10 มายองเนส ยี่ห้อไหนดี 2024 รสกลอมกล่อม กินกับอะไรก็อร่อย

มายองเนส คืออะไร

คือ ซอสครีมข้นสีเหลืองอ่อน, สีขาว หรือสีครีม ที่มีส่วนผสมต่างๆ อย่างเข้ากันดีและเป็นเนื้อเดียวกัน ที่เราสามารถเรียกอีกอย่างได้ว่า Emulsion โดยหากเป็นเนื้อ Mayo หรือ Mayonnaise ที่ดีนั้นต้องมีการตีเข้ากันจนเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน, มีความละเอียด ซึ่งซอสตัวนี้เราสามารถนำมาใช้แทนน้ำสลัด หรือ Salad Dressing ได้ รวมถึงยังสามารถใช้เป็นซอสในตัวแฮมเบอร์เกอร์ หรือแซนวิชได้อีกด้วย

ซึ่งเราอาจจะมีคำถามว่า มีทั้งซอสมาโย (Mayo) และซอสมายองเนส (Mayonnaise) จริงๆ แล้วเหมือนกันหรือไม่ จริงๆ แล้วซอสทั้ง 2 ชนิดนี้คือแบบเดียวกัน แตกต่างกันที่การเรียกเท่านั้น โดยเอกลักษณ์ของซอสตัวนี้ จะเป็นที่คุ้นเคยกับมื้ออาหารของเราทุกคนดี สามารถกินกับอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นออมเล็ต, แซนวิช, สเต็ก, สลัดผัก หรือแม้แต่อาหารเนื้อสัตว์ปิ้งย่างทุกชนิด ที่ช่วยเพิ่มความอร่อยให้กับตัวอาหารได้เป็นอย่างดี รวมถึงมีทั้งแบบเปรี้ยว และไม่เปรี้ยวอีกด้วย

มายองเนส ทำมาจากอะไร

เป็นส่วนผสมที่ทำมาจาก น้ำ, น้ำมัน, ไข่ และน้ำส้มสายชู หรือจะเป็นมะนาวก็ได้ สำหรับการซื้อแบบสำเร็จรูปมักจะเป็นส่วนประกอบที่เป็นน้ำส้มสายชู แต่หากเป็นการทำแบบโฮมเมด ส่วนใหญ่จะเน้นใส่ได้ทั้งมะนาว หรือน้ำส้มสายชู รสชาติของซอสมาโยนี้มีทั้งแบบเปรี้ยว และไม่เปรี้ยว ให้ความอร่อยและกินง่าย เหมาะกับความต้องการของทุกคน

โดยการที่เราเห็นว่าซอสชนิดนี้มีเนื้อที่เนียนและละเอียดนั้น ทั้งๆ ที่มีส่วนผสมเป็นน้ำ และน้ำมันรวมอยู่ด้วย ซี่งจริงๆ แล้วเมื่อนำมาผสมกันจะเกิดการแตกแยกของชั้นส่วนผสมอย่างแน่นอน แต่ส่วนสำคัญหลักที่ช่วยให้การผสมแล้วเข้าเป็นเนื้อเดียวกันได้ หรือ อิมัลชั่นนั้น ก็คือไข่แดงที่มีส่วนประกอบของเลซิติน และช่วยให้ส่วนผสมทั้งหมดมีเนื้อเนียนและคงตัวได้ดี รวมถึงเนื้อของมาโยนี้จะมีความเข้มข้น ไม่เหลวเหมือนน้ำ

มายองเนส ทำอะไรได้บ้าง

ใครหลายคนอาจจะไม่รู้ว่า จริงๆ แล้วนอกจาก Mayonnaise ที่เรามักจะใช้ทาแซนวิช หรือคลุกกับสลัดผักแทนน้ำสลัดนั้น แท้ที่จริงแล้ว ซอสตัวนี้นอกจากจะมีรสชาติความอร่อยในตัวเอง ที่เป็นเอกลักษณ์ และคงรสชาติที่ไม่จัดจนเกินไปนั้น ซึ่งเป็นข้อดีของการนำไปดัดแปลงในการทำอาหารได้อีกหลายอย่างเลยทีเดียว

ถ้าหากเราเปรียบว่าครัวไทยเราขาดเกลือ และน้ำปลาไม่ได้ สำหรับอาหารตะวันตกนั้นก็ไม่สามารถขาดซอสตัวนี้ไปจาก ชั้นวางเครื่องปรุง ได้เลยทีเดียว ซึ่งมีความสำคัญเท่าๆ กับเครื่องปรุงอย่างอื่นๆ เช่น วาซาบิ , ซอสบาร์บีคิว , โซยุ , ซอสพริก , น้ำจิ้มซีฟู้ด , ซุปหม่าล่า , ผงปรุงรส , น้ำจิ้มหมูกระทะ , น้ำมันคาโนล่า และเป็นส่วนประกอบของการทำอาหารให้อร่อย

1.ครีมซอส

ส่วนประกอบที่สำคัญสำหรับน้ำสลัดซีซาร์ (Caesar Dressing) หรือ น้ำสลัดเทาส์ซันไอแลนด์ (Thousand Island Dressing) นั้นก็คือ มายองเนสนั้นเอง โดยถือว่าเป็นส่วนประกอบพื้นฐานเลยก็ว่าได้ เพราะโดยธรรมชาติของ Mayo หรือ Mayonnaise นั้นจะไม่ค่อยมีรสชาติ เน้นความเปรี้ยว หรือเปรี้ยวน้อย รวมถึงความหอมมันของตัวไข่แดง และน้ำมั้น การเพิ่มรสชาติ และเครื่องปรุงมากขึ้น ทำให้เกิดน้ำสลัดในแบบต่างๆ คือ

น้ำสลัดเทาส์ซันไอแลนด์ (Thousand Island Dressing)

ส่วนประกอบหลักอย่างซอสมาโย และนำมาเพิ่มเนื้อของผักต่างๆ และเครื่องปรุงเพื่อให้มีรสชาติมากขึ้นได้แก่ ซอสมะเขือเทศ, ซอสพริก, พริกยักษ์สีแดง หรือ Bell Paper, มะกอกเขียว, ไข่ต้ม, แตงกวาดอง, น้ำส้มสายชู, เกลือ, น้ำมะนาวสด และน้ำเชื่อม

น้ำสลัดซีซาร์ (Caesar Dressing)

ส่วนประกอบหลักอย่างซอสมาโย และนำมาเพิ่มรสชาติด้วย น้ำเลม่อน, นมสด, กระเทียมบด, ผงชีสพาเมซาน และพริกไทยดำ ที่เป็นกลิ่นเอกลักษณ์ของน้ำสลัดชนิดนี้

น้ำสลัดซีฟู้ด (Spicy Dressing)

เราอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตากับสลัดโรล และน้ำสลัดอีกหนึ่งอย่างที่น่าสนใจก็คือ ซอสมาโยที่นำมาผสมกับน้ำจิ้มซีฟู้ดนั่นเอง โดยมีส่วนส่วนประกอบหลักเหมือนเดิมคือ ซอสมาโย จากนั้นเพียงแค่เพิ่ม มะนาว, พริกขี้หนูสด, กระเทียม, กระเทียม, ผักชี และเกลือ เพียงเท่านี้ก็สามารถจะนำไปคลุกกับสลัดต่างๆ ได้อย่างอร่อยเข้ากัน อย่างเช่น สลัดแซลมอน เป็นต้น

นอกเหนือจากนี้แล้วนั้นการนำมาแทนที่น้ำสลัดครีม ที่คลุกกับผักสลัด เรายังสามารถที่จะนำมาทำเป็นสลัดแบบโคลสลอว์ได้อีกด้วย โดยการหั่นกะหล่ำปลี, แครอทให้เป็นเส้นฝอยบางที่สุด และใส่ซอสมาโยคลุกเคล้าให้ทั่วผักที่หั่นฝอย นำไปแช่ในตู้เย็นอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงก็กินได้

2.ซอสในอาหารง่ายๆ

ไม่ว่าจะเป็นอาหารในแบบที่เรามักจะคุ้นเคยในมื้อเช้ากัน อย่างเช่น แซนวิช, แฮมเบอร์ไส้เนื้อสัตว์ต่างๆ , หรือแม้แต่อาหารในสไตล์ญี่ปุ่นอย่าง ซูชิ หรือข้าวปั้นก็ตาม ต่างก็สามารถนำเอาซอสมายองเนสนี้ ไปเป็นส่วนผสมทั้งตัวไส้แซนวิช, ทาที่ตัวเนื้อสัตว์ที่เป็นไส้ด้านในแฮมเบอร์เกอร์ หรือคลุกกับไส้ของข้าวปั้น อย่างเช่น ข้าวปั้นไส้ปูอัดซอสมาโย หรือ ซูชิหน้าไข่กุ้งซอสมาโย อีกทั้งยังสามารถเป็นส่วนผสมในไส้ด้านในของเบเกอรี่ต่างๆ อีกด้วย

3.อาหารจานทอดและย่าง

เนื้อสัตว์ที่ได้มาจากการย่าง,ทอด หรืออบก็ตาม ถึงแม้ว่าจะมีรสชาติและความอร่อยอยู่ในตัวเนื้อสัตว์นั้นๆ อยู่แล้ว แต่การที่มีซอสผ่านการผสมผสานรสชาติมากขึ้น ราดด้านบนจะยิ่งทำให้มีความเข้มข้น และมีความชุ่มฉ่ำเข้าไปในตัวเนื้อสัตว์เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งเราสามารถใช้มายองเนสทั้งแบบเปรี้ยว และไม่เปรี้ยวตามที่ต้องการ

ตัวอย่างเช่น ไก่ทอดเป็นชิ้นพอคำ เมื่อนำซอสมาโยนี้มาผสมกับมะนาว ราดด้านบนไก่ทอดก็จะกลายเป็นเมนู ไก่ทอดราดซอสครีมมะนาว ที่ให้ทั้งความหอมและรสเปรี้ยวตัดเลี่ยนกับตัวไก่ทอดได้เป็นอย่างดีทีเดียว รวมถึงยังเป็นวิธีฝึกที่ดี เพื่อช่วยให้เด็กเรียนรู้การกินไก่ทอดร่วมกับผักสด โดยมีรสชาติของซอสครีมมะนาวช่วยให้เกิดความอร่อยและกินง่ายขึ้น

4.เครื่องเคียงใช้จิ้ม

หรือเราสามารถเรียกได้ว่าเป็นDipping Sauce ที่สามารถจิ้มได้ทั้งอาหารปิ้ง, ทอด, ย่าง หรืออบก็ตาม อย่างเช่น มันฝรั่งทอด, แฮชดาว, สเต็ก, ไก่ทอด หรือแม้แต่คอหมูย่าง ที่เราอาจจะอยากเปลี่ยนรสชาติจากน้ำจิ้มแจ่ว เป็นดิปซอสมาโยผสมกับน้ำจิ้มซีฟู้ด หรือดิปชีสที่ผสมผงชีสพาเมซานลงไปให้เกิดความหอมและมัน

นอกเหนือจากนี้แล้วเรายังสามารถนำ Mayonnaise มาผสมทำเป็นดิปได้อีกหลายรสชาติ ในสไตล์ความเป็นไทย หรือต่างชาติก็ได้ อย่างเช่น ดิปหม่าล่า, ดิปพริกเผา, ดิปวาซาบิ, ดิปทรัฟเฟิล หรือดิปสตรอว์เบอร์รี่ เป็นต้น โดยทั้งหมดนี้เราจะเห็นภาพเลยว่า ซอสชนิดนี้สามารถนำมาดัดแปลง หรือเป็นส่วนประกอบให้กับอาหารฟิวชั่นในหลายเมนูทีเดียว

5.หมักเนื้อสัตว์

คุณแม่บ้านหรือคนที่เข้าครัวเป็นประจำ คงจะรู้ว่าอีกหนี่งเคล็ดลับของการทำให้เนื้อสัตว์นุ่ม และมีความฉ่ำน้ำด้านในนั้น ควรที่จะมีการหมักกับน้ำมันก่อนที่จะนำมาปรุงอาหาร หรือก่อนที่จะนำมาทำให้สุก แต่อีกตัวเลือกหนึ่งที่ให้มากกว่าเนื้อสัตว์ที่มีความนุ่มด้านในแล้วนั้น การนำเอาซอส Mayonnaise นี้ไปหมักกับเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ที่จะทำการย่าง, อบ หรือปิ้งนั้น จะช่วยให้ผิวนอกของเนื้อสัตว์มีความกรอบ, เกรียม และทำให้เนื้อสัตว์นุ่มอีกด้วย

ตัวอย่างเช่น ไก่ย่าง, คอหมูย่าง, สเต็กปลาที่ใช้วิธีการย่างบนกระทะ นอกจากจะช่วยถนอมความฉ่ำให้เนื้อด้านในแล้ว ยังช่วยให้เนื้อปลาไม่ติดกระทะอีกด้วย ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นซอสที่กินกับอะไรก็อร่อยเท่านั้น แต่ยังถือว่าเป็นเครื่องปรุงส่วนสำคัญที่ใช้ร่วมกับการทำอาหาร เพื่อให้เกิดรสชาติที่อร่อย และกินได้ง่ายขึ้น

ข้อมูลโภชนาการของมายองเนส มีกี่แคลอรี่

ฐานตัวเลขหลักที่จะใช้เป็นตัวเทียบก็คือ ค่าของ Mayonnaise 100 กรัม = 231 กิโลแคลอรี่

กรัม	แคลอรี่	กิโลแคลอรี่
10	23100	23.1
25	57750	57.75
50	115500	115.5
100	231000	231
250	577500	577.5
500	1155000	1155
1000	2310000	2310

มายองเนส กับ น้ำสลัด ต่างกันอย่างไร

มายองเนส

1.ความหนาแน่นในตัวเนื้อครีมที่มีมากกว่าน้ำสลัด

2.สีสันที่มีความอ่อนกว่าน้ำสลัด

3.มีส่วนผสมของน้ำมันมากกว่าน้ำส้มสายชู ซึ่งตรงข้ามกับน้ำสลัดที่มีส่วนผสมของน้ำส้มสายชูมากกว่าส่วนของน้ำมัน

4.เป็นส่วนประกอบหลัก ที่สามารถแยกย่อยไปเป็นน้ำสลัดซีซาร์ และน้ำสลัดเทาส์ซันไอแลนด์

5.ปริมาณแคลอรี่ที่มีมากกว่าน้ำสลัด ด้วยส่วนประกอบหลักที่เป็นน้ำมันมีสัดส่วนที่เยอะกว่า

6.รสชาติจะมีเพียงเปรี้ยว และไม่เปรี้ยว เน้นในส่วนของความหอมและมัน

น้ำสลัด

1.ปริมาณไขมันและแคลอรี่ที่น้อยกว่าซอสมาโยมาก ด้วยสัดส่วนของน้ำส้มสายชูและน้ำ จะมีมากกว่าน้ำมัน

2.รสชาติที่เข้มข้นมากกว่าซอสมาโย

3.มีความหนาแน่น หรือความเข้มข้นของตัวครีมซอสที่น้อยกว่าซอสมาโย ด้วยความที่น้ำสลัดมีส่วนประกอบขงอน้ำส้มสายชู และน้ำมากกว่านั่นเอง

วิธีเลือกซื้อมายองเนส

1.รสชาติ

เราอาจจะคุ้นเคยกับซอสมาโยที่เป็นรสชาติดั้งเดิมมีเพียงแค่รสเปรี้ยว และไม่เปรี้ยว รวมถึงมีเพียงกลิ่นหอมและความมันเท่านั้น แต่ในวันนี้ในแต่ละยี่ห้อนั้น มีการคิดรสชาติออกมาที่หลากหลายมากขึ้น อย่างเช่น รสกระเทียม, รสเผ็ด, รสโหระพา หรือรสเห็ดทรัฟเฟิล เป็นต้น ยิ่งเป็นเหมือนตัวช่วยให้เราสามารถจับคู่กินกับอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ชนิดไหนก็ตาม

2.จำนวนแคลอรี่

หากเป็นผู้ที่ต้องควบคุมน้ำหนัก หรือแคลอรี่ด้วยแล้ว ควรที่จะเลือกซอสสูตรที่ลดทั้งโซเดียม, และไขมัน หรือน้ำมันให้น้อยกว่าสูตรปกติ อย่างเช่น สูตรลดไขมัน, Light Mayonnaise, Fat Free, Cal Low Fit, Low Fat, 99% Fat Free หรือ 0% Fat

3.รูปแบบบรรจุภัณฑ์

กระปุก

เป็นรูปแบบขวดดั้งเดิมที่คล้ายกับบรรจุภัณฑ์ของน้ำสลัด หรือครีมสลัด ในการใช้ทุกครั้งเราจึงต้องดูในเรื่องของช้อนที่ใช้ในการตัก ต้องมีความสะอาด และแห้งอยู่เสมอ รวมถึงเมื่อตักเรียบร้อยแล้ว ควรที่จะปิดฝากระปุกให้แน่นทุกครั้ง พร้อมกับแช่ในตู้เย็นเพื่อเป็นการถนอมตัวซอสมายองเนสมีคุณภาพที่ดีอยู่เสมอ

หลอดบีบ

การออกบรรจุภัณฑ์เป็นหลอดบีบนี้ นอกจากจะช่วยในเรื่องของการหยิบจับได้สะดวกแล้ว การบีบยังง่ายกว่าการใช้ช้อนตักในกระปุกขวดอีกด้วย อีกทั้งยังมีความเล็กกะทัดรัด และบีบได้หมดทั้งขวด โดยเฉพาะตอนที่ใกล้หมดขวดแล้ว เราไม่ต้องเสียดายซอสที่หลงเหลือไว้ใต้ก้นขวด รวมถึงยังสามารถพกพาง่าย สำหรับนำออกไปใช้ได้กับการเดินทาง หรือเรียกได้ว่าเป็นซอสโปรดประจำตัวอีกด้วย

ถุงมีฝาเปิดปิด

เป็นอีกรูปแบบบรรจุภัณฑ์หนึ่ง ที่เริ่มมีความนิยม และนำมาใช้ผลิตใส่สินค้าที่เป็นตัวซอสกันมากขึ้น ด้วยรูปแบบถุงที่สะดวกในการหยิบจับใช้สอย และรวมถึงการทำเป็นฝาฟลิบเปิดปิดได้สะดวก โดยไม่ต้องหมุนเกลียวฝาทุกครั้งที่ใช้ ด้วยตัวถุงมีน้ำเบากว่าวัสดุที่เป็นขวดกระจก ทำให้เด็กๆ ก็สามารถหยิบจับ และเทบีบลงในอาหารเองได้ง่ายๆ

4.สูตรไม่ใส่ไข่สำหรับมังสวิรัติ หรือวีแกน

อย่างที่เรารู้กันว่าในวันนี้มีคนที่เป็นมังสวิรัติ และกินอาหารแบบวีแกนกันมากขึ้น และโดยหลักๆ แล้วจะไม่กินเนื้อสัตว์ รวมถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มาจากเนื้อสัตว์ หรือมาจากสัตว์อีกด้วย ดังนั้นก่อนที่จะพิจารณาเลือกซื้อ ควรดูที่ตัวสินค้ามีการระบุก่อนว่า ไม่ใส่ไข่ หรือเจ เท่านั้น

5.ไม่เติมแต่งสี หรือสารกันบูด

เราสามารถสังเกตสีได้ในตอนที่เท หรือบีบออกมาจากบรรจุภัณฑ์ ที่จำเป็นต้องมีสีที่เป็นธรรมชาติ คือสีขาว, สีเหลืองอ่อน และสีครีม รวมถึงรายละเอียดข้างบรรจุภัณฑ์ต้องระบุว่า ไม่มีการเติมสารกันบูด หรือการแต่งสีสังเคราะห์ เพื่อที่เราจะกินได้อย่างปลอดภัย

ประโยชน์ของมายองเนส

เราอาจจะมีความกังวลในเรื่องของน้ำมันที่เป็นส่วนประกอบในซอสชนิดนี้อยู่มาก แต่อย่างไรก็ดีในส่วนของประโยชน์หรือข้อดีของซอส Mayonnaise นี้ก็มีต่อร่างกาย ดังนั้นสำหรับการควบคุมปริมาณการกินก็ถือว่าเป็นเรื่องจำเป็น เพื่อที่จะให้ร่างกายของเราได้รับกรดไขมันได้ครบถ้วน หรือเราสามารถเลือกกินสลับกับ สูตรที่ไม่มีไขมัน หรือลดปริมาณไขมันลงได้ตามความเหมาะสม

1.วิตามินอี

มีคุณประโยชน์ในเรื่องของการป้องกันการอักเสบ, ป้องกันการแตกของเม็ดเลือด, ป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด, ต่อต้านอนุมูลอิสระ และยังช่วยให้หลอดเลือดไหลเวียน ไปเลี้ยงและดูแลการทำงานของหัวใจได้เป็นอย่างดี

2.วิตามินเค

ช่วยในเรื่องการแข็งตัวของเลือด มีความสำคัญต่อผู้ที่ขาดเลือดอยู่แล้ว หรือผู้ที่อยู่ในภาวะเลือดแข็งตัวได้ช้า วิตามินเคที่อยู่ในซอส Mayonnaise นี้จะช่วยให้เลือดหยุดไหลได้เร็วขึ้น เมื่อมีอาการเลือดไหลผิดปกติ

3.กรดไขมัน

ไขมันไม่ได้มีเพียงแค่ให้แคลอรี่ที่เยอะเท่านั้น หากเรามีการควบคุมการกินที่อยู่ในปริมาณที่ไม่เยอะจนเกินไป ไขมันจะมีส่วนช่วยในเรื่องของการละลายวิตามินเอ, วิตามินดี, วิตามินอี และวิตามินเค ให้สามารถนำไปใช้งานในร่างกายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รวมถึงในบางยี่ห้อของซอสมาโยนั้นมีการเติมกรดไขมันโอเมก้า 3 ซี่งช่วยในเรื่องเสริมการทำงานให้กับหลอดเลือดหัวใจ, ลดอัตรากรเสี่ยงการเกิดโรคอัลไซเมอร์ รวมถึงช่วยลดการอักเสบตามข้อต่างๆ ได้

วิธีเก็บมายองเนส

1,เมื่อยังไม่เปิดกินสามารถเก็บในอุณหภูมิห้องปกติได้ ในแบบไม่ต้องแช่ตู้เย็น

2.หากมีการเปิดฝากินแล้ว ควรที่จะนำไปแช่ตู้เย็น

3.ไม่ควรกินเมื่อเลยวันหมดอายุ ที่ระบุไว้ที่บรรจุภัณฑ์

4.หลังจากเปิดกินแล้ว ไม่ควรวางไว้นอกตู้เย็น หรือที่ๆ มีอุณหภูมิสูงตั้ง 50 องศาเซลเซียสขึ้นไป

5.หากพบว่ามีการลืมวางซอสมายองเนสนอกตู้เย็น อยู่ในที่มีอากาศร้อนเกินกว่า 8 ชั่วโมงควรนำไปทิ้ง เพราะอาจทำให้ตัวซอสด้านในบูดหรือเสียได้

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับมายองเนส

มายองเนสสำหรับคนกินมังสวิรัติ หรือวีแกนกินได้ไหม

ด้วยส่วนผสมหากเป็นซอสมาโย หรือ Mayonnaise นั้นจะมีไข่เป็นส่วนผสม จึงไม่สามารถกินได้ แต่ในสมัยนี้มีการผลิตสินค้าในกลุ่มซอสมาโยมาเป็นทางเลือกในแบบที่ไม่ใส่ไข่ขึ้นมาหลายสูตรทีเดียว อย่างเช่น Vegan Grow, Plant Based หรือมีคำว่า เจ เป็นต้น

กินมายองเนส อ้วนไหม

หากมีการกินในปริมาณที่มากจนเกินไป สามารถทำให้อ้วนได้อันเนื่องมาจากตัวไขมันในซอส หรืออีกหนี่งทางเลือกก็คือ เน้นเลือกซอสในรูปแบบหรือสูตรที่ลดทั้งโซเดียม และสูตรลดไขมัน ซึ่งนั่นจะหมายถึงลดปริมาณแคลอรี่ลงไปด้วย หรือเราสามารถสังเกตได้ง่ายๆ จากบรรจุภัณฑ์ที่มีคำว่า Fat Free, Reduced Fat หรือ Light Mayonnaise เป็นต้น

สอนทำมายองเนส

สรุป

เราคงจะเห็นกันแล้วว่าซอสมายองเนสนี้ เป็นซอสที่สามารถกินได้เข้ากันกับอาหารในทุกรูปแบบ อีกทั้งสามารถนำมาดัดแปลงทำเป็นน้ำสลัดได้หลายชนิด  ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องกังวลในเรื่องของไขมันที่เป็นส่วนประกอบของซอสตัวนี้ เพราะหากเรากินในปริมาณที่ควบคุมดีพอ หรือกินสลับกับสูตรที่ไม่มีไขมันร่วมด้วยแล้ว ถือว่าเป็นซอสโปรดหนึ่งสำหรับเด็กและผู้ใหญ่เลยทีเดียว เพราะความอร่อยและสุขภาพดีสามารถไปด้วยกันได้

• Facebook
• X
• Line