้ขี้ผึ้งรักษาแผลมาทาบรรเทาอาการเจ็บปวด และรักษาแผลให้หายได้ แต่ก่อนจะทาต้องสังเกตก่อนว่าแผลสดหรือแผลถลอกที่เป็นอยู่นั้นมีขนาดเล็กหรือใหญ่ และรุนแรงมากน้อยแค่ไหน รวมถึงมีเลือดออกหรือไม่ แนะนำให้ใช้น้ำเกลือล้างแผลให้สะอาดก่อน จากนั้นรอให้แห้งและทาขี้ผึ้งรักษาแผลลงบนแผลให้ทั่ว
5. แผลเย็บ
แผลเย็บเป็นแผลที่ต้องดูแลมากเป็นพิเศษ เพราะมีโอกาสที่จะติดเชื้อได้ง่าย หลังจากคุณหมอเย็บแผลเสร็จแล้วควรระมัดระวังไม่ให้แผลโดนน้ำและความชื้น เพราะถ้าหากโดนความชื้นจะทำให้เชื้อแบคทีเรียเข้ามาทำลายแผลจนหายได้ยากขึ้น หากจะใช้ขี้ผึ้งทาแผลควรจะรอให้แผลหายดีในระดับหนึ่งก่อน
6. แผลฉีกขาด
เมื่อมีแผลฉีกขาดควรจะล้างแผลด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำเกลือ ในช่วงแรกควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแผลชนิดต่างๆ เพราะอาจทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อ และทำให้ระคายเคืองจนมีอาการอักเสบได้ เนื่องจากแผลมีการฉีกขาด จึงควรล้างแผลอย่างเบามือ รอให้แห้งแล้วปิดแผล หากจะใช้ขี้ผึ้งรักษาแผลควรรอให้แผลหายดีในระดับหนึ่งก่อน
7. แผลในปาก
ในกรณีที่มีแผลในปากก็สามารถใช้ขี้ผึ้งในการรักษาแผลได้เช่นกัน แต่ควรจะเลือกขี้ผึ้งรักษาแผลที่ใช้แล้วไม่เป็นอันตราย และแบบที่สามารถทาแผลในปากได้ ซึ่งถ้าหากใครที่มีแผลในปากที่มีอาการอักเสบรุนแรงก็อาจใช้แบบที่มีสเตียรอยด์ เพื่อบรรเทาอาการดังกล่าวให้หายได้เร็วขึ้น
8. แผลพุพอง
ในกรณีที่มีแผลพุพอง ก่อนจะใช้ขี้ผึ้งรักษาแผลควรจะทำความสะอาดหรือล้างแผลด้วยสบู่สูตรอ่อนโยน จากนั้นใช้ขี้ผึ้งรักษาแผลให้ทั่วแผลดังกล่าว โดยต้องทาอย่างเบามือ และระมัดระวังการลงน้ำหนักมือในการทา เพราะถ้าหากทาแรงอาจทำให้แผลอักเสบมากขึ้นกว่าเดิม
วิธีรักษาแผลให้หายเร็ว
1. ทำความสะอาดแผลอย่างเหมาะสม
การทำความสะอาดแผลเป็นขั้นตอนการรักษาแผลที่สำคัญมาก หลายคนอาจไม่ได้ให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดแผล จนทำให้มีปัญหาต่างๆ ตามมา ดังนั้นหากเกิดแผลสดใหม่ๆ ควรทำการล้างหรือทำความสะอาดแผลก่อนที่จะใช้ขี้ผึ้งทาแผลหรือยาทาแผลอื่นๆ มารักษา แนะนำให้ใช้น้ำเกลือที่ปราศจากเชื้อในการทำความสะอาดแผล
2. ใช้ยาทาแผลให้เหมาะกับบาดแผล
การใช้ยาทาแผลเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญมากเช่นเดียวกัน เพราะเป็นขั้นตอนการทำแผลหรือรักษาแผลเพื่อให้หายได้เร็วขึ้น ซึ่งควรจะใช้ยาทาแผลที่มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียในบาดแผล และสารที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่หรือสมานแผลตามธรรมชาติ เพื่อลดการติดเชื้อซ้ำและทำให้แผลดังกล่าวหายได้เร็วขึ้น
3. ดูแลบาดแผลอย่างรอบคอบ
หลังจากรักษาแผลเสร็จแล้ว ในระหว่างที่รอให้แผลหายดีก็ควรจะใส่ใจดูแลแผลอย่างรอบคอบ ควรระมัดระวังไม่ให้แผลสัมผัสกับความชื้นและสิ่งสกปรกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น ควัน หรือมลภาวะต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อแผลได้ โดยเฉพาะแผลที่มีขนาดใหญ่และรุนแรงจะต้องดูแลมากเป็นพิเศษ
4. พักผ่อนให้เพียงพอ
การพักผ่อนให้เพียงพอก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้บาดแผลที่เป็นอยู่สามารถหายได้เร็วขึ้น เพราะในระหว่างที่นอนหลับอยู่นั้น ร่างกายก็จะทำการฟื้นฟูและซ่อมแซมส่วนต่างๆ รวมถึงบาดแผล ไม่ว่าจะเป็นแผลสด แผลถลอก แผลติดเชื้อ แผลเย็บ แผลศัลยกรรม ไปจนถึงการผ่าตัดเสริมจมูก หากร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ก็จะทำให้แผลดังกล่าวหายได้เร็วขึ้น
5. ดื่มน้ำเยอะๆ และหลีกเลี่ยงอาหารบางประเภท
นอกจากการพักผ่อนแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยทำให้บาดแผลที่เป็นอยู่หายได้เร็วขึ้นก็คือการดื่มน้ำเยอะๆ เพราะร่างกายมีน้ำเป็นส่วนประกอบมากถึง 70% น้ำจึงมีส่วนสำคัญในการฟื้นฟูและรักษาแผลให้หายได้ หากร่างกายขาดน้ำก็จะส่งผลให้ระบบต่างๆ ภายในร่างกายทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นควรดื่มน้ำเยอะๆ และหลีกเลี่ยงอาหารบางประเภท เช่น ของหมักดอง อาหารดิบ และแอลกอฮอล์ เป็นต้น
คำถามที่พบบ่อย
1. เป็นแผลสดห้ามกินอะไร
ผู้ที่มีบาดแผลสดควรจะหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย ซึ่งประกอบด้วยอาหารหมักดอง อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ รวมถึงอาหารดิบ นอกจากนี้ก็ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ เพราะจะส่งผลให้สามารถติดเชื้อและอักเสบได้ง่ายขึ้น จนทำให้แผลหายได้ช้า
2. แผลสดกี่วันหาย
การที่แผลสดจะหายได้นั้นอาจใช้เวลามากน้อยที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับร่างกายและความรุนแรงของแผล รวมถึงการดูแลรักษาของแต่ละคน หากดูแลรักษาแผลสดเป็นอย่างดีก็อาจหายได้โดยที่ใช้เวลาไม่นาน แต่ถ้าหากดูแลรักษาแผลสดได้ไม่ดีพอก็อาจต้องใช้เวลาสักระยะ สำหรับแผลที่มีขนาดเล็กและไม่รุนแรงนั้นมักจะมีการตกสะเก็ดและหายภายใน 2-3 วัน ส่วนบาดแผลขนาดใหญ่และรุนแรงก็ต้องใช้เวลานานขึ้น
4 วิธีรักษาแผลให้หายเร็ว หายไว
สรุป
ขี้ผึ้งทาแผล เป็นยาทาแผลอีกหนึ่งชนิดที่จะช่วยบรรเทาและรักษาแผลประเภทต่างๆ ซึ่งมีฤทธิ์ที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อโรคอื่นๆ ที่จะเข้ามาทำลายบาดแผลที่เป็นอยู่ให้หายได้ช้า โดยทั่วไปแล้วมักจะมีส่วนประกอบที่เป็นสมุนไพร ที่มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่จะเข้ามาทำลายแผล รวมถึงมีความสามารถในการช่วยบรรเทาและสมานแผลให้หายได้เร็วขึ้น หากจะนำขี้ผึ้งมาใช้ในการรักษาแผลประเภทต่างๆ ก็ควรพิจารณาจากความเหมาะสมเป็นหลัก
เจ้าของร้านขายยาโดยเภสัชกรชั้นนำหลายสาขา ขายดีจ่ายยาแล้วคนไข้หายจนเป็นที่ยอมรับ การศึกษาปริญญาตรีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโทจากประเทศออสเตรเลีย มีความรู้ และประสบการณ์เกี่ยวกับ สุขภาพ อาหารเสริม ตลอดจนอุปกรณ์ทางการแพทย์ ประสบการณ์ยาวนานมากกว่า 10 ปี
ขี้ผึ้งทาแผล Laong Herbal
-ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว ผิวไม่แห้งตึง และไม่เป็นขุย
-สามารถใช้ได้กับผิวที่แพ้ง่ายและผิวที่มีอาการระคายเคือง
ขี้ผึ้งทาแผล Betadine
-เหมาะสำหรับใช้ทาแผลสด แผลไฟไหม้ แผลน้ำร้อนลวก
-ปริมาณสุทธิของสินค้า 50 กรัม ล้างออกง่าย ไม่ติดเสื้อผ้า
ขี้ผึ้งทาแผล BANOCIN
-สามารใช้ทาหรือแต้มที่หัวสิว เพื่อลดการอักเสบ
-เหมาะสำหรับทาแผลพุพอง และผิวหนังเป็นหนอง
ขี้ผึ้งทาแผล No.41
-สำหรับทาโรคผิวหนังที่เกิดจากอาการแพ้และโรคเรื้อน
-มีประสิทธิภาพแก้ปวด แก้คัน สมานแผล ลดรอยแผลเป็น
ขี้ผึ้งทาแผล Mebo
-เหมาะสำหรับทาแผลจากการฉายรังสีและแผลไฟไหม้
-ช่วยให้แผลสมานตัวเร็วขึ้นและช่วยป้องกันการติดเชื้อ
ขี้ผึ้งทาแผล Zambuk
-มีส่วนประกอบของน้ำมันยูคาลิปตัส และการบูร
-เหมาะสำหรับทาแก้เคล็ด ขัด ยอก ปวดเมื้อยกล้ามเนื้อ
ขี้ผึ้งทาแผล Fullext
-สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่คลุมทุกชนิดบนผิวหนังได้ดี
-เหมาะสำหรับทาแผลกดทับ แผลเบาหวาน และแผลเรื้อรัง
ขี้ผึ้งทาแผล oronine
-ช่วยห้ามเลือดได้ รักษาสิว เกลื้อน เชื้อรา ไร้สารสเตียรอยด์
-เหมาะสำหรับทาแผลสด คันในร่มผ้า น้ำกัดเท่า ฮ่องกงฟุต
ขี้ผึ้งทาแผล 29A
-ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา รูปทรงพกพาสะดวก
-เหมาะสำหรับทารักษาแผลภายนอก เช่น หิด ชันนะตุ
ขี้ผึ้งทาแผล Neosporin
-สามารถใช้ทาเบื้องต้นเพื่อการปฐมพยาบาลได้เป็นอย่างดี
-ช่วยฆ่าเชื้อ ไม่แสบ และเป็นสินค้านำเข้าจากอเมริกา USA