วิธีวัดไซส์เท้าที่ถูกต้อง
1.อุปกรณ์ที่ควรเตรียมมีเพียงแค่ กระดาษขนาด A4, ปากกา หรือดินสอ, ไม้บรรทัด หรือสายวัด
2.วางเท้าบนกระดาษเปล่า A4 โดยการใช้ปากกา หรือดินสอในการวาดรูปเท้าของตัวเราเอง
3.ควรเริ่มต้นจากจุดของนิ้วเท้า ที่มีความยาวกว่านิ้วอื่นๆ โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นนิ้วโป้ง โดยเริ่มวาด จากด้านซ้าย หรือ ขวาของนิ้วโป้งด้านใดด้านหนึ่งก่อน
4.การวาด หรือวางปากกาลงบนกระดาษนั้น ควรวางด้ามให้ตรง เพื่อให้เส้นที่วาดรูปเท้า ไม่บิดเบี้ยว, ไม่เข้าไปด้านในเท้า หรือออกนอกเส้นรูปเท้า
5.การเริ่มต้นวาดจากนิ้วโป้ง ให้มาจรดที่ส้นเท้าด้านใดด้านหนึ่งก่อน หลังจากนั้นค่อยเริ่มต้นวาดส่วนของนิ้วโป้งอีกด้าน ไปจรดกับส้นเท้าอีกด้านที่เหลือ
6.เมื่อได้รูปเท้าแล้ว ให้ใช้ไม้บรรทัด หรือสายวัดเพื่อวัดความยาวของเท้า โดยใช้หน่วยเป็นเซนติเมตร เพื่อเทียบค่าตามในตารางด้านล่าง
ตารางเปรียบเทียบขนาดเท้ากับเบอร์รองเท้า
ขนาดเท้า (ซม.) | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
EU | 36 | 38 | 40 | 42 | 44 | 46 |
UK | 4 | 5.5 | 7 | 8 | 10 | 12 |
US | 4.5 | 6 | 7.5 | 8.5 | 10.5 | 12.5 |
ประเภทรองเท้าหนังผู้ชาย
1.รองเท้าหนังผู้ชายทรง Oxford
เป็นประเภทของรองเท้าหนังของผู้ชาย ที่มีความคล้ายกับรูปทรง Derby เป็นอย่างมาก แตกต่างกันเพียงแค่ ส่วนหนังที่เป็นจุดร้อยเชือก โดยหากเป็นทรง Oxford นั้นจะมีการเย็บหนังส่วนร้อยเชือกนี้ให้ชิดกันทั้ง 2 ด้าน ซี่งการตัดเย็บแบบนี้ ทำให้เมื่อผูกเชือกแล้ว จะทำให้แผ่นหนังทั้งด้านซ้าย และด้านขวาของรูร้อยเชือก จะแนบสนิทกัน ไม่เห็นลิ้นรองเท้า
ซึ่งการตัดเย็บรูปทรงรองเท้าประเภทนี้นั้น เป็นการใส่ใจ และต้องการให้ผู้สวมใส่ ได้มองเห็นถึงความประณีต ที่ช่างตัดรองเท้าไม่ต้องการให้เห็นทั้งเชือกที่ร้อยด้านในรองเท้า และตัวหนังที่เป็นลิ้นรองเท้า ตั้งแต่รูร้อยเชือกแถวแรกด้านบน จนถึงรูร้อยเชือกแถวสุดท้ายปลายขอบ
การใช้งานรองเท้าในรูปแบบนี้ จึงเน้นในงานพิธีการมากๆ หรืองานที่เน้นความเป็นทางการ รวมถึงหากผู้ชายคนไหน เลือกที่จะใส่รองเท้าประเภทนี้ ถือว่าเป็นการบ่งบอกรสนิยมส่วนตัวได้เป็นอย่างดี สำหรับการใส่ใจในรายละเอียดในการแต่งตัว เพราะไม่ใช่ผู้ชายทุกคน จะชอบการใส่รองเท้าที่ร้อยเชือกแบบนี้
รูปแบบ Oxford Cap Toe
ทรงรองเท้าแบบนี้ ที่แยกย่อยออกมาจากประเภทของรองเท้าหนังผู้ชายนั้น เป็นรูปแบบการตัดเย็บเก็บหัวรองเท้า ให้มีทั้งการเพิ่มรายละเอียดส่วนหัวที่มีความมนแล้ว ยังถือเป็นจุดสังเกต ที่สร้างความแตกต่างให้กับรองเท้าหนัง Oxford รุ่นนี้กับ รองเท้าหนัง Oxford รุ่นอื่นๆ การเตรียมเสื้อผ้าและเครื่องใช้ในการแต่งตัวไม่ว่าจะเป็น นาฬิกา Fossil หรือ นาฬิกาผู้ชายสายหนัง และ กางเกงสแล็ค จะช่วยให้เราจับคู่เสื้อผ้า กับเครื่องใช้ในการแต่งตัวต่างๆ ได้ดีมากขึ้น
รูปแบบ Whole Cut Oxford
รูปแบบของรองเท้าหนัง Oxford นี้ก็คือ เราสังเกตได้ง่ายๆ เลยว่า หนังที่นำมาตัดเป็นรองเท้านั้น จะเป็นชิ้นเดียวกันทั้งคู่ มีความเรียบ, ง่าย และเน้นเพียงแค่เอกลักษณ์ของความเป็นรองเท้าหนัง Oxford เรื่องของการร้อยเชือก ที่แผ่นหนังทั้ง 2 ด้านต้องแนบชิดกัน มีส้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ซึ่งในรูปแบบนี้นั้น ยังสามารถที่จะใช้ใส่ในงานแบบเป็นทางการได้เหมือน Oxford รูปแบบอื่นๆ เพียงแต่การเลือกในรูปแบบนี้ จะเป็นผู้ชายที่เน้นความเรียบง่าย ไม่เน้นการตัดเย็บแบบ cap toe หรือแบบ ฉลุลาย (Semi Brogue Oxford) ที่สำคัญการเลือกรองเท้าหนังในรูปแบบนี้ มีการใช้งานได้ครอบคลุม รวมถึงใช้งานได้หลายโอกาสมากกว่าอีกด้วย
รูปแบบ Semi Brogue Oxford
รูปแบบนี้จะมีลักษณะภายนอกที่ตรงข้ามกับ รูปแบบ Whole Cut Oxford ตรงที่มีการเพิ่มรายละเอียดที่มากขึ้นกว่า ทั้ง 2 รูปแบบข้างต้น ด้วยการฉลุลาย หรือที่เรียกว่า Brogue ทั้งในส่วน cap toe, ส่วนที่เป็นแผ่นหนังร้อยเชือก และส่วนที่เป็นส้นด้านหลัง และด้วยการออกแบบเฉพาะแบบนี้นั้น ทำให้เราได้เห็นความชอบของผู้ชาย ที่เลือกรูปแบบรองเท้าหนังแบบนี้ได้ดีอีกด้วย
2.รองเท้าหนังผู้ชายทรง Loafers
เป็นรองเท้าที่มีรูปทรงที่ให้ความรู้สึกที่ลำลอง ในแบบ casual แต่ก็มีความเป็นทางการเล็กๆ ด้วยความเป็นหนัง และแบบที่เรียบง่าย อาจมองคล้ายกับรองเท้าแบบ slip on หรือคล้ายกับทรง Driving Shoe แต่ในความเหมือนรูปทรงนั้น ก็มีความต่างตรงที่ รองเท้าหนังผู้ชาย ประเภท Loafers มีส้นที่สูงขึ้นมาหากเปรียบเทียบกับ Driving Shoe
รวมถึงหากมองในเรื่องของการเป็นรองเท้าที่ใส่ทำงาน ที่มีราคาถูกว่าทรง Oxford และเอกลักษณ์ของการเป็นรองเท้าหุ้มส้นแบบที่ไม่ใช่หัวแหลม ในความเรียบง่ายของรองเท้าประเภทนี้ ที่สามารถสวมใส่ได้ทันที ไม่มีการร้อยเชือก หรือผูกเชือกเหมือนประเภท Oxford
รองเท้าในแบบ Loafers จึงเป็นทรงรองเท้าหนัง ที่เหมาะกับผู้ชายที่เน้นความรวดเร็ว อย่างการใช้ที่ โกนหนวดไฟฟ้า หรือ แปรงสีฟันไฟฟ้า รวมถึงรองเท้าหนัง Loafers นั้นก็จะมีแบ่งแยกย่อยออกมาในรูปแบบเดียวกัน แต่เพิ่ม และเน้นในรายละเอียดตรงด้านหน้าของรองเท้า ตามรสนิยม และสไตล์ของผู้ชายแต่ละคนร่วมด้วย ดังนี้
รูปแบบ Penny Loafers
เป็นรูปแบบตั้งต้นของทรงรองเท้าประเภท Loafers ที่เน้นความเรียบ และดูดี รวมถึงลูกเล่นที่ใครหลายคนอาจได้คลายความสงสัย สำหรับแถบหนังที่คาดหลังเท้านั้น ไว้สำหรับเก็บเหรียญเพนนี ซึ่งเป็นที่มาของชื่อรูปแบบนี้ว่า Penny Loafers เหมาะกับรูปแบบการนั่ง โต๊ะทำงาน พร้อมด้วย ถ้วยกาแฟ ที่ผ่านการชง กาแฟสำเร็จรูป หรือจาก เครื่องชงกาแฟแคปซูล
รูปแบบ Tassel Loafers
เริ่มมีการเพิ่มรายละเอียด ในการสร้างความน่าจดจำ ให้กับรูปแบบของรองเท้าหนังทรง Loafers นี้ด้วยการเพิ่มตัวพู่ที่ทำจากหนังแบบเดียวกับตัวรองเท้า โดยที่สีของพู่จะตามสีหนังของตัวรองเท้า
รูปแบบ Horsebit Loafers
เป็นตัวเลือกสำหรับผู้ชาย ที่เน้นรายละเอียดของรองเท้าหนัง ที่มีความดูดีท่ามกลางความเรียบง่าย อย่างการใส่สายรัดด้านบนหลังเท้า ที่เป็นโลหะมีสีทองเหลือง หรือสีเงิน
3.รองเท้าหนังผู้ชายทรง Driving Shoe
เป็นประเภททรงรองเท้าหนัง ที่มีความคล้ายรูปแบบรองเท้า slip on ที่มีความผสมผสานระหว่างรองเท้าผ้าใบในแบบที่ไม่มีเชือกร้อย การสวมใส่จึงเป็นการสวมที่มีความสะดวกสบายต่อผู้สวมใส่อีกด้วย แต่สิ่งที่มีความแตกต่างไปจาก slip on ก็คือ พื้นรองเท้าด้านล่าง ที่เป็นส่วนสัมผัสกับพื้นผิวถนน จะมีปุ่มยาง ที่เป็นการเจาะเพื่อนำหมุดมาสอด ให้สามารถยึดเกาะพื้นผิวที่เดินได้ดียิ่งขึ้น
รวมถึงเป็นที่มาของชื่อทรงรองเท้าประเภทนี้ด้วยว่า Driving Shoe หากจะให้พูดไปแล้ว รองเท้าประเภทนี้มีความกึ่งๆ ระหว่าง slip on ของภาพรองเท้าผ้าใบ กับประเภทรองเท้าหนังผู้ชายทรง Loafers
ถึงแม้รองเท้าทรง Driving Shoe จะจัดว่า เป็นรองเท้าที่ไม่มีส้นเลย ถ้าเทียบกับประเภททรงรองเท้าทั้งหมดนี้ แต่ก็เรียกได้ว่า เป็นที่นิยมในการสวมใส่ สำหรับผู้ชายในทุกวันนี้อยู่ ด้วยความที่สามารถใส่ได้ทุกโอกาส และมีให้ความสบายเท้าได้มากกว่า รองเท้าแตะแบบ sandal หรือ รองเท้าแตะผู้ชาย อีกด้วย
4.รองเท้าหนังผู้ชาย Derby
หลายคนมองเห็นว่า รองเท้าหนังสำหรับผู้ชายทรงประเภท Derby นั้นไม่มีความต่างไปจากทรง Oxford เลย แต่ในรายละเอียดปลีกย่อย มีความต่างอยู่พอสมควรทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ Open Lace หรือ Open Lancing ที่ส่วนปลายหนังที่เป็นรูร้อยเชือก จะแยกออกจากกัน ซึ่งหากเป็น ทรงรองเท้าหนังสำหรับผู้ชายประเภท Oxford จะแนบชิดเป็นชิ้นเดียวกัน
ในส่วนของหัวรองเท้าด้านหน้า ที่ถึแม้จะมีความต่างจากทรง Oxford โดยที่ทรง Derby นั้นจะมีหัวแหลมในรูปแบบหน้าเท้ากว้าง ดังนั้นไม่ว่าผู้ชายที่มีเท้าขนาดใหญ่ หรือหน้าเท้าไซส์ใหญ่ ก็สามารถที่จะเลือกใส่ทรงนี้ได้ ในแบบที่เป็นได้ทั้งรองเท้าใส่ทำงาน และรองเท้าหุ้มส้น ที่มีราคาถูกว่า ทรง Oxford อีกด้วย
รวมถึงด้วยความที่ส่วนปลายหนัง ที่เป็นรูร้อยเชือกแยกออกจากกันนั้น ทำให้ในเวลาร้อยเชือก รูเชือกทั้ง 2 ข้างจะไม่แนบชิดกันเหมือนอย่างทรง Oxford และถ้าเป็นรุ่นของ Derby นั้นจะมีการเย็บหนังติดกันในส่วนของรูร้อยเชือก แค่ส่วนบนเพียงเท่านั้น ดังนั้นความเป็นพิธีการของรองเท้าในรุ่นนี้ จะมีน้อยกว่ารุ่น Oxford ที่ถือว่าเป็นทั้งรูปทรงรองเท้า และการตัดเย็บที่ออกแนว conservative อย่างมาก
ข้อแตกต่างระหว่างประเภทรองเท้าหนังผู้ชายรูปทรง Oxford และ Derby
5. รองเท้าหนังผู้ชาย Monk Strap
ประเภทรองเท้าหนังผู้ชายรูปแบบนี้นั้น มีที่มาจากชื่อ Monk Strap เป็นรองเท้าที่นำแบบรูปทรงมาจาก รองเท้านักบวชในยุคกลางของยุโรป ที่ในช่วงนั้นรองเท้าในรูปแบบนี้ จะเป็นในลักษณะไม่มีส้น หรือที่เรียกว่า Sandal นั่นเอง เพื่อให้เกิดการเดินที่สบาย แนบชิดกับพื้นดิน แต่ในข้อดี ก็จะมีส่วนที่ไม่สามารถช่วยปกป้องเท้าได้ ในเวลาที่นักบวชต้องออกไปนอกสถานที่ หรือเดินทางไกล
ดังนั้นการปรับเปลี่ยนรูปทรงของรองเท้าหนังประเภทนี้ จึงมีการคงเดิมในเรื่องรูปทรง ที่มีแผ่นหนังปิดเต็มหลังเท้า และมีการเพิ่มในส่วนของส้น ให้มีส้นเพื่อที่จะสามารถปกป้องส่วนของฝ่าเท้าได้ มีสายเข็มขัดซึ่งถือเป็นเสน่ห์ และจุดเด่นที่แตกต่างไปจากรองเท้าหนังสำหรับผู้ชายประเภทอื่นๆ
วิธีเลือกซื้อรองเท้าหนังผู้ชาย
1.วัสดุของรองเท้าหนัง
ซึ่งหนังแต่ละประเภทก็จะมีความแตกต่าง ในเรื่องความเงา, ความด้าน และความนิ่มของหนังแต่ละอย่าง ซึ่งหนังที่นำมาตัดเป็นรองเท้า มีตั้งแต่หนังวัว, หนังม้า, หนังควาย หรือหนังแกะ เป็นต้น ซึ่งตัวอย่างหนังแท้ด้านล่าง เป็นหนังที่มีความนิยมนำมาตัดเป็นรองเท้าผู้ชาย
Shell Cordovan
คือหนังม้าที่นำมาฟอก เป็นหนังที่ได้จากส่วนบริเวณบั้นท้ายม้า
Calfskin
เป็นหนังลูกวัว ที่มีความนิ่ม, หนังมีความละเอียด และดูแลง่าย
Patent Leather
เป็นการนำหนังลูกวัว หรือ Calfskin มาเคลือบเงา เพื่อให้เกิดความสวยงาม และมีการทำความสะอาดที่ง่าย
2.ประเภทของรองเท้าหนัง
ซึ่งในแต่ละประเภทของรองเท้าหนังผู้ชาย จะมีความต่างกันทั้งในรูปแบบ และการตัดเย็บรองเท้า และการเลือกรองเท้าหนังสำหรับผู้ชายในแต่ละรูปทรงนั้น เป็นการบ่งบอก ถึงความเป็นตัวของเราเอง
อย่างเช่น ถ้าเป็นประเภท Oxford หากใครเลือกใส่รองเท้ารูปทรงนี้นั้น ไม่ว่าจะเป็น Oxford Cap Toe หรือ Semi Brogue Oxford
เราสามารถรู้ได้ถึงการเน้นในรายละเอียด และความชอบการแต่งตัวแบบมีแบบแผน และเป็นทางการ การแต่งตัวตั้งแต่เสื้อผ้า ไปจนถึงรองเท้าที่เน้นความประณีต เพราะบางคนอาจไม่ได้ชอบ ที่สวมใส่รองเท้าที่ผูกเชือกแบบนี้เหมือนกันหมด
และหากใครมักจะเลือกรองเท้าทรง Loafers ในการใส่ทำงาน ถึงแม้จะมีการเน้นรายละเอียด ในเรื่องการตกแต่งพู่อย่าง Tassel Loafers หรือมีสายรัดแต่งโลหะบนรองเท้าอย่าง Horsebit Loafers นั้น
เราจะรู้ได้ถึงความขี้เล่น และไม่ชอบแบบแผนเท่ากับ ผู้ที่สวมใส่รูปทรงแบบ Oxford โดยเฉพาะผู้ที่สวมใส่รองเท้าหนังในทรง Driving Shoe ที่ถึงแม้จะมีการปรับแต่ง ให้สามารถสวมใส่ได้ เกือบทุกสถานที่ หรือใส่ได้ในหลายโอกาสก็ตาม โดยเน้นให้มีคล้ายกับ slip on แต่ในทุกประเภทของรองเท้าหนังสำหรับผู้ชายนั้น บอกอะไรได้ดีในความเป็นลักษณะของผู้ชายในแต่ละคน
3.สีของรองเท้า
โดยส่วนใหญ่หากเป็นรองเท้าหนังผู้ชายนั้น จะมีการคุมโทนสีที่สามารถใส่ได้ทุกโอกาส อย่างเช่น สีดำ, สีเทา, สีน้ำตาล, สีกรม และก็ยังมีแตกไลน์สีออกไป ตามตัวเฉดสีที่หลากหลาย อย่างเช่น หากเป็นสีน้ำตาล ที่ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายชาวเอเชีย หรือผู้ชายชาวตะวันตก นิยมใส่กัน
และตัวเฉดสีน้ำตาลที่มีให้เลือก อย่างเช่น Amber, Wood, Caramel, Walnut, Penny หรือ Cedar ที่แล้วแต่ละยี่ห้อ หรือรุ่นรองเท้าหนังนั้นๆ จะมีการตัดเย็บโดยมีสีออกมาให้เลือกมากน้อยแค่ไหน
4.รูปทรงรองเท้า กับหน้าเท้าของเรา
ถ้าหากผู้ชายที่มีหน้าเท้ากว้าง หลังเท้าที่มีเนื้อมาก หรือเรียกว่า มีหน้าเท้าที่กาง การเลือกรองเท้าให้เหมาะกับรูปทรงเท้าตัวเอง และช่วยให้ตัวเราใส่สบายดีกว่าฝืนใส่ในทรงรองเท้า ที่ไม่ใช่แบบเดียวกับเท้าของเรา
อย่างาเช่น การเลือกรองเท้าทรง Loafers, Penny Loafers, Driving Shoe หรือหากต้องการที่จะใส่รองเท้าหนังสำหรับผู้ชาย ในประเภท Oxford ก็ควรเลือกในรูปทรง Whole Cut Oxford จะเหมาะสมกว่า Oxford Cap Toe
5.วัดขนาดเท้า, เลือกเบอร์รองเท้า
ในหลักการวิธีวัดขนาดเท้าตามข้างต้นนั้น จึงมีข้อควรระวัง สำหรับการวาดรูปเท้า และการวัดขนาดเท้า ก่อนที่จะนำไปเทียบกับเบอร์ ที่ในแต่ละร้านค้า มีการใช้รูปแบบการเทียบเบอร์รองเท้า ที่แตกต่างกันไป ทั้งในแบบของ UK, EU และ US ดังนั้นก่อนที่เราจะเทียบเบอร์รองเท้านั้น เราควรมั่นใจว่าขนาดเท้าที่เราวัด มีความถูกต้อง และแม่นยำ
การดูแลรักษารองเท้าหนังผู้ชาย
1.หากเป็นรองเท้าหนังผู้ชายประเภท Oxford หรือประเภท Derby ให้ดึงเชือกรองเท้าออกมาก่อน สำหรับการทำความสะอาดต่ออาทิตย์ แต่หากเป็นการทำความสะอาดวันต่อวัน ไม่จำเป็นต้องถอดเชือกรองเท้าออก
2.นำผ้าฝ้ายชนิดหยาบ มาเช็ดฝุ่นที่เกาะติดด้านนอกรองเท้าให้ออกหมดก่อน
3.นำผ้าอีกผืนปาดครีมขัดรองเท้า ซึ่งถ้ารองเท้าหนังสีอะไร ควรใช้ครีมสีเดียวกัน ใช้ครีมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อใช้ผ้าเช็ดรองเท้าจนทั่วทั้ง 2 ข้างแล้ว ให้พักไว้ 5 นาที
4.จากนั้นใช้แปรงขัดรองเท้าขนม้า หรือแปรงขัดรองเท้าแบบธรรมดา ขัดให้ทั่วรองเท้าที่ใช้ผ้าเช็ด ขัดให้ขึ้นเงาโดยใช้วิธีขัดวนเป็นวงกลมเรื่อยๆ ไปจนถึงส้นรองเท้า
5.เมื่อขัดรองเท้าหนังจนขึ้นเงาแล้ว ให้วางตรงที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก หรือมีลมพัดผ่าน โดยเลี่ยงการนำรองเท้าหนังไปตากแดดจัดๆ หรือเลี่ยงโดยการนำรองเท้าโดนแดดทางตรง
หา กางเกงสแล็ค สุดโปรดสักตัวใส่คู่กับรองเท้าหนังเท่ห์ๆ กับเสื้อเชิ๊ตแขนยาวสีขาว กับ กระเป๋าคาดอก เก๋ๆ เป็นอะไรที่ลงตัวดูดีเป็นอย่างมาก!!
รองเท้าหนัง 3 แบบที่ผู้ชายต้องมี
สรุป
รองเท้าหนังผู้ชายที่มีส่วนสำคัญมากๆ ในการแต่งตัวไปทำงาน, ไปร่วมงานสำคัญ หรือไปในสถานที่ๆ สำคัญ เพราะการใส่เสื้อเชิ้ตที่ดูดี, เนคไทที่ผ่านการเลือกมาให้เข้ากันกับ เสื้อเชิ้ตด้านใน และเสื้อสูทด้านนอกนั้น จะหมดความหมายไปทันที หากมีการเลือกรองเท้าหนัง ที่ไปด้วยกันไม่ได้ เหมือนสุภาษิตโบราณที่เรียกกันว่า ตกม้าตาย นั่นเอง
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการเลือกรูปทรงรองเท้าหนัง, การดูแลเอาใจใส่กับรองเท้าหนัง ด้วยการขัดให้ขึ้นเงา หรือการจับคู่สีระหว่างรองเท้าหนัง กับเสื้อผ้าที่ใส่ในวันนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญทั้งสิ้น เพราะหากเราสามารถมองเห็นความเป็นตัวตน ของผู้ชายได้จากการแต่งตัว การเลือกรองเท้าอย่างพิถีพิถัน ก็สามารถบอกรสนิยมของผู้ชายคนนั้นได้เช่นกัน
ควบคุมและดูแลการผลิตคอนเท้นส์ ชื่นชอบที่จะนำเสนอคอนเท้นส์ที่ดีๆ มีประโยชน์ให้กับท่านผู้อ่าน
รองเท้าหนังผู้ชาย era-won แท้ รุ่น Loafer Slip On Shoes
– สะดวกในการสวมใส่ และการถอดออก
– ผลิตจากหนังวัวแท้ 100% ทั้งตัวรองเท้าและส้นรองเท้า
– รองเท้าเย็บมือพิถีพิถัน คงทน ไม่สึกง่าย –
รองเท้าหนังผู้ชาย Bata รุ่น Hugo
– ผลิตจากหนังเทียม PU คุณภาพดี
– สวมใส่สบาย ไม่เสียดสีเนื้อเท้า
รองเท้าหนังผู้ชาย Charled รุ่น RB9828
– ผลิตมาจากหนัง PU คุณภาพดี ทนทาน ไม่สึกง่าย
– พื้นรองเท้ามีความทนต่อการใช้งาน สวมนุ่มเท้า
– ช่วยเสริมบุคลิกภาพให้ดูดีทุกย่างก้าว
รองเท้าหนังผู้ชาย PAUL & SIRENA รุ่น HENRY
– ผลิตจากหนังวัว 100% ทนทานต่อการใช้งาน
– ฟอกหนังอย่างดี นุ่มสบายเท้า ไม่กัดเท้า
– เสริมส้นทั้งด้านในและด้านนอกรวม 3 นิ้ว
รองเท้าหนังผู้ชาย CSB รุ่น CM369
– เย็บตัวรองเท้าติดกับพื้นรองเท้า ทนทานต่อการใช้งาน
– ด้านในรองเท้าบุด้วยแผ่นรองรองเท้าให้ความนุ่มสบายเท้า
– สวมใส่ง่าย สะดวกในการถอดออก
รองเท้าหนังผู้ชาย HEAVY SHOES รุ่น VB8261 B
– ผลิตจากหนังแกะ 100% คุณภาพดีนุ่มไม่กัดเท้า
– สวมใส่ได้ทุกยุคทุกสมัย ยอดฮิต
รองเท้าหนังผู้ชาย Hush Puppies รุ่น IVAN BANKER HP IHDFB1252AA
– ผลิตจากหนังวัวแท้ 100% นุ่มสบายเท้า ทำให้เท้าแห้ง
– พื้นในรองเท้ามีโฟมกันกระแทก ไม่ทำให้เจ็บเท้าเวลาเดิน –
รองเท้าหนังผู้ชาย Timberland รุ่น FTM5549R
– สวมใส่สบายนุ่มเท้า ไม่กัดเท้า
– ส้นเท้าและตัวรองเท้าเย็บติดกัน ทนทานไม่สึกง่าย
รองเท้าหนังผู้ชาย MATINO รุ่น MC-B 5538
– ทำมาจากหนังแท้ คัดส่วนมาจากหนังนิ่มเท่านั้น
– สวมใส่สบายนุ่มเท้า ไม่กัดเท้า
– ส้นเท้าและตัวรองเท้าเย็บติดกัน ทนทานไม่สึกง่าย
– พื้นรองเท้าทำมาจากยางชนิดพิเศษกันลื่น
รองเท้าหนังผู้ชาย GOLD CITY รุ่น CG004
– ผลิตจากหนัง PU คุณภาพดี ทนทาน ไม่สึกง่าย
– เสริมส้นสูง 2.5 นิ้ว