ปัญหาริมฝีปากแห้ง แตก ลอกเป็นขุย เกิดจากอะไร
ริมฝีปากเป็นจุดที่มีความบอบบางมากกว่าผิวหนังส่วนอื่นๆ บนใบหน้า จึงทำให้เสียความชุ่มชื้นได้ง่ายกว่าส่วนอื่น ก่อให้เกิดปัญหาริมฝีปากแห้ง แตก ลอกเป็นขุย ซึ่งจะมีสาเหตุเกิดมาจากอะไรนั้น เรามาดูกันเลย
1. สภาพอากาศ
การใช้ชีวิตในแต่ละวันเราต้องพบเจอกับสภาพอากาศต่างๆ ซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เช่น การทำงานในห้องแอร์ที่มีอากาศค่อนข้างหนาวเย็น การทำงานในแสงแดดหรือการอยู่ในที่ที่มีแสงแดดมากจนเกิน ซึ่งประเทศของเราเป็นเมืองร้อน การหลีกเลี่ยงแสงแดดนั้นเป็นเรื่องที่ยาก
2. การดื่มน้ำ
น้ำเป็นสิ่งที่ให้ความชุ่มชื้นและเป็นส่วนสำคัญที่หล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ในร่างกาย ซึ่งหากดื่มน้ำไม่เพียงพอก็จะส่งผลต่อระบบการทำงานในร่างกาย และยังทำให้ริมฝีปากแห้งแตกได้อีกด้วย
3. การเลียริมฝีปาก
หลายๆ คนมักติดนิสัยการเลียริมฝีปาก ซึ่งบางครั้งอาจจะทำโดยไม่รู้ตัว เมื่อริมฝีปากแห้งก็จะทำโดยอัตโนมัติ ทำให้ริมฝีปากที่แห้งแตกอยู่แล้วยิ่งขาดความชุ่มชื้นยิ่งกว่าเดิม เนื่องจากน้ำลายจะดึงเอาความชุ่มชื้นที่มีออกจากริมฝีปาก ไอเทมบำรุงริมฝีปากอย่างลิปมัน จึงจำเป็นมาก
4. การขาดวิตามิน
วิตามินที่จำเป็นสำหรับคนที่ริมฝีปากแห้งก็คือวิตามินบี และวิตามินซี ซึ่งวิตามินทั้งสองอย่างนี้มีความสำคัญต่อผิวหนัง
5. การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์
การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับสภาพผิวของริมฝีปาก เช่น ลิปกันแดด , ลิปบาล์ม , ysl ลิป , น้ำยาบ้วนปาก หรือแม้แต่การใช้ ครีมทาผิววาสลีน ที่มีส่วนผสมของสี น้ำหอม และลาโนลินที่มากเกินไป ทำให้เกิดการระคายเคืองและริมฝีปากแห้งกว่าเดิม
6. อายุที่มากขึ้น
เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ร่างกายก็ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไป คอลลาเจนที่เคยมีก็จะลดลงเรื่อยๆ ทำให้ริมฝีปากบางและแห้งแตกได้ง่าย
ลิปมันคืออะไร
ปัจจุบันเครื่องสำอางสำหรับผู้หญิงนั้นมีให้เลือกซื้อ เลือกใช้กันอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น มาสคาร่า , แป้งพัฟคุมมัน , ที่เขียนคิ้ว , ลิปสติก ซึ่งถือว่าเป็นไอเทมที่สาวๆ ขาดไม่ได้กันเลย แต่เมื่อใช้ไปนานๆ อาจจะทำให้ริมฝีปากเกิดความหมองคล้ำ ปากแห้ง ปากดำ และแตกเป็นขุยได้ง่าย
หากอยากมีริมฝีปากที่สวยก็ต้องบำรุงกันด้วย โดยการเลือกใช้ลิปมัน เป็นตัวช่วยในการขจัดปัญหาปากแห้ง ปากแตกและลอกเป็นขุย ซึ่งส่วนมากจะเป็นขี้ผึ้ง น้ำมันมะพร้าว และเชียบัตเตอร์ ที่มีส่วนช่วยในการป้องกันและลดปัญหาการแตกแห้งของริมฝีปาก สามารถใช้ได้ทุกที่ทุกเวลาและพกพาใส่ไว้ใน กล่องเก็บเครื่องสำอาง ได้ง่าย
มีหลายรูปแบบให้ได้เลือกซื้อทั้งที่เป็นแบบกระปุก แบบแท่ง และแบบหลอด ทั้งที่มีสีอ่อนๆ หรือแบบไม่มีสีสัน นอกจากนี้ยังสามารถเลือกใช้เป็น ลิปแก้ปากดำ ที่จะมาช่วยลดความหมองคล้ำของริมฝีปากและช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากเราได้อีกด้วย
ลิปมัน ที่ขายตามท้องตลาดในปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบที่ดึงดูดความสนใจของสาวๆ หรือผู้ชายก็สามารถใช้ได้ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบที่ให้ความรู้สึกหอมชวนหลงใหล มีสีชมพูอ่อนๆ เพื่อเพิ่มความละมุนในตัวคุณ พร้อมทั้งยังปกป้องจากริมฝีปากจากแสงแดดที่คอยทำร้ายผิวให้หมองคล้ำได้ในเวลาเดียวกัน หรือจะเป็นแบบที่ไม่มีสีสันแต่เพิ่มความเงาให้ริมฝีปากดูสุขภาพดีทั้งผู้ชายและผู้หญิงก็สามารถใช้ได้
ลิปมัน vs ลิปสติก แตกต่างกันอย่างไร
ปัจจุบันมีลิปหลากหลายรูปแบบให้ได้เลือกใช้ ในบางครั้งเรายังสับสนชนิดและประโยชน์ของลิปแต่ละชนิดว่าแตกต่างกันอย่างไร และแบบไหนที่เหมาะกับตัวคุณ ซึ่งในหัวข้อนี้เรามาดูข้อแตกต่างระหว่างลิปมันกับลิปสติกกัน
ลิปมัน
เป็นลิปที่มีส่วนช่วยในการบำรุงปากชุ่มชื้น นุ่ม ให้มีความเนียนนุ่มน่าสัมผัส ทำให้ปากดูสุขภาพดีเมื่อเผยรอยยิ้ม ปากจะไม่แตกแห้งกร้าน ช่วยปกป้องริมฝีปากจากแสงแดดและลมได้ดี ซึ่งปัจจุบันนี้มีการพัฒนาลิปประเภทนี้ออกมาหลากหลายรูปแบบทำให้น่าใช้มากยิ่งขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นที่หอมน่าดึงดูด สีสันสวยงาม แต่เมื่อทาที่ริมฝีปากแล้ว ลิปมันจะไม่มีสี หรือมีเพียงสีอ่อนๆ เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่เน้นการบำรุง ไม่ใช่เครื่องสำอาง แต่ลิปมันจะช่วยเพิ่มความเงาหรือความแวววาวให้กับริมฝีปาก และยังสามารถพกพาได้ง่าย มีทั้งแบบแท่ง แบบกระปุก และหลอด ซึ่งสะดวกต่อการใช้ในทุกสถานการณ์
ลิปสติก
เป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับใบหน้าและบอกบุคลิกการเป็นตัวคุณได้ดี ลิปสติกจัดเป็นเครื่องสำอางยอดนิยมสำหรับผู้หญิงในทุกช่วงวัย เพราะให้ความโดดเด่นบนใบหน้า ช่วยสร้างความมั่นใจและรอยยิ้มที่สดใสให้กับตัวคุณและผู้พบเห็น หรือจะเรียกว่าเป็นตัวช่วยดึงดูดความสนใจให้กับคุณได้อย่างดีเลยทีเดียว ซึ่งปัจจุบันมีสีให้เลือกใช้อย่างหลากหลาย
ผู้หญิงแต่ละคนจะมีลิปสติกไม่น้อยกว่า 1 แท่งแน่นอน ลิปสติกบางยี่ห้ออาจเป็นทั้งเครื่องสำอางและยังมีส่วนช่วยในการบำรุงริมฝีปากไปในตัวได้อีกด้วยแต่จะไม่มีความเข้มข้นเท่ากับลิปมัน ลิปสติกจะมีทั้งแบบแท่ง แบบหลอด หรือแบบถาดสี ให้ได้เลือกใช้ละแต่โอกาสและความชอบของแต่ละคน
ประโยชน์ของลิปมัน ช่วยอะไร
1. บำรุงริมฝีปาก
ช่วยบำรุงริมฝีปากให้มีความเนียนนุ่ม ให้ความชุ่มชื้น ปกป้องริมฝีปากจากลมและแสงแดดที่พบเจอในชีวิตประจำวันส่งผลให้ริมฝีปากแห้งและแตกลอกเป็นขุย ช่วยเพิ่มความเงาทำให้ริมฝีปากดูสุขภาพดี ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายก็สามารถใช้ได้ ซึ่งปัจจุบันลิปมันเป็นที่นิยมใช้ในทุกเพศและทุกวัย
2. ให้ความชุ่มชื้นกับผิว
นอกจากจะให้ความชุ่มชื้นกับริมฝีปากแล้ว ยังให้ความชุ่มชื้นกับส่วนอื่นๆ ในร่างกายได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นบริเวณนิ้วมือ ข้อศอก หัวเข่า หรือตาตุ่ม บริเวณดังกล่าวเป็นส่วนที่เกิดการแห้งกร้านได้ง่าย และต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ลิปมันจะสามารถให้ความชุ่มชื่น ลดการแตก และยังพกพาสะดวก สามารถทาได้ทุกที่
3. ช่วยลดรอยคล้ำใต้ตา
ปัจจุบันสาวๆ มักจะมีปัญหาใต้ตาช้ำ หมองคล้ำ ดูไม่สดใส จากปัญหาความเครียด การนอนพักผ่อนมาเพียง การจ้องจอเป็นเวลานาน ซึ่งเราสามารถแก้ปัญหาได้แบบเร่งด่วนโดยการใช้ลิปมันที่มีสีชมพูอ่อนๆ ทาบริเวณขอบตาและตามด้วยคอนซีลเลอร์ เพิ่มการแต่งหน้าอีกหน่อย เพียงเท่านี้ก็ทำให้ดวงตาของคุณดูสดใสมากขึ้น
4. ตกแต่งขนคิ้ว
การใช้ลิปมันตกแต่งขนคิ้ว เป็นเทคนิคเล็กๆ ในการแต่งหน้าของสาวๆ ให้สวยและดูดีแบบง่ายๆ เพราะจะช่วยให้ขนคิ้วเรียงเส้นสวย เพิ่มความเงาทำให้คิ้วดูหนาอย่างเป็นธรรมชาติ และจะทำให้ขนคิ้วไม่แข็ง ที่สำคัญเป็นเทคนิคง่ายๆ ที่ทำได้แบบไม่ยุ่งยากและไม่สิ้นเปลืองอีกด้วย
5. ช่วยสครับริมฝีปาก
นอกจากผิวกายที่ต้องบำรุงดูแลแล้ว ริมฝีปากก็เป็นส่วนหนึ่งที่ต้องใส่ใจดูแลเป็นพิเศษ การสครับริมฝีปากเป็นการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่แห้งแลหมองคล้ำออกไป โดยการนำลิปมันมาผสมกับน้ำตาลและน้ำผึ้ง จากนั้นคนให้เข้ากัน นำมาทาบริเวณริมฝีปาก นวดวนไปวนมาให้ทั่วริมฝีปาก ประมาณ 1-2 นาทีแล้วล้างออก จะทำให้ริมฝีปากกลับมาดูสวยอมชมพู
คุณสมบัติของลิปมันที่ดี
1. มีส่วนช่วยในการบำรุง
เป็นตัวช่วยที่ดี และง่ายต่อการบำรุงริมฝีปากที่ลอกเป็นขุย แห้งง่าย และแตกกร้านให้กลับมาชุ่มชื้นอีกครั้ง ดังนั้นจึงควรเลือกที่มีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงริมฝีปากให้กลับมาดูเรียบเนียน นุ่ม อวบอิ่ม และดูสุขภาพดีจนน่ามอง
2. ปกป้องริมฝีปาก
ควรเลือกใช้ลิปมันที่มีสารป้องกันความแห้งกร้านจากแสงแดด ซึ่งอากาศเมืองไทยมีแดดที่ค่อนข้างแรง ส่งผลให้ปากแห้งกร้านและหมองคล้ำได้ง่าย และในตอนนี้ยังเป็นช่วงฤดูหนาวซึ่งในตอนกลางวันอากาศร้อน กลางคืนอากาศจะเย็น รวมไปถึงมลภาวะต่างๆ ที่ต้องพบเจอจากการออกจากบ้านในแต่ละวัน
3. แก้ปัญหาความหมองคล้ำ
นอกจากจะให้ความชุ่มชื้นแก่ริมฝีปากและช่วยลดความแห้งกร้านได้นั้น อีกหนึ่งคุณสมบัติที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ การแก้ปัญหาความหมองคล้ำไม่ว่าจะเกิดจากแสงแดดหรือจากการที่เราใช้ลิปสติกที่มีส่วนผสมของสารที่ก่อให้ปากหมองคล้ำ ให้ปากกลับมาดูอมชมพูแบบธรรมชาติ
4. มีกลิ่นหอมน่าสัมผัส
การเลือกลิปมันที่มีกลิ่นหอมนอกจากจะช่วยให้คนที่ใช้รู้สึกสดชื่น มั่นใจแล้ว ยังทำให้ผู้ที่อยู่ใกล้รู้สึกหอม น่าสัมผัสได้อีกด้วย แต่ต้องเลือกส่วนผสมที่ให้ความหอมแบบธรรมชาติ ไม่ทำร้ายริมฝีปาก โดยต้องดูว่ายี่ห้อนั้นใส่น้ำหอมมากน้อยเพียงใด เพราะหากมากเกินไปอาจส่งผลให้ปากดำคล้ำได้
วิธีแก้ปากดำด้วยวิธีธรรมชาติ
ปัญหาที่คอยกวนใจสาวๆ ที่หาวิธีแก้ยาก นั่นก็คือริมฝีปากที่มีความหมองคล้ำ และแห้ง แตกเป็นขุยง่าย ซึ่งเราจะมาบอกวิธีการแก้ปัญหาปากดำด้วยวิธีธรรมชาติแบบง่ายๆ จากการเลือกใช้วัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติ นอกจากการใช้ลิปมัน เพื่อให้สาวๆ มีริมฝีปากสวยอมชมพูน่าสัมผัสแล้ว จะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกัน
1. บำรุงริมฝีปากด้วยแตงกวาคั้นสด
การนำแตงกวามาคั้นเพื่อให้ได้น้ำแตงกวาแบบสดๆ และนำไปแช่ตู้เย็นไว้ นำสำลี หรือทิชชูชุปกับน้ำแตงกวาคั้น จากนั้นน้ำมามาร์คที่บริเวณริมฝีปาก หรือใครจะนำน้ำแตงกวามาทาที่บริเวณริมฝีปากเลยก็ได้ ทาทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที แล้วจึงล้างออก ทำแบบนี้เป็นประจำทุกวัน ประมาณ 2 – 3 สัปดาห์ จะเห็นว่าริมฝีปากที่คล้ำจะเริ่มมีสีชมพูธรรมชาติ
2. บำรุงริมฝีปากด้วยว่านหางจระเข้
นำต้นว่านหางจระเข้มาปลอกเปลือกให้เหลือส่วนที่เป็นเจล จากนั้นนำไปล้างให้สะอาด เนื่องจากว่านหางจระเข้อาจมีส่วนที่ทำให้ระคายเคืองต่อผิวได้ จากนั้นนำมาทาที่ริมฝีปาก ทิ้งไว้สักพักจนเจลแห้งแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ซึ่งในเจลว่านหางจระเข้นั้นมีฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีในผิวหนัง หากทำเป็นประจำทุกวันจะทำให้ริมฝีปากชุ่มชื้นและอมชมพู
3. บำรุงริมฝีปากด้วยน้ำมันมะพร้าว
น้ำมันมะพร้าวเป็นสารสกัดที่มีประโยชน์มากมาย ซึ่งปัจจุบันมีการนำมาใช้ในด้านเวชสำอางกันอย่างแพร่หลาย มีส่วนช่วยในการบำรุงเส้นผม ผิวหนัง รวมถึงริมฝีปาก เพียงแค่นำปลายนิ้วแตะน้ำมันมะพร้าวแล้วทาบริเวณริมฝีปากทุกวัน จะช่วยลดริมฝีปากแตกลอกและแห้งกร้าน ให้กลายมาเป็นปากที่เนียนนุ่ม อมชมพูได้
วิธีเลือกซื้อลิปมัน
ลิปมัน ไอเทมสำคัญที่สาวๆ ควรเลือกซื้อติดกระเป๋าเครื่องสำอางกันไว้ เนื่องจากว่ามีประโยชน์มากมาย และหาซื้อได้ง่าย ซึ่งมีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกซื้อ แต่สงสัยใช่ไหมว่า เราจะมีวิธีเลือกซื้อที่คุ้มค่าและตอบโจทย์ตัวคุณมากที่สุดได้อย่างไร มาดูเทคนิคการเลือกซื้อกัน
1. เลือกซื้อจากส่วนผสม
เพื่อประสิทธิภาพและการบำรุงริมฝีปากของเราอย่างเหมาะสม ก่อนอื่นต้องเลือกลิปมันที่มีส่วนผสมของน้ำมันชนิดดี เช่น วิตามินอี , วิตามินบี , วิตามินซี , น้ำมันทีทรี , น้ำมันดอกเสจ และน้ำมันสวีทอัลมอนด์ เป็นต้น ซึ่งส่วนผสมเหล่านี้จะช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ริมฝีปากได้ดี และไม่เหนียวเหนอะหนะอีกด้วย
2. มี SPF ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด
เป็นที่รู้กันดีว่าบ้านเรามีแดดที่ค่อนข้างแรง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ริมฝีปากแห้งกร้าน และหมองคล้ำ ดังนั้นควรเลือกยี่ห้อที่มีส่วนผสม หรือ มีค่า SPFที่มากพอจะเป็นอีก 1 ตัวช่วยที่นอกจากจะช่วยบำรุงแล้วยังปกป้องริมฝีปากไปในตัว เมื่อต้องเจอแสงแดดที่แรงแค่ไหนเราก็ไม่กลัว
3. หลีกเลี่ยงส่วนผสมที่มีน้ำหอม
นอกจากจะต้องเลือกที่มีส่วนผสมที่มีส่วนช่วยในการบำรุงและปกป้องริมฝีปากแล้ว ยังต้องเลือกที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม และเมนทอลอีกด้วย หากถูกใจและหลีกเลี่ยงไม่ได้ ให้เลือกที่มีส่วนผสมน้อย เพราะน้ำหอม และเมนทอล จะก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ และยังทำให้ปากหมองคลำได้
อาการแพ้ลิปมัน และวิธีแก้ไข
อาการแพ้ลิปมันที่ต้องระวัง
สำหรับอาการแพ้ลิปมันจะแบ่งเป็นอาการแพ้ภายในและภายนอก
- อาการแพ้ภายนอก อาการเริ่มแรกจะมีริมฝีปากแห้ง ปากลอก หมองคล่ำ คันที่บริเวณริมฝีปาก จากนั้นเริ่มบวมแดง มีอาการแสบร้อนและอาจมีตุ่มขึ้น ซึ่งหากมีอาการที่รุ่นแรง อาจจะมีตุ่มที่เริ่มโตและใสเป็นพองๆ
- อาการแพ้ภายใน ที่ต้องสังเกตอาการของตัวเอง คือมีอาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้ ระคายเคืองที่บริเวณลำคอ ท้องเสีย และอาจรุ่นแรงถึงขึ้นหายใจไม่สะดวก
วิธีแก้ไข
หากมีอาการดังกล่าว ควรหยุดใช้ลิปมันยี่ห้อนั้นทันที และให้ทำการประคบเย็นเพื่อช่วยเพื่อลดอาการบวม อาการคันและลดการอักเสบที่เกิดขึ้นบริเวณริมฝีปาก หากปากแห้ง หรือปากลอก ห้ามแกะหรือเลียริมฝีปากเด็ดขาด เพราะอาจเกิดการติดเชื้อและการอักเสบได้ และหากมีอาการที่รุนแรงควรไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างถูกวิธีและทานยาตามแพทย์สั่ง ไม่ควรซื้อยามารักษาเองเพราะอาจเกิดอาการแทรกซ้อนได้
ควรทาลิปมันตอนไหน
การทาลิปมันขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของเรา หากต้องการบำรุงแบบเร่งด่วน ให้ทาที่ริมฝีปากซ้ำไปซ้ำมาให้หนาๆ ก่อนนอน เพราะจะช่วยบำรุงริมฝีปากที่แห้งกร้าน ลอกเป็นขุย ให้กลับมาชุ่มชื้น ดูเรียบเนียนภายในชั่วคืนในขณะที่คุณหลับ และหากต้องการเพิ่มความเงาวาว ปากอวบอิ่มดูสวยสุขภาพดี ให้ทาหลังทาลิปสติกอีกครั้งแต่ต้องรอให้ลิปสติกแห้งเสียก่อน เพียงเท่านี้ริมฝีปากของคุณก็จะกลับมาสวยอีกครั้ง
เปิดกรุ “ลิปมัน”
สรุป
พอจะเห็นความสำคัญของลิปมันกันแล้วใช่ไหม ว่ามีความจำเป็นกับริมฝีปากของเราอย่างไร ซึ่งริมฝีปากเป็นส่วนที่โดดเด่นที่สุดบนใบหน้า สามารถสร้างแรงดึงดูดจากคนรอบข้าง สร้างบุคลิกภาพที่ดีให้คุณดูสวย สุขภาพดี
การเลือกใช้ลิปมันที่เหมาะสมนั้น จะเป็นตัวช่วยง่ายๆ ให้กับคุณ เพราะหากมองมาแล้วปากแห้งกร้าน ลอกเป็นขุย จะทำให้รู้สึกว่าคุณมีสุขภาพที่ไม่ดี รู้แบบนี้แล้วลองเลือกซื้อติดตัวไว้สักแท่งเพื่อแก้ปัญหาปากแห้ง ปากดำ ลอกเป็นขุย ให้กลายมาเป็นริมฝีปากที่เรียบเนียนอมชมพู ดูชุ่มชื้น เนียนนุ่ม น่าสัมผัสกันเถอะ
นามปากกา เถาองุ่น การศึกษาจบปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เป็นนักรีวิวผลิตภัณฑ์ด้านการบำรุงผิวโดยเฉพาะ ทั้งผิวกาย ผิวหน้า ความงาม และเป็นผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายมาแล้วหลายยี่ห้อ
ลิปมัน BIOAQUA
-กลิ่นหอม ติดทนนาน มีให้เลือก 7 สูตร
-ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่ริมฝีปาก ดูมีน้ำมีนวลขึ้น
ลิปมัน DHC
-เหมาะสำหรับเป็นไพรเมอร์ก่อนลงลิปสติก
-ไม่ทำให้เกิดรอยหรือคราบเป็นเส้นบนริมฝีปาก
ลิปมัน Carmex
-ลิปบาล์มแบบแท่งรสทับทิมพร้อม SPF15
-ช่วยในการดูแลริมฝีปากชุ่มชื้น ไม่แห้ง แตก ดำ
ลิปมัน Vaseline
-เหมาะสำหรับ ผิวแห้ง ผิวแห้งคัน ผิวแห้งแตก
-ช่วยลดริ้วรอยความแห้งกร้านให้ปากนุ่ม ชมพูระเรื่อ
ลิปมัน K.A.
-ช่วยบำรุงอย่างลึกล้ำ ให้ริมฝีปากหอม นุ่ม น่าสัมผัส
-มีส่วนผสมของวิตามิน E เข้มข้น ทาง่าย ไม่เหนียวปาก
ลิปมัน Eucerin
-ช่วยปกป้องจากรังสี UV พร้อม SPF20
-ช่วยบำรุงริมฝีปากนุ่มชุมชื้น ไม่มีน้ำหอมและสารแต่งสี
ลิปมัน SEBAMED
-ช่วยปกป้องริมผีปากจากแสงแดด SPF 30
-ฟื้นฟูริมฝีปากที่แห้งแตกให้กลับเรียบเนียนด้วยวิตามินอี
ลิปมัน Mentholatum
-ช่วยล็อคความชุ่มชื่นไว้ได้ยาวนาน ปราศจากน้ำหอม
-เนื้อครีมจะละลายและซึมเข้าบำรุงริมฝีปากทันทีที่ทา
ลิปมัน Lip ice
-กลิ่นส้ม หอม ให้ความชุ่มชื่นยาวนาน 10 ชม.
-ช่วยให้ริมฝีปากเอิบอิ่ม เนียนนุ่มด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ
ลิปมัน เภสัช
-ช่วยบำรุงและฟื้นฟูริมฝีปากที่แห้งเสีย
-เนื้อเจลสีชมพู กลิ่นเชอร์รี่ สารสกัดจากธรรมชาติ